ผลงานกับการขึ้นเงินเดือนตามผลงาน


ช่วงปลายปีก็เข้ามาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่เหล่าบรรดาหัวหน้างานจะต้องทำการประเมินผลงานลูกน้องของตน เอง และนำเอาผลการประเมินนี้ไปใช้ในการให้รางวัลผลงานกันต่อ ซึ่งก็คือเรื่องของการขึ้นเงินเดือนประจำปีตามผลงานนั่นเอง

การขึ้นเงินเดือนตามผลงานนั้นเป็นเครื่องมือสำคัญในการจูงใจพนักงาน เพื่อให้พนักงานทราบว่าผลงานของเขาเป็นอย่างไร และเป็นตัวบอกว่า องค์กรอยากให้เขาทำงานต่อไปอย่างไร เช่น พนักงานที่สามารถสร้างผลงานได้ดี องค์กรจะอาจจะตอบสนองการทำผลงานดีโดยการขึ้นเงินเดือนตามผลงานให้ในอัตราที่ สูงกว่าพนักงานที่ทำงานผลงานได้กลางๆ หรือไม่ดีนัก ทั้งนี้ก็เพื่อให้พนักงานคนนั้นทราบว่า เขาทำงานได้สำเร็จสูงกว่าที่องค์กรคาดหวัง และองค์กรก็ตอบสนองความสำเร็จนั้นโดยการให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าคนอื่น

แต่ปัญหาในเรื่องของการขึ้นเงินประจำปีตามผลงานนั้นมีมากมายครับ หลายๆ องค์กรขึ้นเงินเดือนให้กับพนักงานแล้วแทนที่จะเป็นการจูงใจพนักงานกลับกลาย เป็นการทำให้พนักงานรู้สึกแย่กว่าเดิมก็มี สาเหตุเท่าที่ผมได้ลองสังเกตจากบริษัทต่างๆ ที่ผมได้เข้าไปให้คำปรึกษาก็มีดังนี้ครับ

  • ระบบประเมินผลงานมีปัญหา ระบบการประเมินผลงานของบริษัทนั่นเองครับ เพราะการขึ้นเงินเดือนตามผลงานนั้น จะต้องนำเอาผลงานของพนักงานตามที่หัวหน้าได้ประเมินไว้มาเป็นปัจจัยพิจารณา ถ้าบริษัทมีระบบการประเมินผลงานที่ไม่ชัดเจน และอาศัยความรู้สึกของหัวหน้างานมากกว่าข้อเท็จจริง หรือหัวหน้างานเองไม่เข้าใจพื้นฐานและความสำคัญของการประเมินผลงาน ก็จะทำให้ระบบการขึ้นเงินเดือนมีปัญหาตามมาแน่นอนครับ
  • หัวหน้างานมีปัญหา บางบริษัทระบบประเมินผลงานค่อนข้างจะทำได้ชัดเจน แต่ปัญหาก็คือเหล่าบรรดาหัวหน้างานที่ทำหน้าที่ประเมินผลงานลูกน้องนั้น ไม่มีความเข้าใจในวิธีการประเมิน และมีความลำเอียงในจิตใจของตนมากเป็นพิเศษ ข้อเท็จจริงในการทำงานเป็นอย่างไรไม่สนใจ แต่สนแค่ว่า พนักงานคนนี้เป็นมือขวาของเรา ผลงานจะดีไม่ดีก็ไม่รู้แต่อยากให้เขาขึ้นเงินเดือนมากกว่าคนอื่น ก็เลยให้ระดับผลงานที่ดีมากไว้ก่อนโดยไม่สนใจว่าผลงานที่แท้จริงเป็นอย่างไร
  • ระบบการขึ้นเงินเดือนมีปัญหา ในการให้รางวัลผลงานที่ดีนั้น ตัวรางวัลที่ให้จะต้องมีความแตกต่างกันระหว่างระดับผลงานในระดับต่างๆกัน กล่าวคือ ผลงาน A จะได้รับอัตราเงินขึ้นที่สูงกว่า B และ สูงกว่า C โดยส่วนใหญ่บริษัทที่มีปัญหาพนักงานไม่ค่อยอยากทำงาน หรือสร้างผลงานที่ดีนั้นก็เกิดจากการที่เขาพยายามสร้างผลงานแล้วแต่รางวัล ที่ได้นั้นกลับไม่แตกต่างกับคนที่ไม่ทำงานเลย ผลก็คือ ไม่มีแรงจูงใจในการสร้างผลงานให้กับองค์กร เพราะทำมากก็ไม่เห็นจะได้มากตาม งั้นทำน้อยๆ ดีกว่า ผมเคยเห็นบางบริษัทมีระดับผลงานแตกต่างกันเพียง 0.5% เท่านั้น พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าพนักงานที่ได้ A ได้เงินขึ้น 1,000 บาท พนักงานที่ได้ B จะได้ 950 บาท คนที่ได้ C จะได้ 900 บาท ฯลฯ เห็นมั้ยครับ ว่าจำนวนเงินต่างกันเพียง 50 บาทเท่านั้น แบบนี้ก็ไม่จูงใจให้คนที่ทำงานดี อยากจะทำงานดีต่อไปครับ

เรื่องของระบบการประเมินผลงาน และระบบการให้รางวัลนั้น แต่ละบริษัทจะต้องออกแบบให้ชัดเจน และเป็นระบบ โดยไม่ใช้ความรู้สึกของหัวหน้างานในการประเมินผลงานมากนัก ปัจจุบันมีการนำเอาตัวชี้วัดผลงานมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งจากประสบการณ์ผมเองนั้นมันก็พอช่วยได้บ้าง การที่จะทำให้ระบบการขึ้นเงินเดือนมีความยุติธรรมและสมเหตุสมผลนั้น จะต้องเริ่มจากระบบความคิดของหัวหน้างานที่มีต่อระบบประเมินผลงานก่อนเลย เพราะส่วนใหญ่นี่คือต้นทางของปัญหาทั้งหมดในการขึ้นเงินเดือนตามผลงาน

คำสำคัญ (Tags): #บริหารผลงาน
หมายเลขบันทึก: 408569เขียนเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2010 05:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ระบบราชการ มีความดี กับความชอบ

ถ้ามีความดี และเจ้านายชอบ โอเค ได้สองขั้น

ถ้ามีความดี และเจ้านายไม่ชอบ โอเค อาจได้ครึ่งขั้น

ถ้าไม่มีความดี แต่เจ้านายชอบ โอเค อาจได้สองขั้นเหมือนกัน

ถ้าไม่มีความดี และเจ้านายไม่ชอบ อาจแป๊กขั้น

ชอบอ่านคะ ติดตามผลงานอยู่เสมอคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท