เพื่อที่จะรับรองสัมพันธภาพระหว่างรัฐและเอกชน กฎหมายของรัฐสมัยใหม่ให้ความสำคัญในการทำ “ทะเบียนคนเกิดและทะเบียนคนตาย” ทั้งนี้ เพื่อที่จะได้ทราบจำนวนของ “ทะเบียนคนอยู่” ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับประเทศไทยก็เช่นกัน มาตรา ๒๖ แห่ง พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ.๒๕๓๔ บัญญัติว่า “ให้นายทะเบียนอำเภอ นายทะเบียนท้องถิ่น แล้วแต่กรณีจัดทำทะเบียนคนเกิดทะเบียนคนตาย จากสูติบัตรและมรณบัตรตามแบบพิมพ์และวิธีการที่ผู้อำนวยการทะเบียนกลางกำหนด”
นานารัฐสมัยใหม่ให้ความสำคัญกับ “สูติบัตร” ซึ่งออกโดยนายทะเบียนราษฎรมาก เพราะเป็นพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักมากที่สุดระหว่างรัฐและบุคคลธรรมดา
สำหรับประเทศไทยในยุคหลังๆ การให้ความสำคัญกับปัญหาการออกสูติบัตรนี้เป็นการผลักดันของ UNICEF และ Plan International แต่ก็ไม่หมายความว่า เมื่อกฎหมายไทย "กำหนดการปฏิบัติหน้าที่" ของนายทะเบียนราษฎรของรัฐในการทำสูติบัตร อย่างชัดเจนแล้ว ทะเบียนคนเกิดของรัฐไทยจะสมบูรณ์ ปัญหาก็ยังมี แต่ปัญหามักเกิดในชั้นการบังคับใช้กฎหมายมากกว่า
วันนี้ ดีใจที่เห็นข่าวเผยแพร่ของ UNICEF และ SWIT ในเรื่องนี้
แต่ก็อยากให้ใช้คำให้ถูกค่ะ ทะเบียนคนเกิดมิใช่ทะเบียนเกิด .. อย่าใช้คำผิด
-------------------------------------------------------------
เผยแพร่อีกด้วยใน
http://www.facebook.com/note.php?saved&¬e_id=498629463833
ขอบคุณครับ อาจารย์แหวว ;)