น้ำท่วมหรือฝนแล้งดีกว่า


น้ำจะท่วมหรือฝนจะแล้งน่าจะเป็นเหตุที่นอกเหนือจากธรรมชาติ ไม่ใช่โทษแต่ธรรมชาติอย่างเดียว

แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีที่น้ำท่วมมากกว่าน้ำแห้งหรือเปล่า? ไม่แน่ใจ เพราะเวลาฝนแล้งก็แล้งหลายเดือนรู้สึกว่าจะนานกว่าน้ำท่วมเสียอีกนะครับ เป็นเพราะน้ำท่วมส่งผลให้เห็นทันตาเสียหายเร็วกว่า ถ้าเป็นฝนแล้งก็เสียหายมากเหมือนกันแต่เป็นระยะยาวคนก็เลยไม่ตื่นเต้นเอาใจใส่ ทั้งที่น้ำขึ้นหรือลงก็เป็นผลมาจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม เป็นวิวัฒนาการดำเนินไปของโลกและจักรวาลเปลี่ยนแปลงอยู่เสมออันบ่งบอกถึงความไม่จีรังยั่งยืนบนโลกนี้นั่นเอง ความเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปโดยธรรมชาติหรือเกิดจากการบ่มเพาะของน้ำมือคนก็ดีย่อมมีผลต่อปัจจัยรอบข้างเสมอ จึงเกิดน้ำท่วมและน้ำแล้งเพิ่มขึ้นๆทุกปี ผมอดเเปลกใจว่าไฉนคนเราถึงตื่นเต้นเมื่อตอนที่เหตุการณ์ความเสียหายปรากฏชัดเท่านั้นเอง เมื่อความเสียหายผ่านไปคนทั้งหลายก็ลืมแล้วก็กลับไปทำเหตุให้เกิดความเสียหายอีกแล้วๆเล่าๆ

แทนที่จะใส่ใจแก้ไขสืบหาต้นเหตุให้ได้อย่างจริงจังต่อเนื่อง(ตื่นเต้นให้ต่อเนื่อง) เพราะจะว่าไปแล้วปีหน้าหรือต่อๆไปน้ำก็จะท่วมอีก น้ำจะแล้งอีก พวกเราก็จะโวยวายร่ำให้อีกเป็นครั้งคราว หรือเป็นเพราะคิดว่ามันเป็นภัยธรรมชาติจึงปล่อยให้เกิดขึ้นบ่อยๆ โดยไม่ใส่ใจเหตุว่าเป็นเพราะธรรมชาติหรือฝีละมือของมนุษย์ แน่นอนว่าฝนตกหรือแดดออกไม่มีใครสามารถบังคับได้เพราะมนุษย์เราไม่มีฤทธิ์มากขนาดนั้น แต่ฝีมือมนุษย์อาจเป็นเหตุหนึ่งกระทำการรังแกให้ธรรมชาติวิปริตไปหรือเปล่า

ที่ผมว่าแปลกใจคือ น้ำท่วมหรือแล้งปีหนึ่งผู้มีหน้าที่อำนาจทั้งหลายก็มักออกตัวว่าช่วยไม่ได้มันเป็นธรรมชาติ ที่ช่วยได้ก็คือมอบข้าวน้ำนิดหน่อยเพื่อประทังชีวิตเมื่อเกิดภัยเหล่านี้ขึ้นเท่านั้น ทั้งที่ความเป็นจริงน่าจะช่วยได้มากกว่านั้นก่อนเกิดหรือหลังจากเกิดภัยเหล่านั้นแล้ว แต่บางคนอาจคิดว่าทำให้เกิดภัยขึ้นบ้างคนจะได้ยกย่องเมื่อเวลาเข้าไปช่วย มันเป็นเช่นนั้นจริงๆบางคนก็ชอบทำดีเอาหน้า เข้าไปช่วยแจกสิ่งของบริโภคอุปโภคหน่อยแลกกับได้เป็นข่าว ได้ทำภาพพจน์ให้ดูดี ทำไมถ้าอยากจะช่วยจริงถึงไม่คิดป้องกันก่อนน้ำจะท่วมฝนจะแล้ง

เพราะอะไรจึงกล่าวอย่างนั้น เพราะว่าทุกท่านรู้ดีว่าเหตุการน้ำท่วมหรือแล้งจะต้องเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอนเหมือนปีที่แล้ว แต่พอปีต่อมาเหตุการณ์กลับหนักกว่าเดิมอีก ทั้งที่บอกว่าวางแผนอย่างโก้หรูงบประมาณออกมาแก้ปัญหาหลายแสนล้านเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

การวางแผนที่ดีอย่างว่าน่าจะลดหรือแก้ไขให้เบาบาง รวดเร็วได้บ้างแต่ไม่ใช่อย่างนั้นเลย คิดแล้วก็ต้องบอกว่า "อนิจจา วะตะ สังขารา" สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ (ปลงอนิจจา) 

แผนที่ต้องวางก่อนน้ำท่วมหรือแล้งในปีต่อไปน่าจะต้องระดมนักวิชาการมาปะคารมกันก่อนว่าเหตุที่เกิดมาจากอะไร? เมื่อรู้แล้วก็ดำเนินการป้องกันดีกว่าไหม? การแก้ก็ทำให้ต่อเนื่องรวมทั้งแก้เหตุที่เกี่ยวข้องด้วยไม่งั้นก็ไม่ได้ผล เหมือนเอาหัวหมูไปบนบานจะหวังได้ก็แต่ลมกับแล้ง

เหตุที่เกี่ยวข้องอย่างหนึ่งที่ต้องขจัดก็คือความโลภในจิตใจของคน ความโลภที่ว่านี้ไม่ใช่ความโลภธรรมดาของมนุษย์ แต่เป็นความโลภชนิดที่กลืนกินผืนป่าต้นน้ำลำธาร หรือแม้แต่ภูเขาได้เป็นหลายๆร้อยลูก เป็นการกระทำอันหนึ่งที่ไปข่มเหงธรรมชาติจนขาดความสมดุลย์  เมื่อโลภเอาจากธรรมชาติมากๆเข้ามันก็เอาคืนสิ คนโลภที่ทำลายธรรมชาติจนเกิดภัยพิบัตินี้ผู้เชี่ยวชาญยอมรับและเรียบเรียงไว้มากมายน่าศึกษาหาอ่านกันครับ

ผมเป็นพระไม่อยากไปแย่งชีนคน(เหมือนกัน)เท่าไหร่ถ้าไม่จำเป็น ผมต้องชักแม้น้ำทั้ง ๕ มาแบบธรรมะๆ ผมว่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นนั้นหนีไม่พ้นคำสอนของบัณฑิตโดยเฉพาะพระพุทธเจ้าเท่าไหร่ ท่านได้ตรัสไว้นานแล้วว่า หากว่าโลกจะพินาศหรือถูกทำลายลง ก็จะพินาศหายไปด้วยกิเลสสามประการเป็นเค้ามูล โลกจะทำลายด้วยไฟ ด้วยน้ำ ด้วยลม

ไฟจะเผาไหม้โลกเป็นจุลเล็กจุลน้อย(จุลวิจุล)  ลมห่าซาตานจะพัดให้โลกนี้ค่อยๆละลายเหมือนฝุ่นละอองยามหนาว น้ำก็จะท่วมเหมือนที่ท่วมอยู่แต่หลายเท่านัก โลกที่มีอยู่ก็จะหายไปเหมือนไม่เคยมีเลยทีเดียว ที่กล่าวนี้จะเกิดขึ้นแน่นอนในอนาคตที่ยังไม่มาถึง นับเป็นเวลาก็คงหลายแสนโกฏิปี ในตำรากล่าวไว้อย่างนั้นใครที่ไม่เชื่อตำราไม่ควรมองข้ามอ่านไว้บ้างจะได้ปลงอนิจจาช่วยกัน

ไม่รู้ว่าผมจะเขียนอย่างไรเกี่ยวกับน้ำท่วม เพราะตอนที่น้ำท่วมแล้วช่วยอะไรไม่ได้มากเห็นแล้วก็สงสารชาวไร่ชาวนาเหมือนเดิม คนที่ได้รับทุกข์ยากจากการณ์นี้จริงๆก็คือคนจนเป็นส่วนมาก ที่อำเภอชุมพลก็ท่วมครับ แต่ท่วมเฉพาะที่ใกล้ลำน้ำมูลฝั่งที่ผมอยู่แห้งสนิท ช่วงนี้ข้าวของชาวนากำลังออกดอกออกผลจึงเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งถ้าหากว่าเก็บเกี่ยวไม่ทัน 

คิดดูว่าทุกข์ใจขนาดไหน ถ้าหากว่าอีกสองสามวันคิดว่าจะเกี่ยวข้าวแล้ว ทำการว่าจ้างรถเกี่ยวเรียบร้อย ซ้ำยังวาดฝันว่าเกี่ยวขายแล้วจะได้ใช้หนี้สินที่ยืมมาหลายแสน พอตกกลางคืนน้ำท่วมนาข้าวหมดเลย ผลกำไรคือเงินที่เห็นอยู่ในท้องทุ่งวันสองวันก่อนหายวับไปกับตา บางคนทำใจไม่ได้ถึงกินยาลาตายก็มี บางท่านอาจไม่เข้าใจว่าแค่น้ำท่วมทำไมต้องกินยาตาย ท่านที่ไม่เคยก็คงฉงนฉงายใจ มันก็เหมือนกันกับเศรษฐี หมดตัวตอนวิกฤตต้มยำกุ้งแหละขอรับฯฯฯ

 

คำสำคัญ (Tags): #น้ำท่วม#ฝนแล้ง
หมายเลขบันทึก: 406586เขียนเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2010 05:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

การจัดการเรื่อง น้ำ ในประเทศไทยยังมีปัญหาอยู่มาก เพราะไม่เคยสนับสนุนมอบหมายให้จัดการกันอย่างจริงจัง น้ำมาจึงท่วมมาก น้ำหมดจึงแล้งหนัก นักกาเรมืองสนใจแต่เรื่องเฉพาะหน้าเพราะคอรัปชั่นกันได้ง่ายครับ อนิจจัง

เจริญพรคุณครู จะบอกว่าดีใจที่เห็นความคิดของครูในบันทึกนี้และตั้งแต่เช้าเลยต้องบอกว่าอรุณสวัสดิ์ย้อนหลัง อาตมาพึ่งเข้าใจว่าพระกับครูเวลาจะคุยกับคนทั่วไปแบบกันเองนั้นไม่ง่าย พึ่งเข้าใจเมื่อต้องแสดงความคิดเห็นกับคุณครูโดยเฉพาะท่านเป็นครูที่รู้จักกันทั้งประเทศ เช่นเดียวกันมั้งที่ญาติโยมเวลาจะคุยกับพระต้องระวัง เรื่องน้ำท่วมหรือฝนแล้งเป็นเรื่องปกติของชาวนาชาวไร่ไปเสียแล้วครับ แน่นอนเมื่อครบขวบปีก็ได้แต่ก้มหน้ารับกรรมเหมือนการยอมรับชะตากรรมของเเพะรอถูกเชือดเพื่อไถ่บาปที่ตัวเองไม่ได้ทำ คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากเดียวน้ำจะท่วม(ปาก) อาตมามีภาพอยู่สองสามภาพที่น้ำท่วมในอำเภอชุมพล แต่เสียดายที่ยังเอาลงไม่ได้เพราะฝีละมือยังไม่ถึง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท