happy = ความสุข สบายใจ
pleasure = ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน พอใจ
ดังนั้นความสุขที่สมบูรณ์ และ ยั่งยืน ควรเป็นความสุขที่แท้จริง (จึงไม่น่าจะเป็น pleasure)
ความสุขที่แท้จริง เกิดจากการทำงานด้วยความพอใจจนเกิดความสุขเมื่อกำลังทำงาน จึงไม่ต้องการความสุขชนิดใหนอีก
True happiness is born out of working with a sense of contentment till happiness emerges while still immersed in work.
จาก: มรดกที่ 140 หนังสือมรดกที่ขอฝากไว้ (A consigned legacy ) พุทธทาสภิกขุ
สวัสดีครับท่านรอง
ไปเข้าเรยน วปอ.มาได้Pleasureครับ
เรียนท่านอาจารย์
ขอบคุณมากครับที่เข้ามาแลกเปลี่ยนแนวคิด
ในมุมมองของผม ที่ผมมองต่างจากอาจารย์ ผมมองอย่างนี้ครับ
ที่อาจารย์แปลว่า
happy = ความสุข สบายใจ
pleasure = ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน พอใจ
ผมแปลอย่างนี้ครับ
happy = ความสุข
pleasure = ความยินดี
ที่อาจารย์บอกว่า
ดังนั้นความสุขที่สมบูรณ์ และ ยั่งยืน ควรเป็นความสุขที่แท้จริง (จึงไม่น่าจะเป็น pleasure)ความสุขที่แท้จริง เกิดจากการทำงานด้วยความพอใจจนเกิดความสุขเมื่อกำลังทำงาน จึงไม่ต้องการความสุขชนิดใหนอีก
pleasure ของผม จึงไม่ได้หมายถึง ความสุขที่แท้จริง ที่ไม่ต้องการความสุขชนิดไหนอีก ยังไปไม่ถึงครับ pleasure ในมุมมองของผม เป็นความสุขที่เกิดจากความภาคภูมิใจที่ได้ทำความดี ทำงานเพื่อส่วนรวม เช่น ทอดไข่ให้เพื่อนกิน อย่างนี้ก็เป็นความสุขแบบ pleasure แล้วครับ และ ก็ไม่ใช่เป็นความสุขที่แท้จริงแต่อย่างใด
ผมมีมุมมองความสุขแบบโลกๆ แบบโลกียะ ครับ ยังไปไม่ถึงความสุขทางธรรมแบบโลกุตระ
ขอบคุณครับ
สวัสดียามเช้าครับท่านรอง
มารับสาระดี ๆ ยามเช้าครับ
ท่านอาจารย์ครับ ผมอ่านหนังสือเกี่ยวกับสมองเล่มหนึ่งครับ
ความสนุก ความเพลิดเพลิน ความสุข เป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ครับ สมองส่วนการเรียนรู้จะเปิด ถ้าไม่ผ่านเงื่อนไขนี้ สมองก็ปิดครับในทางบรหารธุรกิจก็ยังต้องเริ่มต้นจากเรืองเดียวกันเลยครับ
ขอบพระคุณสำหรับอาหารสองนะครับ ทำให้ได้คิดต่ออีกครับ
ที่อาจารย์ยกมาดีมากเลยครับ เป็นเรื่องของ BBL
ความสนุก ความเพลิดเพลิน ความสุข เป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ครับ สมองส่วนการเรียนรู้จะเปิด ถ้าไม่ผ่านเงื่อนไขนี้ สมองก็ปิด
ผมขอเสริมในเรื่องเดียวกันครับ
สมองจะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ 2 ส่วน คือ สมองใหญ่และสมองน้อย
สมองใหญ่ เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ "คิดและจำ"
สมองน้อย เป็นส่วนควบคุมการเคลื่อนไหว ที่เขียนว่า cerebellum สมองน้อย หน้าที่หลัก ทำให้เกิดความสนใจ จดจ่อ กระตุ้นพัฒนาการทางภาษา การสร้างสมาธิ
ปัญหาที่ทำให้ไม่เกิดการเรียนรู้ คือ
คุณครูมักป้อนข้อมูลผ่านการพูดของครู เพื่อให้เข้าไปในหูของผู้เรียน โดยหวังไว้ข้อมูลดังกล่าวจะเข้าไปอยู่ในสมองผู้เรียนได้เลย ซึ่งจริงๆแล้ว เป็นการสอนที่ข้ามขั้นตอนการทำงานของสมองไปครับ จึงทำให้ไม่เกิดการเรียนรู้
นั้นคือ กว่าที่จะให้ผู้เรียนเก็บความรู้ไว้ในสมองได้ ต้องให้สมองทำงานถึง 2 ขั้นตอน ครับ
ขั้นตอนแรก ต้องให้สมองน้อยทำงานก่อนครับ ต้องกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ
ชั้นตอนที่สอง จะให้เรียนรู้ได้ ต้องให้สมองทั้ง 3 ส่วน ทำงานพร้อมกันครับ นั่นคือจะต้องเสนอข้อมูลด้วย
1. ภาพ 2. เสียง 3. เคลื่อนไหว
จะต้องให้สมองทำงานถึง 2 ขั้นตอนครับ จึงค่อยไปถึงขั้นตอนที่สาม สมองส่วนความคิดและความจำ จึงจะทำงาน
ขออนุญาตต่อยอดความยินดีจาก Pleasure ไปยังความพึงพอใจ ตามความมุ่งมั่นปรารถนา "Passion" เชื่อมโยงไปยัง "ฉันทะ" ด้วยนะครับ
เรียนท่านอาจารย์
อ่านแล้วได้ข้อคิดดีดีให้กับชีวิตมากขึ้นคะ
สวัสดีครับ ผมเป็นสมาชิกใหม่คับ อยากร่วมแสดงความคิดเห็นบ้างแต่ไม่ถนัดเขียนคับ ชอบอ่านมากกว่า ขอบคุณทุก ๆ คนนะคับที่เขียนให้อ่าน
ศุกร์สวัสดีค่ะท่านรองหนุ่มเล็ก
อ่านแล้วรู้สึกดีๆ นึกถึงเวลาใครเอ่ย thank you เราจะส่งยิ้มพิมพ์ใจแล้วตอบกลับไปว่า with my pleasure
สุขสันต์วันพระ เพลิดเพลินนะคะคุณพ่อเด็กม. สี่ :)
ขอบคุณมากครับ คุณพุ้งพิ้ง เช้ามาอ่าน