คบเด็กสร้างชาติ • โตไปไม่โกง โครงการดีๆ ที่ทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญอย่างจริงจัง เพื่อเป็นการสร้างชาติอย่างยั่งยืนด้วยการพัฒนาทุนมนุษย์


โครงการโรงเรียนสีขาวหลักสูตรคบเด็กสร้างชาติ • หลักสูตรโตไปไม่โกง ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเติมเต็มความบกพร่องของสังคม ให้ได้รับการเพิ่มพูนทรัพย์สินทางปัญญาให้เกิดความสมบูรณ์ ตั้งแต่เยาว์วัยทั้งเรื่องอารยะสังคมครอบครัว สิ่งแวดล้อม สังคมเมือง สังคมที่มุ่งเน้นด้านความเจริญทางวัตถุ มุ่งเน้นความเจริญภายนอก สร้างจุดสมดุลย์เพียงการแข่งขันที่ทันเทียมสังคมโลกในระดับสากล แต่เราไม่ควรมองข้ามสังคมแห่งการเรียนรู้ สังคมแห่งการศึกษา สังคมแห่งการสร้างภูมิปัญญาโดยเฉพาะเด็ก และเยาวชน กำลังสำคัญของสังคมที่จะสร้างความยั่งยืนในการสร้างชาติสู่การแข่งขันอย่างยั่งยืนต่อไป

 

 

คบเด็กสร้างชาติ • โตไปไม่โกง

ปฏิมากรรมที่สร้างได้

รากฐานของชาติอยู่ที่การสร้างทรัพยากรมนุษย์

หรือทุนมนุษย์ ทุนทางปัญญา

ทุนทางอารมณ์ 

 สู่สังคมที่ยั่งยืนด้วยความสุข

เมื่อวานนี้ผมได้มีโอกาสดูทีวีข่าวช่อง 3 (ข่าวภาคดึก ทางช่อง 3 โดยคุณกิตติ สิงหาปัด ผู้ประกาศข่าวที่ผมชื่นชอบ พอกับคุณสรยุทธ์) นั่งคิดงานอยู่เพลินๆ ก็สะดุดกับเสียงข่าวจากโทรทัศน์

ด้วยคำว่า

"คบเด็กสร้างชาติ โตไปไม่โกง"

ครั้งแรกที่ได้ยิน เขาใจว่าได้ฟังผิด หรือไม่ก็หูเพี้ยนเสียแล้ว เข้าใจว่า"คบเด็นสร้างบ้าน ต้องหามจั่วหามเสา" ตามสุภาษิตไทยๆ ของเราที่พร่ำสอนบุตรหลาน ให้เลือกคบเพื่อน เลือกสังคม และต้องขยันศึกษาหาความรู้ ใฝ่หาความรู้จากตำราทั้งในห้องเรียน และนอกห้องเรียน รวมทั้งศึกษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันทางปัญญาที่จะไม่ทำให้เยาวชนของชาติต้องเดินผิด เดินอ่อนเปี่ยเสียขา เหมือนเป็ดง่อย เป็นปัจจัยที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง

การศึกษา

 และปัญหารอบด้านที่สังคมมีการพัฒนา

ในเชิงวัตถุ

 แต่ในแง่จิตใจเยาวชนยังขาดความต่อเนื่อง

ในการเรียนรู้

เทคโนโลยีมีทั้งข้อดีและไม่ดี

 การรู้เท่าทันสังคมเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

มีอีกมากมายหลายสิ่งที่ทำให้เยาวชน ต้องเดินหลงผิด ไม่ว่าจะเป็นปัญหา เด็กเร่รอน เด็กจรจัด เด็กขาดความอบอุ่น ถูกพ่อ แม่ ทิ้งตั้งแต่เล็ก เพราะเกิดความไม่พร้อมที่จะมีทายาทไว้สืบสกุล การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ปัญหายาเสพติด การพนัน การค้าประเวณีเด็ก การทะเลาะวิวาท การพนันขันต่อ ฯลฯ

    สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่ถูกบ่มเพาะมาเป็นเวลานาน และยากที่จะแก้ไขได้อย่างตรงจุด ตรงประเด็น เป็นปัญหาทางสังคมที่ยากต่อการแก้ไข หากขาดความรู้ ความเข้าใจ และความจริงใจ จริงจังของทุกภาคส่วนที่ต้องร่วมมือกันอย่างเป็นระบบ ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่เตะถ่วง ไม่โยนเผือกร้อนให้กันและกัน แผนพัฒนาประเทศก็ต้องมีความต่อเนื่องเหมือนอารยประเทศที่เจริญแล้ว

ประเทศไทยมีสิ่งดีงาม

 มากมายที่ต้องธำรงรักษา

 ทำนุบำรุง อย่างน้อยเราก็มี

สถาบันชาติ

ศาสนา

พระมหากษัตริย์ พระราชวงศ์จักรี

พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย

ทรงเป็นที่รักยิ่ง

ปัญหาเหล่านี้ต้องได้รับการแก้ไข อย่างทันถ่วงที เพื่อให้เกิดเป็นบริบทมาตรฐานการพัฒนาชาติไทย ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่เลือกสี เลือกข้าง ประเทศต้องการพลังจากชาวไทยทุกคน ปัญหาในการพัฒนาทุนมนุษย์เป็นปัญหาในระดับชาติ และหลายประเทศที่เป็นประเทศกลุ่มที่ 3 กลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา ต้องพึงตระหนักเป็นอย่างยิ่ง

ประชาชนดี

มีคุณภาพ 

สร้างมูลค่าเพิ่ม

สร้างภูมิคุ้มกันให้ชาติ

เกิดความแข็งแกร่ง

สู่การแข่งขันในระดับสากล

 ประชาชนพลเมืองของประเทศ

และเป็นพลเมืองของโลกต้องมีคุณภาพ

 หากไร้ซึ่งประสิทธิภาพ

ไร้ประสิทธิผลด้านต้นทุนมนุษย์ 

ก็จะทำให้ทรัพยากรของสังคมขาดคุณภาพ 

และสิ่งเหล่านี้

จะเป็นเนื้อมะเร็งร้าย

ที่เป็นสนิมทางสังคมที่กัดกร่อน

ให้อวัยวะสำคัญๆ ของสังคมไทย

 ต้องบอบช้ำไปเป็นเรื่องที่เรื้อรังมาโดยตลอด

 และอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้ชาติล่มสลาย

 หากขาดการปล่อยปะละเลย

"แต่ผมเชื่อนะครับว่าอย่างไรคนไทย

ก็รักกัน"

ผมได้ยิน และนั่งนิ่งทบทวนฟังอีกครั้งกับคำว่า

"คบเด็กสร้างชาติ โตไปไม่โกง"

ตรงใจและโดนใจเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาล และทุกภาคส่วนให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ริเริ่มโครงการดีๆ เพื่อสังคม สร้างก่อเกิดประโยชน์ต่อมนุษย์ชาติ โดยเฉพาะสร้างสังคมตั้งแต่ในวัยเด็กเพื่อสร้างสังคมให้เกิดความตระหนักที่โตขึ้นมาแล้วจะไม่โกงกินบ้าน ไม่กินเมือง เหมือนกับกลุ่มคนที่หวังผลประโยชน์ แอบแฝงอยู่ในสังคมปัจจุบันเกือบทุกระดับชนชั้น

โครงการดีๆเช่นนี้ทำให้ผมเกิดความกระตุ้นเตือน และอยากขีดเขียน ตามประสาของคนช่างสังเกตุ และชอบเก็บตกนำสิ่งดีๆ มาเผยแพร่สู่สังคมแห่งความรู้ของเราชาว gotoknow ไม่หยิบยกมาก็จะเป็นคนที่เห็นแก่ตัวต่อสังคมเป็นแน่แท้ จึงขอนุญาตนำบทคัดย่อจากข่าวมา  2 เนื้อหาเพื่อเป็นวิทยาทานต่อสังคม และขอชื่นชมต่อข่าว 2 ชิ้นนี้มาก จึงขอคัดย่อมาแบ่งปันสู่สังคมแด่ทุกท่าน

โครงการโรงเรียนสีขาวหลักสูตร

คบเด็กสร้างชาติ • หลักสูตรโตไปไม่โกง

รศ.ดร.จุรี วิจิตรวาทการ

ประธานศูนย์สาธารณะประโยชน์

และประชาสังคม

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์-นิด้า

 เป็นผู้ดูแลจัดทำหลักสูตรสำนึกดี

เพื่อติดอาวุธคุณธรรมให้เยาวชน

ผมมีโอกาสได้รับการศึกษาจากสถาบันทางปัญญาแห่งนี้ ท่านอาจารย์ จุรี เป็นหญิงแกร่งของสังคม ที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อความรับผิดชอบต่อสังคม ขอชื่นชมและน้อมคารวะมายังท่านอาจารย์ ณ ที่นี้ด้วย กับโครงการดีๆ เช่นนี้ที่มีต่อสังคม ภูมิใจเป็นที่สุดที่ได้เป็นศิษย์ท่านอาจารย์จุรี

ภาพโดย : นัทพล ทิพย์วาทีอมร

Life Style ได้เวลา...คบเด็กสร้างชาติ

                                  โดย : ชุติมา ซุ้นเจริญ

(ภาพจากนสพ.กรุงเทพธุรกิจ ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ครับ)

 

 

 “คบเด็กสร้างชาติ โตไปไม่โกง”

(Anti-Corruption)

ส่วนนี้เป็นเนื้อหาของคุณนรรัชต์ ฝันเชียร

ขอขอบพระคุณอีกเช่นกันครับ

ที่ขออนุญาตแบ่งปันสู่สังคมของเรานะครับ

จุดมุ่งหมายเพื่อสร้างค่านิยมและปลูกจิตสำนึกที่ถูกต้องให้แก่เยาวชน ในการร่วมกันต่อต้านการคอรัปชั่น โดยได้แบ่งการจัดกิจกรรมออกเป็นแต่ละระดับชั้น ตั้งแต่อนุบาล ถึง ประถมศึกษา และจะเน้นจัดกิจกรรมสร้างสรรค์สนุกสนานผ่านการเล่านิทาน การเล่นเกม  ร้องเพลง  แสดงละคร และศิลปะ ให้สอดคล้องกับสาระที่ครอบคลุม 5 ด้าน อันได้แก่

1. ความซื่อสัตย์ (Honesty and Integrity)
การยึดมั่นในความสัตย์จริงและในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม มีความซื่อตรงและมีเจตนาที่บริสุทธิ์ ปฏิบัติต่อตนเองและผู้อื่นโดยชอบ ไม่คดโกง

2. รักความเป็นธรรม (Fairness and Justice)
การปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน อย่างมีเหตุผล ไม่เลือกปฏิบัติต่อเพศ เชื้อชาติ ชนชั้น สถานะทางเศรษฐกิจและสังคม

3. เป็นอยู่อย่างพอเพียง

 (Sufficiency and Moderation)
การดำเนินชีวิตโดยยึดหลักความพอประมาณ ไม่โลภ รู้จักยับยั้งชั่งใจ และไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น

4. มีจิตสาธารณะ (Greater Good)
การคำนึงถึงสังคมส่วนรวม และพร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อรักษาประโยชน์ส่วนรวม

5. มีความรับผิดชอบ

(Responsibility and Accountability)
การมีจิตสำนึกในบทบาทและหน้าที่ของตัวเองและปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดด้วยการเคารพกฎเกณฑ์และกติกา


  นอกจากมาจากความตั้งใจของกรุงเทพมหานครร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นมาจากแนวคิด

“แผนปรองดองแห่งชาติ”

ของนายกรัฐมนตรีอีกด้วย

 และการที่จะทำงานให้สำเร็จลุล่วงได้นั้น

จำเป็นต้องมีการร่วมมือกันจากทุกภาคส่วน

ดังที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร

 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

 ได้กล่าวถึงหลักสูตรนี้

ตามรายงานของ

กองประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานครว่า

 “การผลักดันให้เกิดหลักสูตรที่มี

ประสิทธิภาพ

และประสิทธิผลในการปลูกฝังจิตสำนึก

 และค่านิยมที่ดีงามนั้น

 ย่อมต้องอาศัยความร่วมมือ

และการบูรณาการจากทุกภาคส่วน

รวมทั้งศูนย์สาธารณประโยชน์และประชาสังคม

การใช้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ

 การออกแบบหลักสูตร

การจัดกิจกรรม

และการสร้างสรรค์

สื่อการเรียนการสอนที่เหมาะสม

สำหรับเด็กแต่ละวัยร่วมกัน

เพื่อเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างการตระหนักรู้

ความเข้าใจ

และกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน

เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันตนเอง

 และเป็นแรงผลักดันให้เด็กแต่ละคนรู้สึกต่อต้าน

และกล้าต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง

โดยนึกถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก

อันจะส่งผลที่เป็นรูปธรรม

                        อย่างยั่งยืนในที่สุด”

นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการแก้ไขปัญหาใหญ่อย่างปัญหาทุจริตคอรัปชั่น แต่ก็ไม่แน่ใจว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังหรือไม่ เพราะในขณะที่เด็กต้องเรียนรู้เพิ่มเติมในหลักสูตรนี้ เพื่อส่งเสริมคุณธรรมทั้ง 5ข้อ แต่ผู้ที่เป็นแบบอย่างของเด็ก เช่น ผู้ใหญ่ ยังคงปล่อยให้ปัญหานี้เป็นเรื่องธรรมดาของสังคมไป น้ำดีที่ใสสะอาดเพียงน้อยนิดของเด็ก ๆ ไม่อาจจะไปต้านทานสิ่งสกปรกที่ผู้ใหญ่ได้กระทำไว้ได้ และสุดท้ายเมื่อถูกรวมอยู่ในน้ำสกปรก ก็ต้องปนเปื้อนความสกปรกเสียจนหมดสิ้น เว้นแต่เพียงว่าเราจะกรองน้ำดีออกจากน้ำสกปรกให้ได้เสียก่อน ซึ่งการกรองน้ำดีนั้นก็คือการตรวจสอบเพื่อขจัดบุคคลที่ทุจริตออกจากกลุ่มบุคคลที่สุจริตนั้นเอง


ปัจจุบันนี้ปัญหาในบ้านเมืองเราหลากหลายปัญหา เกิดขึ้นจากการปล่อยปละละเลยในการตรวจสอบ จนส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่ กลุ่มคนทุจริตสามารถเข้าถึงอำนาจต่าง ๆ ได้โดยง่าย และสามารถควบคุมการดำเนินงานต่าง ๆ ได้แม้กระทั่งองค์กรที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบเอง ซึ่ง สิ่งหนึ่งที่ทำให้ปัญหาเช่นนี้ไม่มีทางหมดไปก็คือ การที่เราทุกคนยังให้ความสำคัญกับวัตถุ เช่น เงินทอง หรือลาภยศฐานะ มากกว่าการจะให้ความสำคัญคือด้านจิตใจ


 สรุปได้ว่า

ทรัพยากรมนุษย์นั้น

สร้างได้อย่างแน่นอน

หากเรามีโอกาสได้ทุ่มเทกายใจ

 ทุกภาคส่วนร่วมมือกันทำอย่างจริงจัง

ทรัพยากรใดๆ

ก็ไม่สำคัญกว่าทรัพยากรมนุษย์

หรือทุนมนุษย์

และต้องมุ่งเน้นการสร้างทุนทางปัญญา

ทุนทางอารมณ์

เพื่อเป็นการสร้างชาติ

สร้างสังคมในระยะยาวต่อไป

    คบเด็กสร้างชาติ     โตไปไม่โกง

อ.ภูชิสส์ ศรีเจริญ

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 397488เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2010 21:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • "โตไปไม่โกง"  ชอบคำนี้มากค่ะ
  • ประเทศชาติวันนี้มีปัญหาคนโกงมากมาย
  • ได้แต่หวังวันหนึ่งจะมีสังคมอุดมการณ์ มีผู้ใหญ่ที่ซื่อสัตย์ งดงาม
  • ชื่นชมแนวคิด 
  • ขอบพระคุณที่แบ่งปันค่ะ

ทำอย่างไรให้ทุกโรงเรียนมีหลักสูตรนี้ "โตไปไม่โกง" ในทุกระดับของการศึกษา

อันนี้นำมาฝาก เรื่องราวของหัวหินครับ อ่านที่นี่

สวัสดีครับ....ต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งนะครับที่เข้ามาเยี่ยมบ้านเพิ่มเติมและแบ่งปันความรู้สู่สังคม

1.สำหรับคุณธรรมทิพย์ ใจตรงกับผมมากเลยครับที่มุ่งหวัง และอยากเห็นทรัพยากรมนุษย์ หรือเยาวชน ในทุกระดับชั้นเติมใหญ่แล้วก็ไม่คดโกง โกงกินบ้านเมือง เป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพ เป็นทรัพยากรทางดุลยภาพที่มีความแข็งแกร่ง ผมมีความเชื่อว่าการบ่มเพาะทรัพยากรมนุษย์ให้ดีนั้น มีวิธี และกระบวนการทั้งศาสตร์ และศิลป์ สามารถทำได้ อย่างน้อยก็ต้องมีความจริงใจต่อกัน ขอขอบคุณสำหรับการเข้ามาเยี่ยมเยียนนะครับ ผมแอบเข้าไปบ้านคุณธรรมทิพย์แล้วนะครับ มีเรื่องน่าสนใจ น่าศึกษาเป็นจำนวนมากเลยครับ ขอชื่นชมเช่นกัน

2.ท่านโสภณ เปียสนิท ครับ ทราบว่าตอนนี้โครงการดังกล่าวจะเริ่มในช่วงเดือนหน้าแล้วครับ เปิดเทอมสอง โรงเรียนที่ขึ้นกับ กทม.จะได้สัมผัสกับโครงการดีๆ แล้วครับ จริงอย่างที่ท่านตั้งคำถามครับ ผมก็ประสงค์อยากเห็นโครงการดีๆ เช่นนี้เกิดขึ้นทุกภาคส่วน ไม่เฉพาะกับโรงเรียนเท่านั้นครับ ต้องรวมทั้ง วิทยาลัย มหาวิทยาลัย สถาบัน (บวร= ความหมายนี้หมายถึง บ=บ้าน , ว=วัด,โบสถ์ , มัสยิด,สถานที่สำคัญของแต่ละศาสนะด้วยนะครับ และสุดท้าย ร=โรงเรียน หรือสถานศึกษา ฯลฯ) และทุกอย่างต้องทำอย่างจริงจัง และจริงใจ ใช่ไหมครับ ขอฝากให้กับผู้หรับผู้ใหญ่ของบ้านเมืองให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องด้วยนะครับ และท่านกับผมก็เช่นกันต้องเป็นเสาหลักของสังคมแห่งความรู้นี่เช่นกันนะครับ เพื่อการสร้างสังคมที่น่าอยู่ สังคมที่มีคุณภาพ สร้างชาติ ด้วยการพัฒนาทุนมนุษย์สู่สังคมที่ยั่งยืน ด้วยความสุข นะครับ สุดท้ายขอบพระคุณท่านมากนะครับที่นำเรื่องราวดีๆ มาฝาก ขอขอบพระคุณยิ่งนะครับ...มีสิ่งใดที่ผมรับใช้ได้ด้วยความยินดียิ่ง

3.สำหรับคุณ จาริยา จุ๊บุจุ๊บุ จับใจนาย ขอขอบคุณนะครับที่เข้ามาเยียมเยียน และแบ่งปันน้ำใจต่อกันครับ เข้ามาบ่อยๆ นะครับ

ขอขอบคุณยิ่ง

อ.ภูชิสส์ ศรีเจริญ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท