ยิ่งเดินลึกเข้าไปบนเส้นทางแห่งการฝึกตน ยิ่งทำให้เห็นว่า ตนนี้ยังรู้น้อยอยู่นัก ธรรมเดียวกันนี้ ยิ่งพิจารณา ก็ยิ่งละเอียดลึกลงไปยิ่งนัก จนดูเหมือนว่า ที่เคยรู้มานั้น รู้เพียงผิวเผินเท่านั้นเอง รู้แบบหยาบ ๆ
ธรรมเดียวกันนี้มีความละเอียดลึกซึ้งนัก เห็นแตกต่างกันไปตามจิตตปัญญา หรือ ความสงบ สะอาด สว่างแห่งจิต
เป็นเหตุปัจจัยให้วิธีการปฏิบัติแต่ละอย่างเหมาะกับจิตตปัญญาแต่ละระดับแตกต่างกันไปเป็นธรรมดา ถึงแม้จะเป็นธรรมเดียวกันก็ตามแต่
ธรรมมะคือธรรมชาติ อยู่กับลมหายใจของตัวเองทุกขณะครับอาจารย์ สบายดีไหมครับ
ที่ผ่านมา ผมได้ไปพูดคุยกับกัลยาณมิตรทางธรรม พบว่า "ธรรม" ของผม ยัง พร่อง อยู่มากครับ เนื่องจาก ยังติด "คิดลบ" ยังติด "มองโลกในแง่ลบ" อยู่
พบว่าที่ศึกษาธรรมะเข้าไป ยังไม่ค่อยได้นำเอาไปใช้ครับ ใช้แต่พัฒนาความรู้ทางโลก พัฒนาตัวเองแบบโลกๆ แต่พัฒนาความรู้ทางธรรม ยังไปไม่ถึงไหนครับ
ผมว่าการได้พูดคุยกับกัลยาณมิตรทางธรรม เป็นเรื่องที่ดีมากๆๆๆ เลยครับ แต่ที่ผ่านมา มักจะมีแต่กัลยาณมิตรทางโลกเสียมากกว้าครับ
ทางโลกจึงก้าวนำ แต่ทางธรรมนั้นก้าวถอย
55555...
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ ท่าน อ.ขจิต
สวัสดีครับ ท่านรองฯ small man
"...ผู้ที่เข้าใจผู้อื่น เรียกว่า ผู้มีสติปัญญา ผู้ที่เข้าใจตัวเอง คือ ผู้ที่มีความเห็นแจ้ง
ผู้ที่ชนะคนอื่น คือ ผู้ที่มีกำลัง ผู้ที่ชนะตัวเอง คือ ผู้ที่มีความสามารถ
ผู้ที่รู้จักพอ คือ ผู้ที่มั่งมี ผู้ที่มีความขยัน คือ ผู้ที่มีอุดมคติอันดีงาม
ผู้ที่ไม่ทิ้งรากฐานของตัวเอง คือ ผู้ที่อยู่ได้นาน
ผู้ที่ตายไปแล้ว แต่สัจจธรรมที่เคยปฏิบัติไว้ยังอยู่ คือ ผู้ที่มีอายุยาวนาน..."
"ล.เสถียรสุต"
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์
มาน้อมนำธรรมดีๆไปปฎิบัติค่ะ...แต่รู้ตัวว่าสิ่งที่ปฎิบัตินั้นยังไม่ลึกซึ้งพอ..พยายามอยู่ค่ะ
ขอบคุณที่นำธรรมะท่าน ล.เสถียรสุต มาฝากครับ
สวัสดีครับ ครูกระแต