ComMedSci ι เมื่อไปทำงานแบบไร้กระบวนท่าที่ รพ.สต.นาโสก


เมื่อวานนี้ หนูและพี่อ้อ เดินไปนิเทศน์งานและเอากล้าพันธุ์สมุนไพรไปให้พี่ ๆ ที่ รพ.สต.นาโสก

จากสิ่งที่เราได้เห็นได้เรียนรู้พี่อ้อได้เขียนเล่าเรื่องมาเช่นนี้ค่ะ

 

 

รพ.สต.นาโสก  จ.มุกดาหาร 

กินโลด  มันเซา  ยาบ้าเขายังกิน 

               

วันนี้เดินทางไปเกือบตกจากขอบประเทศไทย  เหลืออีกแค่  30  กิโลเมตร  ก็จะได้ไปเยี่ยมเยือนพี่น้องที่อยู่ฝั่งลาว   ( ไม่หน้าพลาดเลยเรา   จะได้ไปช็อปกระเป๋าราคาถูกมาก  ๆ  แถมเป็นยี่ห้อดังเสียด้วย  )  ไปถึงที่ รพ.สต.  นาโสก  ก็ประมาณ  5  โมงเช้า  พอไปถึงบรรยากาสก็เงียบสนิท   

(อุ้ยตาย!  เกิดอะไรขึ้นถึงได้เงียบขนาดนี้  ผิดปกติ)   

พอลงจากรถก็ได้เจอกับน้องวิจิตรา  ซึ่งเป็นคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่   ได้ร่วมงานกันหลายเดือนแล้ว  แต่เจอหน้ากันครั้งนี้เป็นครั้งที่   4   แต่ก็เหมือนกับรู้จักกันมานานแสนนาน   ทางทีมเราก็ร่ายกระบวนท่ารำด้วยความชำนาญ  (หรือป่าว)    

แต่ไม่เป็นกระบวนท่าสักเท่าไร  แต่คิดว่าเนียนพอสมควร   นำเสนอทันทีว่าวันนี้มาเยี่ยมและเอาต้นสมุนไพรมาให้ 

จากนั้นก็มานั่งจัดสมุนไพรว่าต้นไหนเป็นต้นไม้ใหญ่  ต้นไม้เล็ก  หรือไม้เลื้อย  และเขียนชื่อต้นไม้แต่ละต้น   จริง  ๆ   ที่นี่เขาจัดสวนด้านหน้าได้สวยมาก    และยังปลูกต้นผักหวานบ้านไว้อีกหลายสิบต้นเพื่อไว้ให้เจ้าหน้าที่ไว้เก็บไปทำกับข้าวเที่ยง  ก็ดีมากเลย  เหมือนอยู่บ้านตัวเอง   ส่วนอาคารสถานีอนามัยเดิมที่เป็นเรือนไม้หลังเล็ก  ๆ  มีบันได  2  หรือ  3 ขั้น (หลายคนอาจจะไม่เคยเห็น  เพราะตัวเองก็เคยเห็นตั้งแต่สมัยเด็ก  ๆ   เท่านั้นเอง   จากนั้นก็ปลูกสร้างด้วยปูน)   

ก้าวขาขึ้นไปก็จะเป็นห้องโล่ง   มีโต๊ะยาวเพื่อไว้นั่งทานข้าวมื้อเที่ยง  มีมุมทำกับข้าวด้วย  ซึ่งกำลังทำพอดีเลย  (น้ำลายหกไปหลายหยด)  เดินผ่านเข้าไปก็เป็นห้องไม่ใหญ่มากใช้เป็นพื้นที่ของแพทย์แผนไทยมีตู้อบ   เตียงนวด  โต๊ะทำงานอีก  1  โต๊ะ   ก็เป็นสัดเป็นส่วน  เรียบง่าย    จากนั้นก็พาเราเดินชมพื้นที่โดยรอบ   จะมีต้นไม้ยืนต้นที่ปลูกมานานเป็นจำนวนมาก  และจัดได้เป็นสัดเป็นส่วน  เมื่อเดินได้หนึ่งรอบน้องก็มาบอกว่าท่านข้าวเที่ยงเถอะพี่  เราก็รู้สึกเกรงใจมาก  เพราะไปไม่มีอะไร ไปฝากเขาเลย  ยังไปรบกวนเขาอีก  แต่น้องบอกว่าง่าย  ๆ  น๊ะพี่อำเภอเมืองก็จริง   แต่ไม่มีร้านที่ขายกับข้าว  หรือร้านอาหารตามสั่ง    ทางเราก็หน้าซีดเลย 

    ถ้าน้องเขาไม่ทำกับข้าวให้เราทานมีหวังต้องกลับมาทานที่ขอนแก่นแน่ ๆ  (อ้าววววว   กลิ่นอะไรไหม้ลูก  เฮ้ย! แม่ต้มไข่ไว้  มันไหม้แล้ว   ตาย  ตายแน่ ๆ เลย   ผลสุดท้ายจากไข่ต้มเป็นไข่ปิ้งไปเสียแล้ว  แม่ขอโทษ  แม่ผิดไปแล้ว  เพราะมัวแต่มานั่งพิมพ์เรื่องการออกพื้นที่   ถ้าไม่ทำที่บ้านแม่ก็จะไม่มีเวลา  เพราะอาทิตย์หน้าจะ  Audit  แล้วแม่ทำงานไม่ทัน  ทำงัยได้เน๊อะ  เกิดเป็นลูกแม่ต้องอดทน น๊ะจ๊ะ)  หลังจากที่อิ่มท้องก็เข้าเรื่องงานทันที  ประชาชนในพื้นที่ที่รับผิดชอบประมาณ  7,000  คน  มี  10  หมู่บ้าน   4,000  ครัวเรือน  จำนวน  อสม  129  คน  หนึ่งคนรับผิดชอบประมาณ  8-10 หลังคาเรือน  ทีมงานของ  รพ.สต.มีข้าราชการ  4  คน  ลูกจ้างประจำ  1  คน และลูกจ้างชั่วคราว  4  คน  อัตราส่วนที่รับผิดชอบ  1คนต่อประชาชน  1,400  คน  ถือว่าสูงมาก  การให้ความร่วมมือของ  อสม.  หลังจากได้ค่าตอบแทน  600  บาท  ก็ให้ความร่วมมือดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน  มีการประชุมทุกเดือน  และต้องทำรายงานมาส่งด้วย  การทำงานจะทำงานเป็นทีม  เพราะว่าจะ

ทำให้มีพลัง  ไม่อาย  ไม่เขิน 

ในกลุ่ม  อสม.ก็จะจัดแบ่งหน้าที่กัน  และมีหัวหน้าทีม  ถ้างานไม่ผ่านหัวหน้าทีม  เวลาตามงานหัวหน้าทีมจะบอกว่าไม่รู้ไม่เห็น  เพราะไม่ได้บอกฉัน  ถ้าอยากได้งานต้องไม่ข้ามหัวหน้าทีมงาน  ทำตามลำดับขั้นตอน  ทาง  รพ.สต.ขอการสนับสนุนจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่  ๖ (ขอนแก่น)  ด้านอาหาร  4  ชุด  เครื่องสำอาง  สเตียรอยด์  โดยกลุ่ม  อสม.เป็นคนสุ่มเก็บตัวอย่าง และทำการทดสอบด้วยตัวเอง  แต่ก่อนจะทำการทดสอบด้วยตัวเองนั้น  ทางเจ้าหน้าที่  รพ.สต.จัดอบรมให้ความรู้และสอนวิธีการใช้ชุดทดสอบ  ทางเราจึงถามว่ามีปัญหาเรื่องการใช้ไหม  เขาตอบว่าไม่มี  ใช้ง่าย  และมีความมั่นใจในการแปรผล   เมื่อได้ผลบวก  เช่น  ลูกชิ้นที่พบบอแรกซ์  ก็จะไปบอกร้านค้าว่าพบตัวนี้แล้วจะเป็นอันตรายอย่างไร  อย่าไปรับร้านนี้  ยี่ห้อนี้มาขาย  ร้านค้าก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี  เครื่องสำอางก็เช่นกันด้วยความที่เป็นเมืองที่มีจุดเชื่อมโยงไปยังต่างประเทศได้  จึงทำให้มีสินค้านำเข้าเยอะโดยเฉพาะเครื่องสำอาง  แต่เมื่อตรวจพบก็เลิกใช้  มีการบอกต่อกัน  อย่าไปใช้น๊ะครีมหน้าขาวยี่ห้อนี้  เดี๋ยวจะหน้าดำเหมือนกับพี่....  มีบุคคลอ้างอิงในการใช้แล้วหน้าดำจึงทำให้คนกลัวขึ้น  แต่ก็ยังมีบางคนบอกว่าเจอก็ไม่เป็นไรหรอก  ถ้าหยุดให้เลยนะหน้าจะดำให้ค่อย  ๆ  ลดปริมาณลงแล้วหน้าไม่ดำ  (งงไปเลย  คิดได้งัยนี่) มันก็มีหลายมุมมอง  ก็ว่ากันไป   มีคนในหมู่บ้านนำยาแผนโบราณมาขายแล้วตรวจพบสเตียรอยด์คนขายบอกว่า

“กินโลด  มันเซา  ยาบ้าเขายังกิน มันเซาปวดแข่งปวดขาจะทรมารมันเฮ็ดหยัง” 

แต่ขอโทษนะคะคนขายไม่ได้กินน๊ะ  ขายอย่างเดียว 

มีรถเร่ขายยาแผนโบราณเข้ามาในหมู่บ้าน เมื่อก่อนที่จะมีรถเร่มาขายผู้นำชุมชนจะให้มาถามหมอก่อน  แต่พอขอตัวอย่างมาตรวจก็ไม่พบ  แต่รถเร่กลับไปบอกชาวบ้านว่า 

 “ยานี้ปลอดภัยเพราะคุณหมอตรวจแล้ว”   

 กลายเป็นว่าเราเอาเครื่องมือไปช่วยเฝ้าระวังสุขภาพให้ กับประชาชนแต่กลับกลายเป็นเครื่องมือรับรองผลิตภัณฑ์ให้กับคนขายยาแผนโบราณ  เรื่องนี้จึงเข้าประชุมที่เทศบาลว่าเราควรจะทำอย่างไร  สุดท้ายจึงให้กำนันไปขอร้องให้ออกจากหมู่บ้านไปไม่ให้ขายอีกแล้ว     ตอนแรกก็ไม่ยอม  สุดท้ายก็มาจบลงที่คุณหมอ  ซึ่งให้เหตุผลไปว่าไม่มีใบอนุญาต  และคุณอาจจะมีตัวอื่นเข้ามาขายร่วมด้วยก็ได้  และยาที่ตรวจไม่เจอสเตียรอยด์แต่อาจไม่ปลอดภัยก็ได้  ในที่สุดรถเร่ก็ยอมรับด้วยเหตุผล 

การร่วมงานกับทางเทศบาลก็ยังไม่ค่อยมีความร่วมมือเท่าไร  เนื่องจากได้นายกใหม่  แต่ก็ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของงานด้านสาธารณสุขบ้าง  แต่ยังไม่ได้ดำเนินการเช่นไร  ส่วนกับโรงเรียนก็อาศัยความ คุ้นเคยเป็นการส่วนตัวเนื่องจากว่าเป็นคนในพื้นที่ด้วยกัน  หรือเป็นญาติกันอยู่แล้ว  จึงไม่ค่อยมีปัญหา  และต้องทำงานร่วมกันอยู่แล้วในการดูแลสุขภาพนักเรียน  ไม่ว่าจะเป็นการฉีดวัคซีน  ตรวจฟัน  ฯลฯ  และยังมี  อย.น้อยอยู่ที่โรงเรียนด้วย กำลังเข้าร่วมประกวดในระดับเพชรของจังหวัดมุกดาหาร  ถือว่าก็ประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง  คนไข้ก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อย  ๆ  เนื่องจากผู้ปกครองมารับลูกกลับบ้านก็แวะมาเอายาด้วย  ดังนั้นคนไข้จะมากตั้งแต่ช่วงเช้าและเย็นเท่านั้น  จึงเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของ  รพ.สต.ที่นี่  แต่คำพูดที่ใช้กันก็เป็นภาษาท้องถิ่นภูไท  เพราะมากพูดเบา ๆ  ช้า  ได้ฟังแล้วเลื่อนหูดีมากเลย  สุดท้ายก็สมควรแก่เวลาก็ขอตัวกลับบ้านก่อน  ขอบคุณมากสำหรับบทเรียนในครั้งนี้

 

หมายเลขบันทึก: 394689เขียนเมื่อ 16 กันยายน 2010 09:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน 2012 14:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท