วันนี้เราได้ไปเจอหนังสือสวดมนต์เลยหยิบมาเปิดอ่านดู เปิดไปเปิดมาก็ได้เจอบทกลอนกลอนหนึ่งที่ทำให้เราคิดได้ว่าสมัยนี้ ผู้คนไม่ค่อยได้ถือศิลห้าก็เลยหยิบยกมาให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกัน
ถ้าผู้ใดใครประมาทขาดศิลห้า
ก็หมดท่าค่าตัวทั่วทุกสิ่ง
ทั้งทุกข์โศกถมทับอาภัพจริง
ทั้งชายหญิงฟังคำจำให้ดี
เป็นสตรีไม่มีศิลก็สิ้นสวย
บุรุษด้วยไม่มีศิลสิ้นราศี
คนมีทรัพย์อับศิลก็สิ้นดี
เป็นพระชีไม่มีศิลก็สิ้นงาม
เป็นเจ้านายไม่มีศิลก็สิ้นศักดิ์
เป็นผู้หลักไม่รักศิลถูกหมิ่นหยาม
เป็นนักปราญ์ขาดศิลก็เสื่อมทราม
เป็นนางงามไร้ศิลก็เสียทรง
เกิดเป็นคนตนประมาทก็ขาดศิล
เหมือนสูญสิ้นสิ่งของต้องประสงค์
ถ้ามีศิลจะช่วยไม่ซวยลง
ทั้งรูปทรงสวยสิ้นด้วยศิลธรรม
.........
ได้อ่านแล้วเป็นไงบ้างเล่าสู่กันฟังบ้างนะ
บทกลอนดีและสกิดใจมากครับ
พูดถึงศิลธรรมแล้วสมัยนี้ สาวธาตุคิดว่ามันแย่ลงนะ เพราะทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงเยอะ คนเห็นแก่ตัวก็มีมาก กลัวคนอื่นเกินหน้าก็มีเยอะ สรุปแล้วเลยไม่มีใครคิดถึงศิลธรรมและจริยธรรม มีการแกรงแย่งทุกอย่างเป็นของตน คนที่ไม่มีอำนาจหรือคนที่ไม่มีจะกินก็แย่ทำไรไม่ได้ ทำไรก็ผิดเสมอทั้งที่สิ่งที่ทำเขาถูกแต่ไม่มีใครเล็งเห็น เฮ้ย..ว่าไปแล้วนี้หละคือชีวิตของคนปัจจุบัน แต่วันนี้ได้หยิบยกคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ มาให้ทุกท่านได้อ่านกัน
ศิลธรรมเลว คนก็ได้ กลายเป็นผี
หาความดี ไม่ประจักษ์ สักเส้นขน
ศิลธรรมดี ผีก็ได้ กลายเป็นคน
ที่เลิศล้น ภูมิใจ ไหว้ตัวเอง
ศิลธรรมต่ำ เปลี่ยนคน จนคล้ายสัตว์
จะกินกัด โกงกัน ขมันเขม็ง
ศิลธรรมสูง คนสดใส ไม่อลเวง
ล้วนยำเกรง กันและกัน ฉันเพื่อนตาย
ศิลธรรมนี้ ทุกวัน มันตายซาก
คนมีปาก ก็ไม่พล่าม ศิลธรรมหาย
ศิลธรรมกลับ มาเมื่อไร ทั้งใจกาย
คนจะหาย จากทุกข์ เป็นสุขเอง