10. การประเมินบุคคลด้วยการสอบข้อเขียน : การสอบภาค ก.
"การประเมินบุคคลด้วยการสอบข้อเขียน
: การสอบภาค ก."
จากการที่ผู้เขียนได้เขียนบันทึก เรื่อง
“เครื่องแบบพิธีการของพนักงานราชการ พ.ศ. 2552”
และมีผู้เขียนถามในกระทู้ เกี่ยวกับเรื่อง การสอบบรรจุพนักงานราชการ
กับการสอบบรรจุข้าราชการ นั้น มีความแตกต่างกันอย่างไร?
ผู้เขียนได้อ่านบทความของ คุณภมรพรรณ วงศ์เงิน
ซึ่งเขียนเรื่อง “การประเมินบุคคลด้วยการสอบข้อเขียน
: การสอบภาค ก. ในหนังสือกระแสคน กระแสโลก
จึงเห็นถึงความแตกต่างของการสอบพนักงานราชการและการสอบบรรจุข้าราชการ
ที่จะสามารถนำมาเป็นคำตอบให้กับ พนักงานราชการ (บางคน)
ที่เกิดความสงสัย เคลือบแคลงในการสอบบรรจุของทั้ง 2
ประเภท เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง
ผู้เขียนจึงขอนำบทความของคุณภมรพรรณ วงศ์เงิน
มาชี้แจงให้กับพนักงานราชการได้ทราบ ดังนี้ :
การสอบในภาครัฐที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยนั้น ก็คือ การสอบภาค
ก.
ซึ่งเป็นการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ
ซึ่งดำเนินการโดย ก.พ.
เป็นการประเมินบุคคลด้วยการสอบข้อเขียนถือว่าเป็นการประเมินบุคคลในขั้นตอนแรก
หากแต่ยังมีทั้งการประเมินความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง
(ภาค ข.) และการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค.)
อีกเช่นกัน
สำหรับการสอบข้อเขียนในการประเมินภาคความรู้ความสามารถทั่วไป
(ภาค ก.) เป็นแบบวัดความสามารถทั่วไป (General Ability Tests)
ซึ่งจะวัดความสามารถทางสมองขั้นพื้นฐาน เช่น ภาษา
ตัวเลข และทักษะการใช้เหตุผล
ทักษะเหล่านี้มีความจำเป็นและเป็นพื้นฐานสำหรับความสำเร็จในหลาย ๆ
ตำแหน่งงาน
อนึ่ง
การสอบข้อเขียนในการประเมินภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) ซึ่ง
ก.พ. เป็นผู้ดำเนินการนั้น เป็นแบบทดสอบที่วัดความสามารถทางสมอง
ซึ่งจะช่วยเป็นตัวทำนายถึงศักยภาพและความสามารถในการเรียนรู้หรือพัฒนาต่อเพื่อให้เกิดความสำเร็จในอาชีพ
อีกทั้งการใช้แบบทดสอบข้อเขียนในลักษณะเช่นนี้จะช่วยให้การดำเนินการสอบเกิดความคล่องตัวมากขึ้น
โดยเฉพาะกับการสอบเข้ารับราชการที่มีผู้สมัครเป็นจำนวนนับแสนราย
ถือว่าเป็นการคัดกรองในเบื้องต้นโดยใช้การสอบข้อเขียน
หากกล่าวถึงหลักสูตรการสอบความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) ของ ก.พ.
ที่ได้กำหนดไว้ในหนังสือเวียนสำนักงาน ก.พ.
จะมีรายละเอียดของหลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งประเภททั่วไป
ระดับปฏิบัติงานและตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ
ดังนี้ :
การทดสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป
(ภาค ก.) ให้ใช้วิธีการสอบข้อเขียน ซึ่งประกอบด้วย
-
วิชาความสามารถทั่วไป :
ทดสอบความสามารถทางด้านการคิดคำนวณ
การประยุกต์ใช้ความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์เบื้องต้น
การวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของจำนวนหรือปริมาณ
การแก้ปัญหาเชิงปริมาณและข้อมูลต่าง ๆ อีกทั้ง
ทดสอบ ความสามารถด้านเหตุผล
การคิดหาความสัมพันธ์เชื่อมโยงของคำ ข้อความหรือรูปภาพ
การหาข้อยุติ หรือข้อสรุปอย่างสมเหตุสมผลจากข้อความ
สัญลักษณ์ สถานการณ์หรือแบบจำลองต่าง ๆ
-
วิชาภาษาไทย :
ทดสอบความเข้าใจภาษา
ความสามารถในการอ่านและการทำความเข้าใจกับบทความหรือข้อความที่กำหนดให้แล้วตอบคำถามที่ตามมาในแต่ละบทความหรือข้อความ
รวมทั้งการสรุปความและตีความ อีกทั้ง ทดสอบ
การใช้ภาษา
การเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำ
การเขียนประโยคได้ถูกต้องตามหลักภาษาและการเรียงข้อความ
จากหลักสูตรการสอบข้อเขียนในภาค ก. นั้นจะเห็นได้ว่า
ไม่ได้มุ่งเน้นการวัดเนื้อหาที่ซับซ้อนหรือเชิงเทคนิค
แต่เป็นการวัดเนื้อหาความรู้ขั้นพื้นฐานต่าง ๆ เท่านั้น
อย่างไรก็ตามการเข้าบรรจุรับราชการของไทยนั้น
นอกจากจะต้องสอบภาค ก. แล้วยังมีการสอบในภาค ข. และ ภาค ค.
อีกด้วย
หากกล่าวถึงการสอบในภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.)
นั้น คือ
การทดสอบความรู้ความสามารถที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่
โดยเฉพาะตามที่ระบุในกรอบการกำหนดตำแหน่ง
โดยส่วนใหญ่อาจใช้วิธีการประเมินจากการสอบข้อเขียน
การสอบปฏิบัติ
หรือวิธีอื่นใดก็ได้ที่สามารถประเมินความรู้ความสามารถที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของตำแหน่งนั้น
ๆ
และขั้นตอนสุดท้ายของการสอบเข้ารับราชการ
ก็คือ การสอบในภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค.)
ซึ่งเป็นการประเมินบุคคลเพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่จากประวัติส่วนตัว
ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน
จากการสังเกตพฤติกรรมที่ปรากฏของผู้เข้าสอบและจากการสัมภาษณ์
ซึ่งการสัมภาษณ์จะเป็นวิธีการประเมินในภาค ค.
ที่นิยมใช้กันมาก โดยในขณะสัมภาษณ์จะพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่าง ๆ
เช่น ความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานในหน้าที่
ความสามารถ ประสบการณ์ บุคลิกภาพ การพูด
อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ จรรยาบรรณ
คุณธรรม จริยธรรม การปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน
ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ เป็นต้น
นอกเหนือจากการสัมภาษณ์แล้ว อาจใช้เครื่องมืออื่น
ๆมาประกอบการพิจารณาด้วย เช่น
แบบทดสอบด้านจิตวิทยาซึ่งเป็นแบบทดสอบที่ประเมินพฤติกรรม
คุณธรรมหรือค่านิยมของบุคคลนั้นด้วย
การประเมินบุคคลด้วยการสอบข้อเขียนภาค
ก.
ซึ่งเป็นการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ
ดำเนินการโดย ก.พ. นั้น
นับเป็นสนามสอบที่ใหญ่มากทีเดียวเมื่อเทียบกับจำนวนผู้สมัครนับแสนราย
การคัดกรองคนด้วยการใช้แบบทดสอบในลักษณะที่กล่าวมาข้างต้นนั้น
จึงถือว่าเป็นเครื่องมือขั้นแรกในการร่อนตะแกรงหาคนที่สามารถทำนายถึงพฤติกรรมและศักยภาพในการทำงาน
นอกจากนั้นหากบุคคลใดสามารถผ่านตะแกรงแรกเข้ามาแล้วก็ต้องเข้าประเมินต่อในภาค
ข. และภาค ค. ซึ่งเป็นเสมือนประตูด่านสำคัญเช่นกัน
อย่างไรก็ตามการจะสร้างระบบราชการที่ดีและมีประสิทธิภาพนั้น
ข้าราชการเป็นบุคลากรที่สำคัญยิ่ง ที่ช่วยขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศ
ดังนั้น ไม่ว่าบุคคลใดที่ได้เข้ามาสู่ระบบราชการแล้ว
ต้องปฏิบัติงานแบบมืออาชีพ
ต้องปรับปรุงและพัฒนาแนวคิดและพฤติกรรมการปฏิบัติงานอยู่เสมอ
เพื่อให้ระบบราชการไทยเข้มแข็งและเป็นฐานที่แข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น
ในการที่จะช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่เวทีแห่งสังคมโลกอย่างสง่างามและภาคภูมิ...
ที่มา : ภมรพรรณ
วงศ์เงิน หนังสือกระแสคน กระแสโลก สำนักงาน
ก.พ.
หน้า 113 – 116 เล่ม 5
กันยายน 2553
(เปิดโลกความรู้
พัฒนาทุนมนุษย์)
เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์
วันที่ 8 – 14 พฤษภาคม 2552