เกษตร อาหาร และวิจัย


วันนี้ข้าพเจ้าไม่ได้เข้าเรียนแต่จากที่ได้ฟังการบรรยายของอาจารย์จากเทปเสียงก็พอที่จะได้แนวทางการบรรยายของอาจารย์ดังนี้

เป็นเรื่องเกษตร อาหาร และการวิจัย จากท่านอาจารย์ พีรเดช แนวทางที่อาจารย์ให้คือสถานการณ์ที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ในขณะนี้ จำนวนประชากรที่จะมีในอนาคตอีก 20 ข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนวัยของคนทำงานจริงจะเปลี่ยนเป็นผู้สูงวัย และอัตราการเพิ่มของประชากรก็ลดลงที่จะเป็นวัยทำงานในอนาคตก็ลดลง ช่องว่างของคนก็จะมากขึ้นด้วย สิ่งที่จะเกิดแน่ๆ คือการขาดแคลนแรงงาน การถือครองที่ดินอย่างไม่เป็นธรรม การแย่งชิงน้ำ ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ปัญหาในการเข้าถึงอาหาร และยารักษาโลก การไม่เท่าเทียมกันในสังคม และการตกงานในสาขาที่ผลิตจำนวนมาก

การเกษตรของไทยเรากำลังมีการเปลี่ยนแปลงคือมีแรงงานน้อยลง พร้อมทั้งอายูของแรงงานก็เพิ่มมากนั่นเป็นตัววัดว่าประสิทธิภาพกำลังจะไปในแนวทางใด มีการนำเครื่องจักรกลการเกษตรมาใช้มากขึ้น แต่ผลผลิตในหลายๆพืชกับน้อยลงเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านเช่น จีน เวียดนาม ซึ่งพืชเหล่านั้นได้แก่ ข้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน

 ซึ่งอาจเป็นผลเนื่องมาจากการใช้พันธุ์ที่ต่าง แต่ปัญหาสำคัญคือการขาดแคลนน้ำทำให้พื้นที่มีชลประทานมีผลผลิตที่มากกว่าที่ไม่มีชลประทาน นอกจากนี้แล้วปัญหาอีกอย่างก็คือเรื่องการขนส่ง ซึ่งไม่เป็นระบบเท่าที่ควร ถ้าสามารถ ลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปได้จะทำให้มีค่าใช้จ่ายลดลงอย่าง ผลที่ตามมาก็จะได้กำไรมากขึ้น อีกทั้งไทยไม่สามารถที่จะทำการแปรรูปสินค้าส่งออกได้ดีเท่ากับประเทศอื่นๆ เพราะเราส่งแต่วัตถุดิบออกไป ทำให้ราคาที่ได้ต่ำ แต่ถ้าเราทำการแปรรูปวัตถุดิบที่เราผลิตได้จะทำให้สร้างคุณค่าของสินค้าอย่างมาก

ปัญหาอีกอย่างคือการเปิดการค้าเสรีที่ทำให้เกิดการกีดกันทางการค้าอย่างมาก คือการนำเอาเรื่อง ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมเข้ามาเป็นตัววัดการส่งออก

ดังนั้นเราควรจะมาพิจารณาดูว่าอะไรที่เราจะได้เปรียบเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ และเราก็มาพิจารณาว่าเราขาดอะไรเราควรจะทำอะไร และงานวิจัยเรามีมากน้อยแค่ไหน และผู้ที่ทำงานวิจัยจริงมีแค่ไหน เราต้องผลิตผู้วิจัยในแนวทางไหนบ้างเพื่อจะได้มาทำงานวิจัยนั้นๆออกมาให้เป็นรูปธรรมจริง

แนวทางในตลาดโลกแล้วจะมีการนำเอาเรื่องของโลกร้อน ที่เกี่ยวโยงกับคาร์บอนเครดิตเข้ามา รวมทั้งในเรื่องของอาหารปลอดภัยในอนาคต  ซึ่งเกี่ยวนำไปถึงเพื่อสุขภาพ บำรุงร่างกาย และความสวยความงาม

อย่างที่เห็นในปัจจุบันการพัฒนาของอาหารจะออกมาในรูปแบบต่างๆกันอย่างมากเพื่อชีวิตที่มีการเปลี่ยนแลง เนื่องมาจากเวลาที่จำกัดดังนั้นอาหารสะดวกซื้อมีมากขึ้น พร้อมทั้งนำพืชผักมาผลิตเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้น เช่นน้ำผลไม้ต่างๆ ดังนั้นเราควรกลับมาดูบ้านเราว่าเรามีอะไรบ้างที่จะสามารถนำมาทำตลาดได้เพื่อแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ขึ้นกับว่าเรารู้จักใช้หรือไม่ เช่น พืชผักพื้นบ้าน หรือสมุนไพรต่างๆที่จะสามารถนำมาพัฒนาให้มีมูลค่าเพิ่มได้

ตัวอย่างงานวิจัยที่มีของเราก็มี ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ผัก ผลไม้ ไม้ดอก สมุนไพร ประมง ปศุสัตว์ ซึ่งการทำวิจัยเหล่าจะมีปัญหาทั้งนโยบาย และโครงที่ไม่ลงตัว ควรจะมีการศึกษา แก้ไขให้ตรงกับความต้องการจริง และมีการปรับเปลี่ยนน้อยหรือไม่เลยก็จะทำให้การวิจัย สามรถที่จะไปได้ไกลมากขึ้น

  

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 396273เขียนเมื่อ 21 กันยายน 2010 00:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 16:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท