เกาหลีที่แตกต่าง (ตอนที่ 10) : เยือนถิ่นอินซาดอง


              ระหว่างอยู่บนรถ KTX นั้นมีพนักงานสาวสวยเข็นรถมาขายของ เราอยากได้น้ำสักขวด แต่เขามีแต่น้ำชาและนม เลยเลือกซื้อนม (1000 วอน) ระหว่างทางมีเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วเป็นสาวสวยเดินดูเช็คที่นั่งโดยไม่ได้มายุ่งกับผู้โดยสาร ทั้งตอนที่เธอเข้าและออกจากโบกี้ก็จะหันมาโค้งให้กับผู้โดยสารอย่างงามมาก นั่งยังไม่ทันเบื่อก็ถึงสถานีโซล (สุดสาย) ฝนตกที่โซล เห็นแล้วก็ไม่แน่ใจว่าน่าจะนั่งแท็กซี่หรือรถไฟใต้ดินเพี่อกลับไปยังที่พัก หากลงรถไฟใต้ดินก็ต้องยกกระเป๋าขึ้นลงบันได แต่ครั้นไปเรียกแท็กซี่ก็พูดกันไม่รู้เรื่อง ส่งแผนที่โรงแรมให้คนขับก็ได้แต่สั่นหน้า มีชายคนหนึ่งมาถามว่าจะไปไหน (เหมือนกับแท็กซี่ผีน่ะ เขาว่าของเขาเป็นรถตู้จะคิดราคาหมื่นหนึ่งพันวอน) เราไม่โอเค เลยตัดใจมานั่งรถไฟใต้ดินไปยังสถานีอังกุค จากสายหนึ่งเปลี่ยนไปเป็นสายสาม (ยกกระเป๋าขึ้นลงบันไดกันเป็นว่าเล่น)
 

               

               ตอนมาถึงสถานีอังกุค ระหว่างที่เดินอยู่ก็มีเจ้าหน้าที่สาวคนหนึ่งเดินมาถามว่าเราจะไปขึ้นที่หมายเลขทางออกอะไร (คงสงสารเห็นลากกระเป๋ากัน) พอบอกว่าหมายเลขห้า เขาก็บอกว่าให้ไปขึ้นลิฟท์โดยเดินไปอีกทางหนึ่งมีลิฟท์พาขึ้นไปทางออกหมายเลขห้า เขาย้ำแล้วย้ำอีกว่าลิฟท์นะไม่ใช่บันไดเลื่อน พอพวกเราเดินไปเห็นบันได้เลื่อนก็ขึ้นเลยเพราะมองหาลิฟท์ไม่เจอ (คงต้องเดินผ่านไปอีก) พอออกจากบันไดเลื่อนถึงเข้าใจว่าทำไมเขาไม่แนะนำบันไดเลื่อนเพราะหลังจากบันไดเลื่อนก็เป็นบันไดที่ต้องเดินต่อ (หนีไม่พ้นการยกกระเป๋าขึ้นบันได) ใจในขณะนั้นอยากจะนั่งแท็กซี่ไปยังที่พักแม้ว่ามันจะอยู่ไม่ไกลนัก หากนั่งแท็กซี่ก็ต้องเลี้ยวยูเทิร์นกันอุตลุด เลยต้องตัดใจเดินลากกระเป๋าไปยังที่พัก พวกเราพักกันที่ Jongnowon ที่เดียวกันกับเมื่อคืนแรก เจ้าของที่พักเกิดจำไม่ได้ (สงสัยจะความจำเสื่อม) คุยกันอยู่สักพักถึงจะเข้าใจกัน ตอนแรกอยากจะพักห้องพักเดิมที่ชั้นสอง แต่ไม่ว่างเลยได้ชั้นสามแทนก็โอเคห้องก็เหมือนกั
 
              หลังจากวางของเสร็จ ก็ออกไปตะลอนๆ ทั้งที่ฝนตกพรำๆ ที่แรกที่ไปก็คือ Tourist Information ซึ่งอยู่ทางออกที่หก (ถามจากเจ้าหน้าที่ตอนขามา) เราก็เอาง่ายคือลงที่หมายเลขห้า เดินไปยังทางออกหมายเลขหก (เดินลงบันได เดินขึ้นบันได ไม่ใช่ขั้นสองขั้นนะ) ออกมาเดินตรงมาสักนิดก็เจอซุ้มของ Tourist Information มีเจ้าหน้าที่สาวอยู่คนหนึ่งอยู่ตรงหน้าต่างซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้ดี ขอคำแนะนำว่าแถวนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง เธอจัดการให้แผนที่มาแนะนำ ได้ใจความว่าบริเวณนั้นเรียกว่าอินซาดอง มีพระราชวังอยู่ไม่ไกล มีถนนเดินช้อปปิ้งอยู่ข้างหน้า เป็นที่รวมของวัยรุ่นและศิลปะต่างๆ

             

             

             

             วันนี้ฝนตกพรำๆ ก็เลยแวะเข้าไปยังที่เดินช้อปปิ้ง เป็นศูนย์การค้าเล็กๆ แต่ตกแต่งสถานที่สวยดี มีร้านค้าโชว์ของกุ๊กกิ๊กมากมาย ไปทานอาหารเที่ยงกันที่ชั้นดาดฟ้า สั่งอาหารด้วยการชี้รูปภาพตามเคย อาหารอร่อยทานหมดเกลี้ยงตามเคย มื้อนี้จ่ายไปหนึ่งหมื่นเก้าพันวอน จากนั้นก็เดินไปลงซับเวย์เพื่อไปยังสถานียงซาน (Yongsan) เพื่อจะไปดูกล้องที่ i-Park สถานียงซานนี้ใหญ่มากอยู่ในศูนย์การค้า เชื่อมไปยัง Yongsan Station ซึ่งเป็นสถานีรถไฟมี KTX ผ่านด้วย เราเดินอยู่พักใหญ่ก็เดินทางกลับไปลงสถานีจงโน่ ซัมกะ (สถานีที่ 130) เดินเที่ยวไปเรื่อยมองดูร้านอาหาร ทำท่าว่าจะกินหมูย่างเกาหลีอีกสักมื้อ แต่เห็นคนมากมายและส่งเสียงดัง เลยเปลี่ยนใจไปอีกร้านหนึ่งซึ่งดูเงียบสงบกว่าและอาหารที่เห็นในรูปก็น่าสนใจดี มองดูเหมือนเป็นกิมจิร้อน ควันฉุยเดือดพล่าน สั่งมาหนึ่งชาม ในนั้นมีหมูด้วย รสชาติเหมือนแกงส้มบ้านเรา ทานกับข้าวสวย อาหารหมดเกลี้ยงตามเคย จากนั้นก็เดินกลับแวะร้านค้าบ้าง แต่เนื่องจากฝนตกเลยไม่ซื้ออะไรเลย กลับถึงที่พักเกือบสามทุ่ม วันนี้แช่น้ำอุ่นตามเคย ทำให้สบายตัวทำให้หลับสบายเตรียมตัวเที่ยวโซลในวันพรุ่งนี้เพราะบ่ายก็กลับเมืองไทยแล้ว

              

                                                          อาหารมื้อกลางวัน

              

                                                  บันไดขึ้นไป Yongsan Station และ i-Park Mall

                

                                                  อาหารมื้อเย็น - กิมจี่ร้อน (คล้ายแกงส้ม)

คำสำคัญ (Tags): #korea
หมายเลขบันทึก: 400678เขียนเมื่อ 3 ตุลาคม 2010 20:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2012 21:24 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

          สาวๆ กำลังแต่งหน้า แต่งตา

 

          

เอ...ดูเหมือนว่าจะแต่งหน้ากันบนบันไดหรือเปล่าครับนั่น เหมือน นศ.ผมที่นี่เลยครับ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท