พรุ่งนี้แล้วซิครับที่ ผู้ว่าน่านท่านใหม่ นายเสนีย์ จิตตเกษม จะเดินทางมาถึงน่าน สำหรับผู้ว่าเก่าที่เกษียณอายุราชการ นายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช และภรรยาได้ออกจากน่านไปตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓ แล้วล่ะครับมีผู้เดินทางไปส่งที่จวน ไปรับประทานอาหารแล้วตามไปส่งที่บริเวณเขาครึ่ง อ.เวียงส เส้นเขต จ.น่านและ จ.แพร่
ประชาชนเองไม่ค่อยจะตื่นเต้นมากนักกับการเปลี่ยนแปลงโยกย้าย เพราะผู้ว่าเป็นตำแหน่งที่มีการโยกย้ายตามคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาของผู้ว่า ประชาชนเลือกไม่ได้ บ่อยครั้งมักได้ยินว่า ผู้ว่าถูกเตะมาน่านบ้างล่ะ ผู้ว่าถูกลงโทษให้มาน่านบ้างล่ะ
ประชาชนเคยไปไต่ถามผู้ว่า โดยใช้ประโยคว่า ตัวท่านมาแล้วถามตรง ๆ ว่าใจท่านมาหรือไม่ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ พวกเรามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมพัฒนาเมืองน่านดีไหม อะไรทำนองนั้น ต้องการสื่อสารให้ผู้เข้ามาเยี่ยมชมได้รับทราบว่า อะไรกันนักกันหนา
ประธานสภาเด็กและเยาวชน จ.ศรีษะเกษ ได้เข้ามาเยี่ยมชม และให้ข้อมูลว่า ภายใน ๑ ปี จังหวัดของเขาเปลี่ยนผู้ว่าไปแล้ว ๓ คน ทำให้ต้องนึกถึงจังหวัดเชียงรายเปลี่ยนผู้ว่าเป็นว่าเล่นเช่นกัน ในส่วนนี้ทำให้นึกถึงป้ายต่าง ๆ ที่โดยผู้ว่า ๆ ๆ ๆ ก็คงต้องเปลี่ยน จึงมองและอยากเสนอแนะว่า ผู้ว่าไปไหนอย่าใช้ชื่อท่านไปปรากฏในป้ายเลย ( ออกกฎระเบียบกำกับไว้น่าจะดี ) เพราะการระบุชื่อ ด้านหน้าแล้วมีตำแหน่งพ่วงท้าย น่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว ก็เหมือนเรามีหนังสือหรือจดหมายไปตามชื่อ - ชื่อสกุล ตำแหน่งพ่วงท้ายเขาถือว่าเป็นส่วนตัว หากระบุตำแหน่งอย่างเดียวหนังสือจะเป็นไปตามระบบงานสารบัญ
ท้ายสุดบันทึกวันนี้จะบอกว่า พรุ่งนี้ ๓ ต.ค.๑๐น. ผู้ว่าท่านใหม่จะบินจาก กทม.มาลงที่สนามบินน่าน ( เรียกว่าท่านนี้บินมา ทำให้อดนึกถึงการที่ ท่านผู้ว่าสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ท่านนั่งรถยนต์เข้ามา จ.น่านแต่มาติดขัดปัญหาเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดปิดถนนบริเวณด่านตรวจบ้านห้วยน้ำอุ่น เมื่อ ๒๐ ต.ค.๒๕๕๐ ) อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด อะไรจะเป็นก็ต้องเป็น บ้านเมืองนี้ไม่ใช่ของใครคนใดคนใดคนหนึ่ง จะโยนกันไป โยนกันมา บอกว่าเป็นหน้าที่ของผู้ว่า หน้าที่ของคนโน้นคนนี้ พูดก็พูดได้ล่ะครับแต่เมื่อท่านได้โยกย้ายหรือจากพวกเราไป ใครล่ะครับที่อยู่ใกล้ชิดกับพวกท่านมากที่สุดหากไม่ใช้สมาชิกครอบครัวและชุมชน
ไม่มีความเห็น