กฏแห่งกรรมใครเป็นผู้ตั้ง ?

จากการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้พระองค์ทราบว่า
ทั้งมนุษย์และสัตว์ทุกชนิดนั้น ได้เกิดแล้วก็ตาย ตายแล้วก็ไป
เกิดใหม่ วนเวียนไปมาเหมือนเดินในวงกลม ไม่มีที่สิ้นสุด
ดังที่ทุกคนได้ยินคำศัพท์ "สังสารวัฏ"

พระองค์เฉลยให้ทราบอีกว่า การเกิดแต่ละครั้งนั้น อาจดีขึ้น
หรือเลวลงก็ได้ เช่น ชาตินี้เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ตายไปแล้ว
เกิดใหม่กลายเป็นคน นี้เรียกว่าดีขึ้น เจริญขึ้น ซึ่งอาจเป็น
เพราะหมดกรรมที่ต้องเกิดเป็นสัตว์ และบุญมีกำลังแรงพอ
ที่จะหนุนส่งให้มาเกิดเป็นคน

เมื่อชาตินี้ได้เกิดเป็นคนย่อมดีอยู่แล้ว
เพราะมีโอกาสสร้างบุญกุศลให้ตัวเอง
ชาติหน้าอาจได้เกิดเป็นคน
เนื่องจากอุตส่าห์ทำบุญกุศลเสริมเพิ่มไปอีก
ชีวิตจึงมีแต่จะดีขึ้นๆ แม้จะมีความทุกข์บ้างก็ตาม

แต่ถ้ามัวหลงระเริง ใฝ่ทำความชั่วเป็นนิจ ทำผิดศีล 5 เป็นประจำ
โอกาสที่จะได้เกิดเป็นคนในชาติต่อไปคงสิ้นหวัง พอชีวิตดับ
ร่างกายยังไม่ทันได้เผา อาจต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
หรือเปรต หรือปีศาจ หรือยักษ์ หรือนาค เป็นต้น

การทำความชั่ว ซึ่งเราเรียกว่า "กรรมชั่ว"
เมื่อตายไปเกิดใหม่ กรรมชั่วย่อมส่งผล
ให้ไปเกิดเลวกว่าชาติก่อน
หรือทำความดีมาก กรรมดีได้ส่งผล
ให้ไปเกิดเป็นเทวดา หรือเป็นพรหม
ลักษณะเช่นนี้เรียกว่าเป็นไปตามกฏแห่งกรรม
กฏนี้ไม่มีใครตั้ง มันเป็นไปตามธรรมดาธรรมชาติของโลก

การเจริญขึ้นหรือเสื่อมลงของชีวิตในโลกนี้
เป็นเพราะการกระทำของสัตว์หรือมนุษย์ผู้นั้นเอง
ทุกข้อความที่กล่าวนี้คงช่วยเตือนสติท่านไม่มากก็น้อย
เนื่องจากเป็นประสบการณ์ตรงจากการนั่งกรรมฐานของผม
ท่านจะทำความดีหรือความชั่ว จึงอยู่ที่การตัดสินใจของท่าน

ชนะ เวชกุล