โดยทั่วไปแล้ว การวิจัยปฏิบัติการสังคมแบบ PAR มักมุ่งสนองตอบต่อความจำเป็นและความหลากหลายที่มีอยู่ในชุมชน ซึ่งลักษณะปัญหาตลอดจนบทเรียนความริเริ่มสร้างสรรค์ต่างๆในระดับชุมชนต่างๆนั้น โดยมากแล้วก็จะมีขีดจำกัดต่อการแก้ปัญหาเชิงระบบและการที่จะนำไปสู่การก่อเกิดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง ที่สำคัญก็คือ
-
เป็นกรณีความจำเป็นส่วนน้อย : ความเป็นจริงของการแก้ปัญหาหรือริเริ่มนำความเปลี่ยนแปลงต่างๆในสังคมและชุมชนระดับต่างๆนั้น ในความเป็นจริงแล้วจะมีความเชื่อมโยงกับระบบสังคมและสิ่งแวดล้อมอันซับซ้อน แต่ประเด็นปัญหาและบทเรียนจากการวิจัยแบบ PAR จะเป็นวิถีทางเลือกและเป็นกรณีชายขอบ จึงมักจะขาดการรับรู้ ถูกละเลยทอดทิ้ง และขาดการส่งเสริมเกื้อหนุนจากสังคมและสภาพแวดล้อมรอบข้าง
-
อยู่นอกความสนใจของสังคม : ความริเริ่มต่างๆตลอดจนการก่อเกิดภูมิปัญญาปฏิบัติบนกระบวนการวิจัยปฏิบัติการสังคมแบบ PAR มีความเข้มแข็งในการนำไปสู่การปฏิบัติและแก้ปัญหาได้จริง แต่ความเป็นทางเลือกและเป็นส่วนน้อยที่มักแตกต่างไปจากกระแสส่วนรวมของสังคม ดังนั้น ก็จะขาดเครือข่ายและแรงสนับสนุนทางสังคม ทำให้สังคมเกิดความสูญเสียความเป็นชุมชน ไม่สามารถสร้างและสั่งสมภูมิปัญญาชาวบ้านในระดับฐานรากอย่างเป็นตัวของตัวเองได้
ลักษณะปัญหาและเงื่อนไขความจำเป็นที่เกิดขึ้นดังกล่าวนี้ ทำให้การวิจัยปฏิบัติการสังคมแบบ PAR นอกจากจะมุ่งแก้ปัญญหาระดับปฏิบัติเป็นกรณีจำเพาะแล้ว ก็มีความจำเป็นที่จะต้องเชื่อมโยงกับพลังทางสังคมตลอดจนเชื่อมโยงกับเครือข่ายการบริหารจัดการความเป็นสาธารณะที่เป็นระบบนิเวศสุขภาวะสังคมชุมชนด้วย เพื่อสังคมรอบข้างจะได้เป็นสภาพล้อมที่ส่งเสริมในทางอ้อมในระดับที่อยู่เหนือความสามารถของปัจเจกและชุมชนชาวบ้าน ซึ่งแนวทางหนึ่งก็คือปฏิบัติการสังคมเพื่อเคลื่อนไหวระบบสังคมและสร้างกระแสสังคมผ่านปฏิบัติการเพื่อสร้างแรงสนับสนุนและการสนองตอบจากกลุ่มผู้นำทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมทั้งสร้างกระแสสังคมให้เกิดแรงสนับสนุนอย่างสอดประสานกันโดยปฏิบัติการทางสื่อ
เงื่อนไขเครือข่ายชุมชนผู้นำและสื่อมวลชนที่มีนัยยะต่อการออกแบบกระบวนการวิจัยแบบ PAR
-
ระดับบุคคลมีเวลาจำกัด : กลุ่มผู้นำสาขาต่างๆไม่มีเวลามากและไม่สามารถที่จะเข้าถึงรายละเอียดที่ซับซ้อนเกินไป
-
ระดับกลุ่มจะรวมตัวให้พร้อมกันอยาก : กลุ่มผู้นำสาขาต่างๆเป็นชุมชนผู้นำเพียงส่วนน้อยแต่ต้องมีความรับผิดชอบมาก ดังนั้น จึงเป็นกาารยากที่จะสามารถมีเวลาว่างที่เพียงพอสำหรับมีส่วนร่วมกิจกรรมหนึ่งใดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อีกทั้งเป็นการยากที่ผู้นำในสาขาต่างๆจะสามารถจัดเวลาให้ว่างในช่วงเวลาเดียวกันได้
-
ไม่มีพลังความน่าสนใจจากสื่อกระแสหลัก : สื่อมวลชนไม่มีกำลังคนสำหรับเข้าถึงกิจกรรมและเหตุการณ์ต่างๆของสังคมได้อย่างทั่วถึงเพียงพอ และจะให้เป็นฝ่ายแสวงหาวัตถุดิบและข้อมูลสำหรับนำไปเผยแพร่ทางสื่อโดยตนเองแต่เพียงลำพัง เรื่องของชุมชนและประเด็นส่วนรวมในทางเลือกที่เป็นกิจกรรมการวิจัยแบบ PAR ก็จะเป็นเรื่องที่ไม่อยู่ในความสนใจ
ระดมพลังวิจัยเพื่อจัด Event และจัดเดินเรียนรู้ชุมชนอย่างมีพลังสำหรับกลุ่มผู้นำและสื่อมวลชน
ด้วยความจำเป็นเพื่อเคลื่อนไหวระดมพลังสังคม รวมทั้งจำเป็นต้องสร้างปัจจัยแวดล้อมที่จะเป็นแรงสนับสนุนทางสังคม ตลอดจนจำเป็นที่จะต้องสะท้อนบทเรียนและถ่ายทอดภูมิปัญญาต่างๆ ผ่านวิธีสื่อสารกับสังคมและสร้างการสนับสนุนจากเครือข่ายหน่วยงานและองค์กรต่างๆทั้งภาครัฐและธุรกิจเอกชน ทว่า กลับมีข้อจำกัดเป็นอย่างยิ่งดังที่กล่าวมาในข้างต้น การออกแบบกระบวนการและปฏิบัติเชิงยุทธศาสตร์ผ่านกระบวนการวิจัยแบบ PAR ก็จะเอื้อให้เราสมารถดำเนินการปฏิบัติการสังคมได้อย่างเหมาะสมและเพียงพอต่อการแก้ปัญหาดังกล่าวให้สามารถบรรลุจุดหมายร่วมกันได้เป็นอย่างดี เช่น
-
จัดเวทีชุมชน นำเสนอกิจกรรมของกลุ่มก้อน และเดินสัมผัสกิจกรรมที่สร้างประสบการณ์เชื่อมโยงไปสู่ประเด็นการนำเสนอต่อกลุ่มผู้นำและสื่อมวลชนได้อย่างดี เพื่อนำเสนอข้อมูลอย่างมีพลังในระยะเวลาอันรวดเร็ว ภายในครึ่งชั่วโมงหรืออย่างมากที่สุดก็ภายใน ๑ วัน
-
จัดเอกสารข้อมูล สำหรับสื่อมวลชนและสื่อเครือข่ายผู้นำ ซึ่งเรียกว่า Press Release (จะได้อธิบายโดยละเอียดในภายหลัง) ที่ได้ประเด็นเด่นชัดและมีข้อมูลเพียงพอสำหรับการตอบคำถามและนำไปสื่อสะท้อนหรือเคลื่อนไหวขยายผล ต่อไปทั้งโดยทางสื่อ และโดยการร่วมเป็นปากเสียงของเครือข่ายผู้นำ ประกอบด้วย What Who When Why How หรือ 4W1H
-
จัดกลุ่มผู้นำที่เหมาะสม เข้าถึงและประสานงานเครือข่ายผู้นำและสื่อมวลชนตามที่ต้องการ
พลังการวิจัยแบบ PAR และการออกแบบเพื่อดำเนินการในแนวนี้
-
ค้นหาจุดสนใจที่ดีและมีพลังต่อการอธิบายสิ่งต่างๆ : ระบุประเด็นปัญหาหรือความน่าสนใจที่โดดเด่นและมีความเชื่อมโยงกับเรื่องราวอื่นๆทั้งหมดของชุมชนได้เป็นอย่างดี เพื่อให้เป็นหัวข้อหลักและเป็นตัวเปิดประเด็นความสนใจ นำไปสู่การสื่อสารและนำเสนอเรื่องราวต่างๆต่อไปได้ตามที่ต้องการ
-
สร้างความรู้และข้อมูลเพื่อสื่อกับสังคม : ระดมกลุ่มประชาคมสร้างความรู้และเรียนรู้อย่างลึกซึ้งทั้งตนเองและความเป็นชุมชนของตนเองในมิติต่างๆ โดยเน้นประเด็นที่ได้เลือกร่วมกัน ซึ่งนอกจากจะทำให้ได้ข้อมูลเตรียมการนำเสนอต่อกลุ่มผู้นำและสื่อมวลชนตามที่ต้องการได้เป็นอย่างดีแล้ว กระบวนการวิจัยดังกล่าวในขั้นตอนอย่างนี้ ก็จะเสริมสร้างศักยภาพกลุ่มนักวิจัยชาวบ้านให้มีความเข้มแข็ง สามารถลุกขึ้นพูด สื่อสาร และนำเสนอสิ่งต่างๆในนามของตนเองและด้วยตนเองได้
-
ค้นหาสื่อตัวอย่างของจริง : ร่วมกันวิจัยในวิถีชาวบ้านเพื่อเข้าถึงกรณีตัวอย่างที่มีความสามารถอธิบายและบอกเล่าตนเองแก่กลุ่มผู้นำและสื่อ ให้สามารถเข้าใจและเห็นภาพสิ่งต่างๆอันเชื่อมโยงได้ในระยะเวลาที่จำกัด ให้ดีที่สุด กรณีตัวอย่าง กิจกรรม ตลอดจนความสามารถเชิญผู้นำสาขาต่างๆให้เข้ามามีส่วนร่วมเวทีที่จะจัดขึ้นมาได้ จะมีความน่าสนใจในการทำรายงานต่างๆของสื่อมวลชนอยู่ในตัวเอง ดังนั้น จึงต้องดำเนินการให้สัมพันธ์กัน
-
รวบรวมและจัดแสดงเพิ่มโอกาสสื่อสารความจริง : จัดเวทีชุมชนและวิเคราะห์สิ่งแสดงที่ให้พลังความคิดและนำไปสู่ความสร้างสรรค์ในอันที่จะเกิดความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างกว้างขวาง
การจัดกิจกรรมและเชื่อมโยงสิ่งที่เตรียมการต่างๆเข้าด้วยกัน
-
จัดกิจกรรมและเวทีสื่อสารกับผู้นำและสื่อมวลชน : จัดกิจกรรมเวทีนำเสนอและสร้างการสื่อสารกับกลุ่มผู้นำและกลุ่มสอื่อมวลชนในเวลาอันสั้น รวดเร็ว และยืดหยุ่นต่อการปรับเปลี่ยนรูปแบบแต่ให้ได้สาระสำคัญเป็นอย่าสงดีที่สุด
-
ทำเอกสารข้อมูลสื่อและนำเสนอช่วยกันหลากหลาย : นำเสนออย่างมีส่วนร่วม พร้อมทั้งแจกจ่างเอกสารสื่อข้อมูลอย่างหลากหลายโดยเน้นรูปแบบที่เป็นธรรมชาติ สื่อสะท้อนชีวิตชุมชนและสามารถดำเนินการต่อไปได้อีกอยู่เสมอในระยะยาว
-
พาเดินเรียนรู้และสัมผัสตัวอย่างของจริง : จัดกรณีตัวอย่างสำหรับการเดินเรียนรู้และสัมพัสชุมชนไว้อย่าวหลากหลาย
-
ทุกคนเป็นนักวิจัยและสื่อชุมชน : เตรียมนักวิจัยชาวบ้านและผู้นำชุมชน ผู้นำกลุ่มก้อน เพื่อนำเสนอช่วยกันให้ดีที่สุด
ในอดีตนั้น กระบวนการดังกล่าวนี้อาจจัดเป็นเวทีผู้นำและใช้รูปแบบอภิปรายหรือเสวนา ซึ่งก็ให้ผลสำเร็จได้เป็นอย่างดี ทว่า ปัจจุบัน หากจะดำเนินการให้ได้ผลด้วยวิธีดังกล่าวนี้ก็คงจะเป็นไปได้ยาก กระบวนการิจัยแบบ PAR ซึ่งออกแบบและดำเนินการดังที่กล่าวมานี้ ก็จะเป็นวิธีปฏิบัติการสังคมบนกระบวนการวิจัยอย่างหนึ่งที่จะส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวด้วยพลังสังคมชุมชนในขอบเขตต่างๆ ตามที่ต้องการในเงื่อนไขที่จำเป็นได้.