ด้วยเป็นคนชอบดูการแสดงหนังตะลุง ชอบสังเกตุการว่าบท การใช้เสียงของตัวหนังตะลุง การแสดงคำพูดตัวหนังแต่ละตัวตามนิสัยของตัวหนัง (ตัวตลกหนังตะลุงคือตัวแทนคนที่เคยมีอยู่จริง ที่มีการพูด ท่าทาง และนิสัยประจำตัวที่แตกต่างกัน) ชอบสังเกตุเปรียบเทียบว่านายหนังพากได้กินรูปแค่ไหน ส่วนอื่นๆเช่นดนตรี เนื้อเรื่องก็ดูว่าดำเนินเรื่องได้อย่างไร
และสังเกตุคนหน้าโรงหนัง เห็นว่าเป็นคนที่มีอายุ กลางคน คนแก่ หรือคนวัยทำงานส่วนใหญ่ และสิ่งสำคัญที่สนใจมากๆคือ หากหนังไปแสดงนอกเมือง คนดูหนังก็จะเป็นเกษตรกร เป็นผู้จัดการให้เกิดผลผลิตทางด้านการเกษตร และคิดว่าเป็นประเด็นที่จะพูดถึงในบล็อคนี้
การแสดงหนังตะลุง เป็นศิลปะพื้นบ้านที่สามารถดึงความรู้สึกของคนดูให้คิดว่าตัวหนังตะลุงคือ การดำเนินชีวิตของคนปกติ คิดว่าตัวหนังมีชีวิต ดังนั้น การแสดงหนังตะลุงจึงสามารถเป็นสื่อในการถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรได้อย่างดี
จอหนังตะลุง ด้านล่าง จะมีพื้นที่สำหรับประชาสัมพันธ์ได้อย่างดี เพราะทุกคนจะต้องมองไปยังจอหนังตลอดการแสดง
บทปรายหน้าบทหนังตะลุง หลังจากกาดครู หรือขอบคุณเจ้าภาพ แล้วอาจสอดแทรกเนื้อหาที่จะสื่อไปได้
บทเจรจา สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ โดยเฉพาะตัวตลกต่างๆ เพราะพูดได้ทุกเรื่อง และเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย
ปัจจุบันมีนโยบายในการส่งเสริมการเกษตรที่ต้องการให้เกษตรกรและบุคคลทั่วไปเข้าใจและปฏิบัติหลายโครงการ เช่น การเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียง การปลูกพืชแบบปลอดภัยจากสารพิษ การประกันรายได้ ฯลฯ
ฉะนั้น หากมีโอกาสให้นายหน้งตะลุงเป็นสื่อ หรือประชาสัมพันธ์งาน ก็น่าจะเป็นช่องทางหนึ่งในการช่วยเป็นสื่อให้นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรอีกทางนะครับ
ดีครับจะได้รู้เรื่องราวทางใต้บ้าง เรื่องราวของท้องถิ่นก็น่ารู้ครับ วิถีชีวิตก็ดี
อันนี้นำมาฝาก http://gotoknow.org/blog/ruamrosbotkawi/363844
สวัสดีครับท่านเกษตร นายหนังพากพ์กินรูป เข้าโหม่ง น่าฟัง นอกจากนั้นสมัยก่อนเวลาแข่งขันนายหนังยังเฆี่ยนรูปด้วย เป็นศิลป์ในการนำชัย
มาชวนท่านเก๖รไปฟังหนังมุน แข่งกับหนังแล้ว เสียงทอง ที่วัดดอนหลา ควนหนุนที่นี้ครับท่าน