ก็ไปดูและไปร่วมทีมงานจัดเวที DW มาหลายครั้ง แต่ละที่จะมีความหลากหลายและต่างรูปแบบกัน บางที่มีแต่การแจ้งข้อมูลข่าวสาร บางที่มีการพัฒนาเจ้าหน้าที่ และบางที่ก็นำเกษตรกรเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้
เวทีที่มีชีวิตที่ดิฉันคิดก็คือ ได้ทั้งอารมย์และได้เนื้อหาสาระ จึงขอยกตัวอย่างการจัดเวทีเรียนรู้ที่มีชีวิตของจังหวัดกำแพงเพชรในเดือนกรกฎาคม 2549
ภาพที่ 1 กษอ. พรานกระต่าย เป็นผู้จัดชั้นเรียน
ภาพที่ 2 เกษตรกรที่ทำอาชีพสำเร็จมาเล่าให้ฟัง
เริ่มแรกได้เห็น "พัฒนาการการจัดกระบวนการเรียนรู้" ที่มีการปรับเปลี่ยน ที่เริ่มจากเจ้าหน้าที่แลกเปลี่ยนและพัฒนากันเอง แล้วนำทีมงานทั้งหมดไปดูงานในพื้นที่จริง แต่หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นถึงได้ปรับเปลี่ยนเวทีเรียนรู้ให้มีชีวิตขึ้น โดยปัจจุบันแต่ละอำเภอที่เป็นเจ้าของพื้นที่จะต้องค้นหาของดีของเด่นมาเล่าสู่ให้เพื่อน ๆ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ได้ชมได้เห็น คือ เกษตรกรเป็นผู้เล่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง เช่น การทำเกษตรกรผสมผสาน การทำอาชีพเกษตรโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น
ภาพที่ 3 บรรยากาศการจัดชั้นเรียน DW
จังหวัดและส่วนกลาง เสริมเนื้อหาให้กับเจ้าหน้าที่
ขณะมีการเล่าประสบการณ์ แต่ละคนต่างแยกย้ายทำหน้าที่บันทึกข้อมูล ประมาณ 2-3 คน หลังจากนั้นก็จะทำการสรุปข้อมูลร่วมกัน แล้วจึงไปดูของจริงที่บ้านของเกษตรกร สิ่งที่เห็นคือเจ้าหน้าที่จะซักถามเกษตรกรกันยกใหญ่ แล้วก็หันมาหารือกันเอง แล้วก็จะมาพบกันอีกครั้งที่ชั้นเรียนเพื่อรับความรู้เสริมจากเนื้องานที่แต่ละคนต้องทำให้กับองค์กร เช่น เครือข่าย กลุ่ม เป็นต้นส่วนการควบคุมเวทีหรือชั้นเรียนจะเป็นบทบาทของเกษตรอำเภอ
ภาพที่ 4 การทำหน้าที่ของคุณบันทึก ต่างใช้เครื่องมือที่แตกต่างกัน
ฉะนั้นถามว่า "ทำอย่างไร? ให้เจ้าหน้าที่อยู่ได้จนครบทุกคนจนถึงการปิดเวที" คำตอบก็คือ เขามีการเรียบเรียงและจัดเนื้อหาให้น่าสนใจเช่น นำผู้รู้จริง ๆ มาพูดมาเล่า เขาพาของจริงมาให้ดูให้ชม เขานำเนื้อหาวิชาการที่ทุกคนมีจุดอ่อนแต่จำเป็นต้องใช้งานมาเสริมให้ และ เขาค่อยเอาข้อมูลข่าวสารมาแจ้งให้ฟังเป็นรายการสุดท้าย ที่สำคัญเขายกเวทีนี้ให้กับทุกคนเป็นเจ้าของ.