การจัดกระบวนการเพื่อรวบรวมข้อมูล
เพื่อนำเสนอแนวนโยบายปฏิรูปสังคมไทย
ของเครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนกรุงเทพฯ
คำถามชวนสนทนาหาคำตอบจากการทำงานกันบนเวที
สภาวการณ์สังคมและสิ่งแวดล้อมของสังคมไทย ที่สะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตชุมชนของท่าน เป็นอย่างไร ในอนาคตจะขับเคลื่อนและมีความเชื่อมโยงกันอยู่อย่างไร แนวคิดและแนวนโยบายเพื่อกำกับความเป็นสาธารณะร่วมกันทั้งของชุมชนในท้องถิ่น กทม.กับของสังคมไทยในระดับประเทศ เป็นอย่างไร ?
รูปแบบและกระบวนการใน ๑ วัน
ภาพที่ ๑ ให้แนวคิด'การเปลี่ยนแปลงทางสังคม' ๓ แนว ๑) การเปลี่ยนแปลงเนื่องจากเกิดวิกฤติ ๒) การเปลี่ยนแปลงถอนรากถอนโคนโดยปฏิวัติและใช้ความรุนแรง ๓) การเปลี่ยนแปลงโดยกระบวนการปฏิรูป ซึ่งมุ่งเปลี่ยนแปลงเชิงระบบและโครงสร้างต่างๆอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ผู้ร่วมเวทีเห็นความสำคัญของกระบวนการเรียนรู้และแก้ปัญหาด้วยสันติวิถี
ภาพที่ ๒ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองกรงุเทพฯจากชุมชนหนองจอกและมีนบุรี ประกอบด้วยเครือข่ายศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทางเลือก เกษตรอินทรีย์ อนุรักษ์ส้มบางมด เครือข่ายอนุรักษ์ระบบนิเวศคูคลองและสิ่งแวดล้อม
ภาพที่ ๓ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองกรงุเทพฯจากชุมชนบางลำพู กำลังนำเสนอบทเรียนและแนวคิดการอนุรักษ์ย่านเมืองเก่า และเครือข่าย ปปส.สร้างอาสาสมัครชุมชนเพื่อป้องกันยาเสพติด
ภาพที่ ๔ อัญชัน แกมเชย จากบางกอกฟอรั่ม ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองกรงุเทพฯ และผู้ประสานงานการจัดเวทีในครั้งนี้
ภาพที่ ๕ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองกรงุเทพฯจากเครือข่ายสภาองค์กรชุมชน, เครือข่ายเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเขตทวีวัฒนา ตลาดน้ำ-ตลาดธรรม เครือข่ายรณรงค์สร้างจิตสำนึกพลเมือง, เครือข่ายชุมชนงามดูพลี, เครือข่ายมูลนิธิ ปปส.
การดำเนินการอย่างเป็นลำดับ
๑.
นั่งสนทนา
รวบรวมข้อมูลโดยใช้ฟลิปชาร์ตและโน๊ตบุ๊ค
ทีมสังเกตการณ์บันทึกและสะท้อนข้อมูลรวมกันทันทีที่เห็นประเด็น
๒. นำเสนอกรอบแนวคิด
วิเคราะห์ประเด็นยุทธศาสตร์
ระบบวิธีคิดที่เชื่อมโยงกันได้อย่างครอบคลุมในทุกกิจกรรมและทุกประเด็นส่วนรวมของทุกเครือข่ายและจากทุกพื้นที่ที่เข้ามาร่วมเวที
๓.
นำเสนอผลวิเคราะห์และสรุปให้เวทีอภิปราย ต่อเติม แก้ไข
และสอบทานความคิด ตลอดจนพิจารณาข้อความที่ปรากฏ
ให้สามารถสื่อสารและสะท้อนสิ่งต่างๆให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนให้มากที่สุด
๔.
สรุปประเด็นและเขียนเรียบเรียงให้เป็นข้อความแสดงแนวนโยบายจากเครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนกรุงเทพ
สรุปได้ ๕ มิติ และประกอบด้วยประเด็นเชิงนโยบาย ๗ ข้อ
ดังนี้
๕. ขออาสาสมัคร ๑๐ คน เป็นตัวแทนจากเวทีและเครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนกรุงเทพฯไปร่วมนำเสนอในเวทีขับเคลื่อนเครือข่ายปฏิรูปประเทศไทย ในวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๓ ณ โรงแรมมิราเคิล ดำเนินการโดยทีมบางกอกฟอรั่มและเครือข่าย
ภาพที่ ๖ การนำเสนอกรณีปัญหาของชุมชนท้องถิ่นกรุงเทพฯที่เป็นปัญหาซึ่งกระทบต่อสิ่งแวดล้อมชุมชนและคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างกว้างขวาง รวมทั้งสะท้อนปัญหาเชิงระบบและโครงสร้าง จำเป็นต้องตื่นตัวมีส่วนร่วมแก้ไขทั้งภาคประชาชน ชุมชน ท้องถิ่น และภาครัฐ ชาวบ้านพัฒนาวิธีเรียนรู้ วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล แนวการเข้าสู่ปัญหาและวิธีนำเสนอ แจกแจงประเด็นที่สามารถนำไปสู่การปรึกษาหารือและระดมพลังสังคมแปรไปสู่ปฏิบัติการสังคมในเชิงปฏิรูปต่อไปได้หลายระดับ
ภาพที่ ๗ ผู้ประสานงานบางกอกฟอรั่ม และเครือข่ายพลเมืองกรุงเทพฯจากชุมชนงามดูพลี
ภาพที่ ๘ แจกรายงานการวิจัยเรื่องวิถีสังคมของชาวนาบัวในอำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เพื่อส่งเสริมการรวมกลุ่มเรียนรู้ชุมชนและวิจัยสร้างความรู้ของชุมชน โดยเครือข่ายพลเมือง
ประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ ๓ ด้าน
เพื่อให้เครือข่ายชุมชน เห็นวิธีคิดในเชิงปฏิรูป เพื่อนำเสนอแนวนโยบายในอีกแนวทางหนึ่งให้ต่างไปจากแนวนโยบายและวิธีผลักดันความเป็นส่วนรวม อย่างที่ดำเนินการกันโดยทั่วไป ผมและทีมได้ให้แนวคิดเพื่อเรียนรู้จากกระบวนการดังกล่าวนี้ในอีกแนวทางหนึ่ง คือ
เครือข่ายเวทีนำเสนอสถานการณ์วิกฤติของเกษตรกรหนองจอก รวมทั้งปัญหาความเน่าเสีย ตลอดจนสิ่งปนเปื้อนและมลพิษในคูคลองอันเกิดจากการหลักเลี่ยงปฏิบัติตามกฏหมายให้เอื้อผลประโยชน์ตนเองของเจ้าของกิจการบ้านจัดสรร โดยขอจดทะเบียนที่พักอาศัยครั้งละไม่เกิน ๙ รายซึ่งทำให้ไม่ต้องทำระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลาง ชุมชนในย่านดังกล่าวจึงเป็นแหล่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อน้ำในคลอง เมื่อเกิดน้ำท่วม ก็ยิ่งก่อให้เกิดความเสียหายทั้งวิถีชีวิตชุมชน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกัน เครือข่ายก็มีบทเรียนจากความริเริ่มในการทำเกษตรกรรมทางเลือก รวมทั้งการระดมพลังการบริหารจัดการชุมชนริมคูคลองหลายกรณีที่ประสบความสำเร็จ เช่น การอนุรักษ์สวนส้มพันธุ์บางมด การทำเกษตรอินทรีย์ การทำกลุ่มออมทรัพย์ การทำตลาดน้ำ-ตลาดธรรม การปฏิบัติการเครือข่ายชุมชนด้านสวัสดิภาพและพัฒนาสังคมเข้มแข็งในชุมชนด้านสิ่งแวดล้อม การแก้ปัญหายาเสพติด การพัฒนาบทบาทสตรี เยาวชน อสม. เครือข่ายผู้นำชุมชน และการรวมกลุ่มของประชาชน
นอกจากนี้ สมาชิกของเครือข่ายหลายชุมชนเป็นกลุ่มที่มีประสบการณ์ และเกิดการเรียนรู้สะสมมาอย่างาวนาน ทำให้เห็นประเด็นในเชิงปฏิรูปที่จะมีความหมายและมีความสำคัญต่อการปฏิรูปประเทศไทย โดยนำเสนอแนวคิดในการมุ่งเน้นให้เห็นความสำคัญต่อการปฏิรูปเชิงระบบและโครงสร้าง ขณะเดียวกัน ก็พิจารณานำเสนอในด้านที่จะมีกิจกรรมและบทบาทการดำเนินงานต่างๆของเครือข่ายรองรับ เพื่อจะได้เป็นการนำเสนอที่มิใช่การเรียกร้องและผลักดันให้ผู้อื่นทำหรือเปลี่ยนแปลงอย่างเดียว ทว่า จะเป็นการนำเสนอเพื่อให้เห็นว่าเครือข่ายจะเป็นผู้ทำอยู่ตลอดไปในอนาคตและหากเชื่อมโยงกันได้ก็ขอให้สนับสนุนในสิ่งที่ได้นำเสนอออกไป
ผมประมวลบทเรียนและข้อเท็จจริงจากประสบการณ์ที่มีอยู่ของเครือข่ายให้เห็นระบบคิดที่เข้าใจง่าย รวมทั้งจะช่วยทำให้ทุกคนเข้าใจตนเองและเห็นความเชื่อมโยงกันทุกมิติ สามารถไปนำเสนอสิ่งที่ตนเองต้องการมีส่วนร่วมในเวทีต่างๆตามที่ต้องการได้ต่อไป
ผังแสดงระบบวิธีคิดที่เห็นความเชื่อมโยงกันในเชิงยุทธศาสตร์
ของกิจกรรมที่มีอยู่ในเครือข่ายและแนวนโยบายที่สนใจในอนาคต
ภาพที่ ๙ แผนผังระบบวิธีคิดและประเด็นนโยบายเชิงยุทธศาสตร์
จากภาพที่ ๙ แผนผังระบบวิธีคิดและความเชื่อมโยงกันของประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ที่เครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนกรุงเทพฯสร้างขึ้นบนฐานของการมีสิ่งที่ชุมชนในพื้นที่ต่างๆของกรุงเทพฯได้ทำอยู่แล้วรองรับ กรณีปัญหาน้ำท่วมและการแก้ปัญหาเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศน์ลำน้ำและคูคลอง เป็นแนวนโยบายสำหรับการแห้ปัญหาของท้องถิ่น ขณะเดียวกัน ก็พิจารณาถึงความเป็นสิ่งบ่งชี้ปัญหาเชิงระบบและโครงสร้าง โดยเฉพาะความไม่เป็นธรรมในการพัฒนาของภาคเมืองกับชนบท ดังนั้น จึงสามารถเป็นข้ออธิบายเหตุผลและความจำเป็นของการนำเสนอเชิงนโยบายสำหรับปฏิรูปสังคมระดับประเทศ
นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าการมีส่วนร่วมที่เครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนกรุงเทพฯนำเสนอนี้ เป็นการมีส่วนร่วมที่มีนัยสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงและการปฏิรูปเชิงระบบและโครงสร้างของสังคมไทย เพื่อมุ่งสู่การกระจายอำนาจและสร้างความเป็นธรรม ซึ่งเป็นประเด็นหลักและอยู่ในลำดับความสำคัญแรกๆของประเทศอีกด้วย กล่าวคือ มุ่งเน้นไปยังการมีส่วนร่วมที่นำไปสู่การก่อเกิดระบบบริหารจัดการสุขภาวะและคุณภาพแห่งชีวิตในระดับชุมชนอย่างสมดุลของ ๓ ภาคส่วน อันได้แก่ ชุมชน รัฐบาล และท้องถิ่น
ข้อเสนอปฏิรูปสังคมไทย
ด้านคุณภาพชีวิตของคนในเมือง
โดยเครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนกรุงเทพฯ
นโยบายปฏิรูปเชิงระบบและโครงสร้างเพื่อสนองตอบต่อวิกฤติ
๑.
มุ่งสร้างความยุติธรรมทางสังคมผ่านการแก้วิกฤติปัญหาเชิงระบบและโครงสร้างซึ่งปรากฏผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
แหล่งน้ำและทรัพยากรน้ำ ระบบการผลิตภาคเกษตรกรรม
ตลอดจนวิถีชีวิตในทุกมิติของชุมชนเชิงพื้นที่ในแหล่งต่างๆทั้งในเมืองหลวง
เมืองใหญ่ และชุมชนต่างๆของประเทศ
นโยบายปฏิรูปเชิงระบบและโครงสร้างเพื่อปฏิรูปสังคมไทย
๒.
มุ่งสู่การปฏิรูปเชิงระบบและโครงสร้างเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชน
โดยการกระจายอำนาจให้ส่งผลต่อการปฏิบัติ
รวมทั้งพัฒนากลไกและระบบรองรับการมีส่วนร่วมที่มีองค์ประกอบความร่วมมือ ๓
ฝ่ายอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมของภาครัฐ ชุมชน และท้องถิ่น
นโยบายปฏิรูปเชิงระบบและโครงสร้างเพื่อปฏิรูปสังคมไทยผ่านการสร้างคนและพลังความเป็นพลเมืองของปัจเจกในสังคม
๓.
มุ่งเน้นการพัฒนาคน
จิตสำนึกความตื่นตัวของประชาชนในการมีส่วนร่วมทางการปฏิบัติในหลายระดับ
โดยมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนเครือข่ายปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ผ่านพลังเครือข่ายชุมชน
ทั้งในเขตเมือง ชุมชนรอบนอก กลุ่มคนเรียนรู้พึ่งตนเอง ปฏิรูปสื่อ
ทั้งสื่อมวลชน สื่ออินเตอร์เน็ต สื่อภาคประชาชน
ตลอดจนการปฏิสัมพันธ์เชิงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
การพัฒนาเวทีเครือข่ายการเรียนรู้ของชุมชนและภาคประชาชน คนเมือง
เครือข่ายความร่วมมือกันระหว่างองค์กรพัฒนาเอกชน-เครือข่ายวิชาการ-เครือข่ายประชาสังคม
นโยบายเพื่อปฏิรูปสังคมไทยผ่านเทคโนโลยีและระบบจัดการที่มีประสิทธิภาพ
เหมาะสม และผสมผสาน
๔.
มุ่งดำเนินการพัฒนาเทคโนโลยีและระบบการจัดการอย่างผสมผสาน
ทั้งโดยภาครัฐ ธุรกิจเอกชน และการมีส่วนร่วมของชุมชนและประชาชน
โดยเน้นแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง การพึ่งตนเอง การเกษตรผสมผสาน
การเกษตรอินทรีย์ ก่อเกิดผลกระทบและผลสืบเนื่องต่อระบบคูคลอง น้ำ
ระบบนิเวศน์ สิ่งแวดล้อม ของชุมชนเมือง
นโยบายเพื่อปฏิรูปสังคมไทยผ่านการสร้างสุขภาวะชุมชนและชุมชนแห่งการเรียนรู้ในวิถีปฏิรูป
๕.
มุ่งส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูวิถีชีวิตชุมชนเมืองเก่า
เพื่อพัฒนาสุขภาวะชุมชนพร้อมกับเป็นกระบวนการเรียนรู้สร้างจิตสำนึกพลเมือง
จิตสำนึกความเป็นเจ้าของและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
รวมทั้งสร้างสังคมเข้มแข็งของชุมชน
๖.
พัฒนาระบบความรู้และการบูรณาการกับงานทางวิชาการ
การสื่อสารเรียนรู้ทางสังคม
การสร้างองค์ความรู้เพื่อแก้ปัญหาของชุมชนและประชาชน
การติดตามประเมินผลและถอดบทเรียนเพื่อบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลงอย่างมีประสิทธิภาพและก่อเกิดกระบวนการสร้างเสริมศักยภาพเครือข่ายการจัดการของชุมชนอย่างมีส่วนร่วม มีความสามารถพึ่งตนเองและสามารถประสานความร่วมมือกับเครือข่ายที่แตกต่างหลากหลาย
๗.
มุ่งเน้นการเปิดพื้นที่เรียนรู้ พื้นที่การปรึกษาหารือ
เวทีประชาพิจารณ์ เวทีและกลไกสะท้อนเสียงผู้ถูกกระทำและเสียโอกาส
และพื้นที่สร้างพลังทางปัญญา เครือข่ายภูมิปัญญาปฏิบัติ
..............................................................................................................................................................................
คลิ๊กอ่านตอนที่ ๑ : เครือข่ายพลเมืองเปลี่ยนกรุงเทพ (๑) : ปฏิรูปประเทศไทยผ่านวิถีปฏิรูปจากภายในตนเอง
สวัสดีค่ะ
แบบนี้นอกจากทำให้ได้รับทราบปัญหาที่แท้จริง และทราบแนวทางที่จะแก้ไข รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายอีกนะคะ
สวัสดีครับคุณครูคิมครับ
ชุมชนสามารถอธิบายและสะท้อนเรื่องราวต่างๆด้วยตนเองก็ทำให้เห็นความเชื่อมโยงกับองค์ประกอบของสุขภาวะและคุณภาพชีวิตในบริบทของเขาได้ดีกว่าสื่อสะท้อนผ่านกลไกอื่นมากทีเดียวครับ
การถอดบทเรียนที่เสริมพลังการเรียนรู้ตนเองและการสามารถนำเสนอถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆด้วยตนเองของชาวบ้าน จึงเป็นการพัฒนาการศึกษาเรียนรู้สำหรับพลเมือง ที่สอดคล้องกับเงื่อนไขแวดล้อมปัจจุบันของสังคมมากเลยละครับ