รายละเอียด (ต่อ)


ไม่ขึ้น ถ้าหญ้าขึ้นต้องดินแห้ง ของเราดินเป็นกะทิ หญ้าไม่ขึ้นและข้างดีดก็ไม่ขึ้นเพราะดินเปียกอยู่ ข้าวดีดจะขึ้นเมื่อดินเริ่มแตกหัวระแหง เพราะดินได้อากาศหญ้าก็จะขึ้นก็เป็นการลดปริมาณหญ้าได้ ถ้าทำเทือกหลวกๆพอปล่อยน้ำแห้งดินแห้งนกก็ลงกิน แต่ถ้าดินเปียกนกก็ไม่ลงกินเพราะเป็นหล่มกะทิพอลงกินก็จมกินไม่ได้ ก็ไม่ต้องไล่นกเพราะทำนาแค่ 2 คน แต่ถ้าเป็นผู้จัดการนาต้องจ้างคนไปไล่นกอีกวันละ 150 บาท  และไล่ทีหนึ่งก็ไปลงอีกที่หนึ่ง เขาก็ต้องจ้าง 2 คนก็ใช้ปีบเคาะไล่ไปนกก็เคยก็ไม่กลัว ก็ต้องหนังสะติก แต่ผมทำให้เนี๊ยบทำเป็นหล่มกะทิ ต้องอยู่ที่เครื่องมือด้วยก็จะใช้กล่องลูบเลย แต่ที่เขารับจ้างจะใช้คาดเอากระดานแปะๆ เอาเท่านั้น ก็เป็นข้อต่างแล้วระหว่างเราทำและผู้จัดการนา หลังจากที่จ้างคนไล่นกดินเริ่มแห้งหญ้าก็เริ่มขึ้นทันข้าวแล้วประมาณครึ่งของข้าวแล้วและไม่มีการวางแผนแค่ฉีดยาคลุมก็ฉีดเป็น 10 วันหญ้าก็ยาวแล้วก็คลุมไม่อยู่แล้วก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว เวลาหว่านข้าวก็ขึ้นมาเสมอกับข้าวก็ต้องซื้อยาเก็บมาเก็บ เก็บแล้วข้าวก็อานก็เอาปุ๋ยไปใส่ก็เป็นการเพิ่มต้นทุนโดยใช่เหตุเลย ก็คือเพิ่มยาเก็บ เพิ่มปุ๋ย ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงเพราะฉีดยาคลุมถ้ามีการวางแผนจะใช้เวลาแค่ 6-7 วันเท่านั้น พอวันที่ 8 ก็เอาน้ำเข้าและรักษาระดับน้ำไว้ เพราะนาจะเรียบเพราะมันอยู่ที่อุปกรณ์ด้วย คือตัวกล่องจะทำให้เรียบและกล่องนี้สารพัดประโยชน์เลยถึงทำ 2 คนได้ กล่องนี้เวลาดินไม่เรียบก็จะทำให้ดินเรียบได้ใช้กระดานหน้า 12 ดินสูงมาก จะหล้นเลยชาวบ้านเขาไม่มีเขาว่ามันยุ่งยาก แต่เรา ถ้าขาดกล่องนี้จะทำนาได้ช้ามาก ตัวกล่องนี้เป็นกระดาน 3 แผ่นตัวท้ายจะปิด และเปิดได้ และสามารถทำกลางคืนก็ได้ ที่ต้องทำกลางคืนได้เพราะผมทำมาก ชาวบ้านเขามีแค่ 20-30 ไร่เท่านั้นเอง แต่ของผมมีเป็น 100 ไร่ถ้าเขาเสร็จ ผมก็เสร็จเช่นกันเพราะนาทุ่งเดียวกันเวลาน้ำแห้งก็ต้องแห้งเหมือนกัน ก็ต้องรีบหน่อยเพราะผมทำเองทุกอย่าง กล่องนี้เวลาดินไม่เสมอก็ลูบได้ และทำดินให้เละเลยและเวลาวิ่งให้เหมือนระบายสีให้ทั่วนาเลย และปิดท้ายเลยพอให้รถวิ่งดินก้อนๆจะขูดไปและจะวนอยู่ในกล่องนั้นก็จะเป็นเลนก็จะไหลออกมาถ้าไม่เป็นเลนก็จะไม่ออกมา ถ้าเป็นชาวบ้านเขาใช้กระดารลูบเทือกนั้นวิ่งข้ามไปพอเวลาดินสูงก็โดดขึ้นและเวลาหล่มก็จะจมด้วย แต่อันนี้ไม่ใช่จะคลานไปกับรถเลย เหมือนตั้งระดับได้เวลาที่ไปถึงโขดก็เอาไป และถ้าที่เป็นบ่อก็เปิดกล่องเลยก็เสมอเลยก็อยู่เป็นรูปกล่องเลยทีเดียวเต็มเลย แต่ถ้าจะใส่แต่น้อยก็โรยๆก็ได้มีเป็นล็อคๆ ก็เปิดก็จะทำงานได้ไว้เวลาจะหว่านขี้หมูก็เอาใส่กล่องไปประมาณสัก 10 กระสอบก็ใช้กระดานตีเอาขี้หมูวางบนนั้นและให้แม่บ้านขับรถผมก็เอากะละมังตักสาด เพราะมันลื่น ขี้หมูไม่ต้องหมักเพราะไม่ได้กินหญ้าไม่ต้องหมัก ขี้หมูที่เอามาจากฟาร์มแห้งก็เอาไปลงที่นาเลยและไม่มีโซดาไฟก็เอาฟาร์มที่ไม่ได้ใช้ เวลาก่อนทำเทือกก่อนที่จะลูบเทือกดีก็เอาขี้หมูลงก็หว่านให้ทั่ว และเอากล่องลงวิ่งให้ทั่วเหมือนระบายสีเลยก็จะละลายขี้หมูไปทั่วแลงเลยก็จะไม่งามเป็นกระจุกก็จะทั่วกันและจะดูว่าตรงไหนดินไม่ดีถึงเอาขี้หมูไปใส่เพราะเรามีไม่พอก็จะใส่เป็นที่ๆ ที่ไม่งามหรือที่ไหนที่เราไล่ดินไปมากก็จะเอาขี้หมูไปใส่ก็จะทำให้ลดการใช้ปุ๋ย ก็ใช้ปุ๋ยขี้หมู และเวลาหว่านก็ทำกล่องก็จะได้ไว กล่องนี้พัฒนามาจากกล่องแบบเหยียบกระดก แบบเหยียบกระดกเวลาไปใช้แล้วมีปัญหาก็คือเวลาถึงโขดก็หนุนขึ้นมาก็สูงได้เวลาถึงแอ่งเรายืนอยู่ด้านบนก็จมทำให้ระดับไม่อยู่กับที่ก็จะสูงๆ ต่ำๆมาตลอด ผมเลิกใช้มา 6-7 ปีแล้วมาใช้ระบบกล่อง แต่ผมจะทำอะไรก็จะทำเป็นคนแรกๆ อย่างกล่องนี้แรกๆเอามาใช้คนก็หัวร่อกัน เดี๋ยวนี้เพิ่งมาฮิตทำกัน อย่างเครื่องหว่านข้าวนี้ตอนก่อนที่เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอยู่และภรรยาเป็นผู้ใหญ่บ้านด้วยทีนี้คนก็คอยจะมาช่วย พอคนมาช่วยคนและนาเรามาก  พอคนเขามาช่วยเราหว่านข้าว บางทีเขาช่วยเรา แล้วเราจะไปช่วยเขาก็จะไม่มีเวลาแล้วเขาหว่านแล้วเพราะนาเขาน้อย พอช่วงหว่านปุ๋ย เราก็ไปหว่านปุ๋ยให้ก็เอาเครื่องสะพายไปก็ 5 ไร่ก็แป็บเดียวก็ไปช่วยเขาเขาใช้กระบุงหว่านเขาก็หว่านไปเป็นหน้า ผมก็หว่านเขาก็ว่าเสร็จแล้วผมก็กลับมา พอกลับมาได้ไม่สุดนาก็เห็นเขาไปหว่านปุ๋ยตรงที่ผมหว่านอีกเพราะมันเร็วเขาก็คิดว่าคงหว่านไม่ได้เรื่องเขาก็หว่านอีกปรากฏว่าตรงนั้นหนอนกินมากเลยเพราะหว่านปุ๋ยมากไปเพราะหว่าน 2 ครั้ง เพิ่งจะมาฮิตใช้กันได้สัก 3-4 ปีนี้เท่านั้นความรู้สึกช้ามาก ผมใช้เครื่องหว่านข้าวและปุ๋ยมาเป็น 10 ปีแล้วโดยซื้อเครื่องญี่ปุ่นมาแล้วเอามาแปลงถึงได้มีมาก เหตุที่มีเยอะเพราะเพื่อมีปัญหาก็ไม่ต้องมาซ่อมเลย อีกอย่างซื้อถูกมาก ซื้อมาคู่ละ 5000 บาทเพราะเจ้าของใช้ไม่เป็นก็ขายคู่เลยผมเอาไม่เป็นอะไรเลยใช้ได้ทั้ง 2 เครื่องเลย และยังอยู่ด้านหลังบ้านอีก เครื่องหว่านปุ๋ยและข้าวมี 3 เครื่อง และมีเครื่องฉีดฮอร์โมน และเครื่องสำหรับฉีดยาคลุมก็มีเพราะมันใช้งานไม่เหมือนกันถ้าเกิดทั่วๆไปที่เขาทำนาแล้วรกนั้นไม่ไช่เป็นที่คนทำอย่างเดียวเป็นที่เครื่องมือด้วย เช่นเครื่องตัวหนึ่งถ้าไปฉีดยาคลุม 10 กว่าวันหญ้าจะสูงแล้วก็คลุมไม่อยู่ก็ต้องใช้ยาแพง ยาคลุมก็ซื้อท้องตลาดทั่วไป อะลาคอร์ เครื่องถ้าใช้เครื่องปั้มจะฉีดยาคลุมไม่ทั่วเพราะอัดน้ำเป็นละอองก็ต้องใช้แรงเครื่องมาก ดังนั้นน้ำที่ออกไปเป็นยาล้วนไม่มีลมเลยเพราะเครื่องปั้มอัดน้ำไม่เป็นละออง ที่นี้ด้านหน้าก็ลงมากข้าวอาน แต่ตรงที่สุดกำลังเครื่องก็เอาหญ้าไม่อยู่หญ้าก็จะเหลือเป็นทิวก็ต้องเก็บ แต่ของเราใช้เครื่องพัดลมซึ่งจะปล่อยยาแค่ 2-3 เพราะมีถึง 4 และก็เร่งเครื่องมากๆ ลมก็จะแรงเราก็จะเปลี่ยนเป็นหัวจรวดซึ่งจะแรง และไปได้ไกลและเราก็ตัวกระบอกไปให้ไกลก็จะไปได้กว้างก็ไร่หนึ่งใช้เวลาประมาณ 7 นาทีก็เสร็จและที่ดีก็จะคลุมอยู่ดีก็ตั้งแต่อายุข้าวที่ 6 วันหลังจากนั้นก็เอาน้ำคลุมประมาณ 25 วัน ก็ปล่อยน้ำแห้ง ถ้าไม่แห้งก็หวิดออกแล้วข้าวจะปรับตัวหยั่งรากลงลึกและแตกกอและก็ไม่ต้องทำอะไร แต่ชาวบ้านเขาไม่ได้เลี้ยงน้ำเพราะเลี้ยงไม่อยู่หรือไม่ยอมหยุดเลี้ยงในเวลาที่ควรจะหยุดทำให้ข้าวอ่อนแอเพราะน้ำมากก็ไม่แตกกอก็ต้องใส่ปุ๋ยกระทุ้งและข้าวจะยืดและล้มง่ายเวลาที่ลมและฝนมา และอีกอย่างข้าวจะเป็นโคนแดงน้ำเน่าและก็เน่าก็จะเป็นที่เพาะเพลี้ยอย่างดี ฤดูที่ผ่านมาข้างนาเขา 3 วันฉีดเลยเพราะเพลี้ยมากแต่ของผมจะปล่อยให้แห้งแต่ไม่ตลอดโดยจะดูจากอาการของข้าวถ้าเริ่มเหี่ยวก็จะวิดเข้าไปตลอด วิดใส่แปลงประมาณครึ่งหนึ่งของพื้นที่บริเวณนั้นแล้วก็ดับเครื่องและก็ปล่อยให้น้ำไหลไปในส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งก็จะไม่มากและก็จะไปทั่วถึงและก็จะไม่มากเกินไปจนเป็นที่เพาะเพลี้ย และขณะเดียวกันก็จะสังเกตด้วยว่าบริเวณไหนที่ไม่เจริญก็จะมีการเอาปลาหรือหอยเชอรีหมักไปราดได้ก็เป็นพิเศษกว่าอื่นโดยจะเอามุ้งเขียวไปรอที่ปากท่อเวลาที่น้ำท่วมมาและน้ำลดถ้าเราไม่รอเอาไว้มันก็ตายส่วนใหญ่เพาะน้ำแห้งก็ตายเปล่าประโยชน์และก็จะน้ำก็เสียด้วยเวลาไปนาก็ใช้มุ้งเขียวดักรอเอามาไว้ตอนเย็นที่เข้าบ้านก็มาใส่โอ่งมาหมักไว้ และเวลาทำนาและดูว่าข้าวแกร็นๆก็จะหยดไปกับน้ำตอนที่วิดน้ำดังนั้นน้ำไปถึงไหนก็ไปกับน้ำเลยจะใช้ประมาณ 5 ลิตรต่อไร่แต่จริงๆ ไม่ถึงขึ้นกับดินถ้าแย่ๆก็ประมาณนั้นแต่ปกติก็ประมาณ 2-3 ลิตร ถ้า 5 ไร่ก็ประมาณ 20 ลิตรก็งามมากแล้วและของผมต่างกว่าคนอื่นก็เพราะชาวบ้านทั่วไปเขาซื้อตลอดเลยพันธุ์ข้าว ไม่ทำแปลงพันธุ์เอง ซึงผลที่ตามมามีวัชพืชปนมารวมทั้งข้าวดีดด้วยก็เป็นสาเหตุให้นารกนะ และผมไม่รกเพราะเราทำเองไม่มีเล็ดหญ้าและข้าวดีดบวกกับฉีดยาคลุมก็ฉีดผิดกันก็ทำให้ข้าวไม่รก และผมไม่ฉีดอะไรเลยก็อยู่ได้เพราะเวลาที่แช่เมล็ดพันธุ์ผมจะแช่ด้วยไตรโครเดอร์ม่าของอาจารย์จิรเดชซึ่งซื้อหัวเชื้อมาทำเองและมาเพาะขยายเองประมาณ 6-7 วันก็ใช้ได้ซึ่งจะใส่ในรองข้างบ้านจะใส่น้ำในรอง 70 % และใส่ไตรโครเดอร์ม่า 1 ถุงโดยใส่แต่น้ำเขียวๆ เท่านั้นจะไม่ใส่ข้าวลงด้วยเพราะจะไปทำให้ข้าวจับเป็นก้อนทำให้หว่านไม่ออก และข้าวที่เหลือก็ใส่โคนต้นไม้ในบ้านการใช้วิธีนี้เพราะทำให้ข้าวงอกดีและมีการแยกเมล็ดพันธุ์เมล็ดลีบจะลอยน้ำลอยมาด้านบนก็ปาดออกจากรองและที่เหลือเป็นข้าวเต็มเมล็ดก็จะงอกสม่ำเสมอดีแช่ 1 คืนส้งคืนหนึ่งก็จะใส่กระสอบและใส่รถปิคอัพไปเลย เวลาที่ลูบเทือกเอาไปวางเป็นจุดตามหัวคันนาตามที่จะเวะเอาข้าวพอวางเสร็จก็จะลูบเทือกให้เรียบพอก่อนเข้าบ้านก็ปล่อยน้ำทิ้งเลยหรือที่ลุ่มก็วิดน้ำออกเลยให้ดินแห้งและพอดินแห้งแม่บ้านก็จะเอาที่แวกไปแวกดินไว้ผมจะใช้รถหนึ่งเที่ยวและก็กลับในส่วนที่เหลือจะให้คนดันเป็นร่องๆ แวกเพื่อให้น้ำแห้งทั้งแปลงเพื่อเวลาหว่านข้าวจะได้ไม่แฉะและผมก็จะหว่านตากหลังเลย ไม่ต้องช่วยหว่านโดยประมาณ ครึ่งวันได้ 20 ไร่โดยพันธุ์ที่ใช้ตอนนี้มี สุพรรณ 60 ปทุม 80 และ สุพรรณ 35 และพิษณุโลกซึ่งไปซื้อมาจากข้างบ้านและก็ไม่ดีเลยไม่ก้มเลยเพราะเชื้อรามากซึ่งอ่อนแอมากกว่าพันธุ์อื่นๆ ที่ใช้พันธุ์หลายๆพันธุ์เพื่อเป็นการไม่เสี่ยงซึ่งปกติก็จะ
หมายเลขบันทึก: 395676เขียนเมื่อ 19 กันยายน 2010 00:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2012 12:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท