โรงพยาบาลหนองจิก ได้ เปิดบริการประชน เมื่อ วันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2528 เป็นโรงพยาบาล ขนาด 10 เตียง และได้รับการจัดสรรเป็นโรงพยาบาลขนาด 30 เตียง เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2537 เป็นโรงพยาบาลที่ห่างจากตัวจังหวัดเพียง 14 กิโลเมตร มีสถานบริการด้านสาธารณสุขในความรับผิดชอบ 15 แห่ง ประชากรในพื้นที่ความรับผิดชอบค่อนข้างสูงเป็นอันดับต้นๆ ของจังหวัด คือ จำนวน 64,571 คน โรงพยาบาลหนองจิก เป็นโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ในที่ลุ่มริมแม่น้ำ ทำให้โรงพยาบาลมีปัญหาอุทกภัยบ่อยครั้งในฤดูฝน ระดับน้ำในโรงพยาบาลสูงที่สุด ประมาณ 1.5 เมตร ในปี พ.ศ. 2548 อุทกภัย ได้เกิดอุทกภัยรุนแรงที่สุด โดยในครั้งนี้ ระดับน้ำท่วมสูงสุด180 ซ.ม. เกินความคาดหมายของโรงพยาบาล ที่ได้จัดทำแผนเตรียมรับอุทกภัยไว้
การจัดระบบแบ่ง 3 ระดับ คือ
-
ระดับ 1 : หมายถึง ระดับน้ำท่วม ต่ำกว่า 100 ฃ.ม.
-
ระดับ 2 : หมายถึง ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 100 ฃ.ม.
-
ระดับ 3 : หมายถึง ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 150 ฃ.ม.
การเตรียมการในแต่ละด้าน มีความครอบคลุมทั้ง 3 ระดับ ที่ตั้งเกณฑ์ไว้ สรุปได้ดังนี้
การเตรียมการด้านต่างๆ
|
ระดับ 1
|
ระดับ 2
|
ระดับ 3
|
1. ด้านบุคลากร
|
|
* การสื่อสาร
|
เตรียมพร้อมเรื่องการสื่อสารของเจ้าหน้าที่ และองค์กรที่เกี่ยวข้อง
|
* เตรียมการจัดบุคลากรทดแทนกรณี เดินทางมาปฏิบัติงานไม่ได้
|
หน่วยงานที่รับผิดชอบ เตรียมแผนและกำหนดผู้รับผิดชอบ ที่ชัดเจน
|
อาจต้องงดบริการ ขึ้นกับผู้บริหารสูงสุดสั่งการอีกครั้ง
|
* บุคลากรที่อยู่บ้านพัก
|
ดำเนินการตามแผนที่เตรียมไว้ ในการป้องกันอุทกภัย และขนย้ายอุปกรณ์เสี่ยง เพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด
|
ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ในโรงพยาบาล เนื่องจาก ไม่มีระบบไฟฟ้า และ น้ำปะปา ใช้ ประกอบน้ำท่วมสูง อาจเกิดอันตราย ขณะเดินทางจากบ้านพัก มายังห้องทำงาน
|
ด้าน การให้บริการ และ ผู้รับบริการ
|
ให้บริการได้ปกติ ตามความสมัครใจของผู้รับบริการ และ ผู้รับบริการที่เดินทางมาโรงพยาบาลได้
|
- งดให้บริการ เนื่องจาก โรงพยาบาลไม่มีระบบไฟฟ้า และ น้ำปะปา ใช้ ประกอบน้ำท่วมสูง อาจเกิดอันตราย ขณะเดินทางมารับบริการ
- กำหนดการเตรียมแผนในการขนย้ายผู้ป่วยในไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลปัตตานี
|
ด้านสถานที่ และ สิ่งแวดล้อม รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์
|
- แต่ละหน่วยงาน สำรวจวัสดุ/อุปกรณ์เสี่ยงภัย และ ทำการเคลื่อนย้าย ให้อยู่ในระดับปลอดภัย
- จัดหาอุปกรณ์ที่ป้องกันน้ำท่วมเข้าหน่วยงาน
|
แต่ละหน่วยงาน ทำการเคลื่อนย้ายวัสดุอุปกรณ์ ให้อยู่ในระดับปลอดภัยเท่าที่จะทำได้
|
4.ด้านสิ่งสนับสนุน ต่างๆ เช่น อาหาร
|
จัดเตรียมอาหาร และปัจจัยจำเป็น แก่ บุคลากร และ ผู้รับบริการ
|
จัดเตรียมอาหารสำหรับบุคลากรที่เฝ้าระวังภัย ในโรงพยาบาล
|
5.แผนการฟื้นฟู ให้กลับสู่สภาพปกติเร็วที่สุด
|
-สำรวจความเสียหาย
- ทำความสะอาด
|
-สำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น และ เร่งดำเนินการซ่อม
- เร่งปรับสภาพต่างๆให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
- รายงานหน่วยเหนือ กรณีความเสียหายรุนแรง
|
|
|
|
|
เหตุการณ์อุทกภัยในปี 2548
ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม2548 มีฝนตกอย่างต่อเนื่องจนเกิดภาวะน้ำท่วม
วันที่ 8-9 ธันวาคม 2548
- ได้รับการแจ้งเตือนจากชลประทาน อำเภอยะรัง เรื่องการปล่อยน้ำจากเขื่อนบางลาง
- ผู้รับผิดชอบรีบแจ้งให้หน่วยงาน และบ้านพัก สำรวจสิ่งที่ต้องเคลื่อนย้ายเมื่อน้ำท่วม
- เตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ก่ออิฐ ทำแนวกั้นน้ำ จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำไฟฟ้า และเตรียมพร้อมเรือท้องแบนสำหรับใช้งาน
9 - 17 ธันวาคม 2548
- ระดับน้ำสูงสุดประมาณ 50 เซนติเมตร เป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
- ระดับน้ำท่วมบริเวณทางเข้าโรงพยาบาล แพทย์แผนไทย งานซักฟอกและจ่ายกลาง บ้านพักเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
- ระบบซักฟอกไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากน้ำท่วมบ่อบำบัดน้ำเสีย
ประสานกับโรงพยาบาลปัตตานี ในเรื่องการส่งต่อ ผู้รับบริการคลอดไปยังโรงพยาบาลปัตตานี และขอความอนุเคราะห์ผ้า แต่ยังคงให้บริการผู้ป่วยนอก/ผู้ป่วยในทั่วไป/ผู้ป่วยอุบัติเหตุและ ฉุกเฉินตามปกติ
- ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่หมุนเวียนในหมู่บ้านต่างๆ มีผู้ป่วยเฉลี่ยวันละ150-200 คน ด้วยโรคน้ำกัดเท้า โรคระบบทางเดินหายใจ
18 ธันวาคม 2548
เวลา 10.30 น ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีได้ประกาศพื้นที่อุทกภัยในเขตอำเภอเมือง และอำเภอใกล้เคียง
21.00 น น้ำเริ่มไหลเข้าทางประตูหน้าโรงพยาบาลในปริมาณมาก น้ำท่วมบ้านพัก ระดับน้ำสูง มากกว่า 100 ซ. ม
23.00 น ย้ายเจ้าหน้าที่จากบ้านพักขึ้นบนโรงพยาบาลเนื่องจากระดับน้ำที่ท่วมบ้านพักมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
19ธันวาคม 2548
00.30 น ระดับน้ำสูง ประมาณ 150 ซ.ม จนเกิดแรงดันพื้นห้องซันสูตร พื้นปูนแตก ต้องขนย้ายครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ในห้องชันสูตรขึ้นตึกผู้ป่วยนอก น้ำเริ่มเข้าอาคารผู้ป่วยคลอด ห้องผ่าตัด ห้องทันตกรรม กลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัว
03.30น- 05.00 น. แจ้งตัดระบบไฟของโรงพยาบาล ผู้อำนวยการตัดสินใจย้ายผู้ป่วยในหอผู้ป่วยในซึ่งมี จำนวน 12 คน พร้อมญาติ ด้วยเรือท้องแบนที่โรงพยาบาลเตรียมความพร้อมไว้ ไปโรงพยาบาลปัตตานี
07.30 ระดับน้ำท่วมสูงเกินระดับของการก่ออิฐป้องกันระบบจ่ายกลาง และซักฟอก น้ำท่วมล้นเข้าทางหน้าต่าง ระดับน้ำสูงประมาณ 1.8 เมตร และท่วมอาคารผู้ป่วยทั้งหมดของโรงพยาบาล
10.30 น นายแพทย์ส.ส.จ และคณะเข้ามาให้การช่วยเหลือ ในเรื่องระบบไฟ และอาหาร ตลอดจนการวางแผนร่วมกันกับทางโรงพยาบาล หากระดับน้ำสูงกว่า 2.5 เมตร ซึ่งโรงพยาบาล จะสามารถรับระดับน้ำได้อีกไม่เกิน 50 ซ. ม แต่แล้วระดับน้ำเริ่มคงตัว
12.30น นายแพทย์ส.ส.จ. ประกาศปิดโรงพยาบาลเป็นการชั่วคราว เนื่องจากไม่สามารถให้บริการแก่ผู้รับบริการได้ เป็นเวลา 1 สัปดาห์
20 ธันวาคม 2548
- ระดับน้ำเริ่มลดลงจากตัวอาคารผู้ป่วยนอก ทำความสะอาด/สำรวจความเสียหายต่างๆ
- จัดหน่วยแพทย์ตรวจรักษาผู้ป่วยนอก ที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ตั้งแต่วันที่ 20-24 ธันวาคม 2548 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เนื่องจากมีสภาพน้ำท่วมทั่วทั้งอำเภอ
21 ธันวาคม 2548
- ผู้ตรวจราชการ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและคณะ เยี่ยมโรงพยาบาล
- โรงพยาบาลหนองจิกจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตรวจรักษาผู้ป่วยในตำบลต่างๆ ตังแต่วันที่ 21-27 ธันวาคม 2548
- โรงพยาบาลโคกโพธิ์ , โรงพยาบาลยุพราชสายบุรี , โรงพยาบาลมายอ , โรงพยาบาลยะหริ่ง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี , โรงพยาบาลปัตตานี , โรงพยาบาลศูนย์ยาเสพติด ให้ความช่วยเหลือออกหน่วยแพทย์เคลือนที่ ในพื้นที่อำเภอหนองจิกทั้งหมด เพิ่มอีก 14 จุด
โรคที่ตรวจพบ 5 อันดับโรคแรก
แผลอักเสบ จากน้ำกัดเท้า ระบบทางเดินหายใจ ปวดเมื่อย ผื่นคัน ปวดศีรษะ
22-23 ธันวาคม 2548 : ระดับน้ำตึกผู้ป่วยใน และตึกคลอด เริ่มลดลง ทำความสะอาด และเริ่มปรับปรุงโรงพยาบาล
25 ธันวาคม 2548 : สามารถเปิดให้บริการผู้ป่วยนอก อุบัติเหตุและฉุกเฉิน
เปิดให้บริการผู้ป่วยในทั่วไป ยกเว้น ผู้ป่วยคลอด
28 ธันวาคม 2548 : เปิดให้บริการทันตกรรม
29 ธันวาคม 2548 : เปิดให้บริการผู้ป่วยคลอด
โรงพยาบาลหนองจิกได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ดังนี้
- โรงพยาบาลปัตตานี รับส่งต่อผู้ป่วยใน ผู้ป่วยคลอด สนับสนุน ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
- สสจ. ประสานงานเรื่องการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ทั้งอำเภอหนองจิก , ประสานกองช่างบำรุง ร่วมวางแผนระยะยาวในการเตรียมความพร้อมในสถานการณ์ อุทกภัย ครั้งต่อไป , สนับสนุนในเรื่อง อาหาร น้ำ , ระบบไฟฟ้าสำรอง นอกเหนือจากที่โรงพยาบาลที่ได้เตรียมการไว้
- โรงพยาบาลโคกโพธิ์ , โรงพยาบาลยุพราชสายบุรี , โรงพยาบาลมายอ , โรงพยาบาลยะหริ่ง , โรงพยาบาลปัตตานี , โรงพยาบาลศูนย์ยาเสพติด และ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ให้ความช่วยเหลือออกหน่วยแพทย์เคลือนที่ ในพื้นที่อำเภอหนองจิก 14 จุด
- โรงพยาบาลยะหริ่ง ให้ใช้เครื่องซักผ้า
ด้านการฟื้นฟูสภาพ โรงพยาบาลหนองจิก ได้ความช่วยเหลือจากหลายฝ่าย ดังนี้
- บริษัทเอกชน ซ่อมแซมยูนิตทันตกรรม ,เครื่องมือห้องชันสูตร , ระบบแอร์ ให้เครื่องมือต่างๆ ใช้ได้ทันใจ
- กองช่างบำรุงฯ ได้ซ่อมแซมครุภัณฑ์หน่วยจ่ายกลาง
- หน่วยซ่อมบำรุงของโรงพยาบาล ตรวจเช็คเครื่องไฟฟ้าที่ถูกน้ำในบางส่วนทั้งระบบ ก่อนนำมาใช้งาน , เครื่องมืออื่นๆ ที่ได้รับความเสียหาย
- เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทุกคนให้ความร่วมมือในการทำความสะอาดโรงพยาบาล
- คณะทำงานสิ่งแวดล้อม ร่วมกับฝ่ายบริหารงานทั่วไปฟื้นฟูสภาพทั่วไปของโรงพยาบาล
- คณะกรรมบริหารโรงพยาบาลทบทวนแผนระยะยาว นำเสนอการแก้ปัญหาที่นอกเหนือจากที่โรงพยาบาลจะสามารถรับระดับน้ำได้ในปัจจุบัน (ประมาณ 2.5 เมตร )
- รถน้ำเทศบาล ฉีดล้างถนน ลานจอดรถ
ประเมินความเสียหาย
- ครุภัณฑ์ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ทัน เช่น ยูนิตทันตกรรมจำนวน 3 ตัว , เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อ เครื่องซักผ้า , เครื่องปั่นผ้า ซึ่งครุภัณฑ์เหล่านี้ จัดเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กโทรนิก เมื่อต้องแช่น้ำเป็นเวลานาน มักมีผลต่อการใช้งานในอนาคต ( ค่าชีวิตการใช้งานสั้นลงแน่นอน )
- เวชภัณฑ์บางส่วน
- คุรุภัณฑ์ และ วัสดุสำนักงาน ตัวอาคาร สำนักงาน บ้านพัก
แผนการแก้ปัญหาระยะสั้น
- ปรับระบบการป้องกันน้ำท่วมขึ้นอีก 50 เซนติเมตร
- โยกย้ายจุดให้บริการบางจุดขึ้นที่สูง เช่น ชันสูตร ,ก่ออิฐกั้นทางน้ำในตัวอาคารประมาณ 70 ซ. ม.
แผนการแก้ปัญหาระยะยาว
- สร้างแฟลตสำหรับเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม เพื่อโยกย้ายเจ้าหน้าที่จากบ้านพัก
- ทบทวนตัวอาคารพัสดุ โภชนาการ ซักฟอกจ่ายกลาง ทันตกรรม ชันสูตร แผนไทย ,
โรงไฟฟ้า ซึ่งตั้งอยู่ในที่ต่ำ
-ระบบบำบัดน้ำเสียแบบคลองวนเวียน
- ทางเชื่อมต่อระหว่างอาคาร
ความภาคภูมิใจ
- ทีมงานโรงพยาบาลหนองจิก สามารถนำพาโรงพยาบาลให้ผ่านพ้นวิกฤต ตามแผนรองรับความเสี่ยง และจัดการความเสี่ยงได้ตามระบบที่วางไว้ ตลอดจนสามารถจัดการในเรื่องการดูแลผู้รับบริการ ได้ตลอด ช่วงที่เกิดอุทกภัย และ
- ไม่มีผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนที่ต้องรับการรักษาใน ร.พ อันเกิดจากภาวะน้ำท่วม
- มีการติดตามผู้ป่วยเรื้อรังทุกราย ที่ไม่สามารถมารับยา ที่ ส.ส.อ ในช่วงที่เกิดน้ำท่วม
- มีการจัดการระบบรับยาในผู้ป่วย ARV ในช่วงที่เกิดภาวะวิกฤต โดยการประสานงานกับโรงพยาบาลปัตตานี
- การแก้ปัญหาในการดูแลผู้ป่วย โรคแผลอักเสบจาก น้ำกัดเท้าการดูแลผุ้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องแผล ในช่วงที่น้ำท่วม โดย
- การจัดเตรียมชุดทำแผล Disposable ในจำนวนที่เพียงพอ ให้ผู้ป่วยสามารถทำแผลได้เองที่บ้าน
การจัดระบบเพื่อรองรับปัญหาน้ำท่วมกลายเป็น เรื่องที่พวกเราคุ้นชิน
เหตุการณ์น้ำท่วมยังคงต้องเกิดขึ้นต่อไป ทุกปี
การจัดการระบบเพียงเพื่อสามารถรองรับการให้บริการผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง
เป็นคำตอบสุดท้ายที่พวเราคาดหวัง