อ่านรายละเอียดเรื่อง Harvard Finds Scientist Guilty of Misconduct ได้ที่นี่ จะเห็นว่ามีกลไกหลายส่วนเข้ามาช่วยกันตรวจสอบ ไม่ใช่ปล่อยให้มหาวิทยาลัยว่ากันเองเป็นการภายในเท่านั้น หากเกี่ยวข้องกับเงินวิจัยของรัฐ ก็มีกลไกตรวจสอบการทำผิดทางวิชาการของรัฐเข้ามาตรวจสอบ มีกลไกของวงการวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย และที่สำคัญ จะเห็นว่า ผูใกล้ชิดคือนักศึกษาผู้รู้เห็น กล้าที่จะเปิดโปง รวมทั้งนักวิทยาศาสตร์ด้วยกันเมื่อพบผลงานแปลกๆ ก็มีการตรวจสอบข้อมูล
ระบบวิจัยไทยจะเติบโตงอกงามพัฒนาเข้มแข็งได้ ต้องมีกลไกเฝ้าระวังตรวจสอบการทุจริตทางวิชาการที่เอาจริงเอาจังด้วย
วิจารณ์ พานิช
๒๒ ส.ค. ๕๓
เรียนอาจารย์วิจารณ์
ดิฉันอยากเห็นกระบวนการแบบนี้ในมหาวิทยาลัยไทยบ้าง ตอนนี้ได้แต่นับจำนวนชิ้นงานตีพิมพ์ เพื่อให้คะแนน QA ดีๆ มีเงินรางวัลการตีพิมพ์ให้ด้วย ไม่มีใครตรวจสอบว่างานชิ้นนั้นๆ เป็นมาอย่างไร กระบวนการตรวจของวารสารที่รับตีพิมพ์ก็ไม่ทราบว่าลึกซึ้งขนาดไหน
วัลลา
คุณลุงครับ
ระบบที่คุณลุงกับกลุ่มของคุณลุงสร้างมา มันกำลังบ่มให้เรามีปัญหาการทุจริตกันนะครับ คุณลุงสร้างสกว.ให้นับจำนวน paper เป็นหลัก ผมอยากให้คุณลุงเน้นที่คุณค่าของงานครับ ว่ามันให้อะไรบ้าง
ทั้งนี้ผมชอบการที่คุณลุงเขียนเรื่องคนดีวันละคน แต่คนดีของคุณลุงบางคน มี paper เยอะ คุณลุงก็ชมเขา แต่คุณลุงลองอ่านงานเขาดูแล้วจะหนาวครับ งานแย่มาก ๆ
คุณลุงทำความดีให้ประเทศมาเยอะ ผมไม่อยากให้คุณลุงพลาดในช่วงท้ายของ career ครับ บาปบริสุทธิ์มันเกิดขึ้นได้ครับ คุณลุงก็รู้ว่ามี่มหาลัยหลัก ๆ ก็เจอปัญหาการทุจริตเรื่องการตีพิมพ์บ้างพอควร แต่คุณลุงครับ หลานเชื่อว่ายังมีอีกเยอะครับ
ผมอยากเห็นคุณลุงเลิกชมคน เลิกชมความตั้งใจที่ดี แต่มาชมว่างานของเขาดียังไง ได้ประโยชน์อย่างไรดีกว่าครับ
เรียนท่านอาจารย์ครับ
ผมมองว่ายังไงปัญหาก้ยังอยู่แหละครับเพราะในบ้านเรายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ระบบธรรมดาจัดการมิได้ สภาพสังคมมันต่างกันกับอเมริกาครับ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยครับ