วันหนึ่งครูจ่ายเงินค่าซื้อปลาที่ตลาด แต่แม่ค้าทอนเงินผิดด้วยความที่ไว้ใจกันเพราะเป็นลูกค้ากันเสมอเลยไม่นับเงินทอนเอาใส่กระเป๋าเลย ซื้อกับข้าวไปเรื่อยกลับถึงบ้านเอาเงินมานับว่าเหลือเท่าไหร่ อ้าว ทำไมเงินเหลือเยอะจัง แต่ในคืนนั้นต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ๒-๓ วัน กลับถึงบ้านไปตลาดเอาเงินทอนที่ทอนผิดเป็นร้อยนะคะ คืนแม่ค้า แม่ค้า งง แล้วถามครูว่า ครูเอาเงินมาให้หนูทำไม ครูเลยบอกแม่ค้าว่าทอนเงินให้ครูผิดเมื่อสามวันที่แล้ว แม่ค้าบอกว่าหนูจำไม่ได้ ครูเลยอธิบายเขาบอกว่าตั้งแต่เป็นแม่ค้าขายปลา มีครูนี่แหละที่เอาเงินทอนมาคืนแม่ค้า ตั้งแต่นั้นมาแม่ค้าทั้งแจก ทั้งลด ทั้งแถม ครูต้องบอกว่าเดี๋ยวขาดทุน อย่าลด แลก แจก แถมนักเลย สมาคมชาวตลาดเขาให้แม่ค้าเสนอชื่อลูกค้าที่ซื่อสัตย์แกเลยโฆษณาครูซะเลย แม่ค้าที่ตลาดเลยรู้จักครู
จากประสบการณ์ครูได้นำเรื่องนี้ไปสอนนักเรียนเรื่อง ความซื่อสัตย์ ว่าซื่อกินไม่หมด เป็นเหมือนที่ครูได้รับทุกวันนี้
แวะมาเยี่ยมครับครูอี๊ด ... ผมเคยทำงานที่ร้อยเอ็ด 11 ปี ครับ
จริงอย่างครูว่าครับ
คนโบราณสอนกันมาอย่างนั้น
ใช้ประกอบกับศีลข้อที่สองครับ
แต่เป็นขั้นที่สูงกว่า อ๋อ เรื่องนี้เองที่ว่า แม่ค้ารู้จักกันหมด เป็นคนดังไปเสียแล้ว
สวัสดีค่ะคุณสุภัชณัฎฐ์ หลักเมือง
ขอบคุณนะคะที่เข้ามาเยี่ยม ครูอิ๊ดเป็นคนร้อยเอ็ดตั้งแต่เกิด รู้จักคนที่ร้อยเอ็ดเยอะพอสมควร ตลาดที่ไปจ่ายกับข้าวคือคือตลาดทุ่งเจริญค่ะ แม่ค้าและพ่อค้าสองคนสามีภรรยา ขายปลา ถ้าถามแกแตอบได้เลยเพราะแกประทับใจมาก
เรียน ท่านอาจารย์โสภณ
คนดังแต่ไม่ใช่ดารานะคะอาจารย์ขา ดังกว่าคนรวยบางคนเสียอีกนะคะ เพราะคนรวยบางคนว่าให้แม่ค้าจนแกอายไม่อยากมองหน้าใครเลย เกี่ยวกับเรื่องความซื่อสัตย์นี่แหละค่ะ ครูอิ๊ดคนโบราณขนานแท้
เห็นด้วยค่ะ ครูอี๊ด
สวัสสดีค่ะครูอ้อย
เรื่องความซื่อสัตย์ครูจะสอนนักเรียนทุกครั้งที่สอน และจะยกตัวอย่างให้นักเรียนฟังด้วย
เป็นเรื่องจริงตลอดกาล
สวัสค่ะคุณปภินวิช
ขอบคุณนะคะที่เข้ามาเยี่ยม และร่วมแสดงความคิดเห็น เราทำความดีแล้วสบายใจนะคะไม่ต้องกังวลใดๆ