ครับ เวลาล้ม ต้องเก็บสิ่งที่ดีขึ้นมาสักอย่าง
อย่างน้อย ต้องรู้ว่าล้มเพราะอะไร ก็ยังดีครับ ต่อไปจะไม่ได้ล้มอีก
นมัสการพระคุณเจ้า
กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ ที่ได้อ่านบันทึกดี ๆ อีกครั้ง
พี่ครูเป็นบ่อยค่ะ ที่ผ่านมา ใจไปรออยู่ข้างหน้า เลยกลายเป็นคนทุกข์ ได้หน้าลืมหลัง ใจร้อน รอคอยใครไม่เป็น
พยายามฝึกแล้วค่ะ ให้ใจมาอยู่คู่กับกาย ทำได้บ้างเป็นบางครั้ง แต่ก็รู้ได้ว่าขึ้นอยู่กับการฝึกบ่อย ๆ
หากล้มแล้วได้สิ่งดีๆ
แม้จะล้มกี่ครั้งก็ไม่ต้องกลัวเจ็บอีกต่อไปเนาะท่านรอง
กราบนมัสการพระคุณเจ้า
ยินดีนักที่ได้อ่านบันทึกนี้ค่ะ จะพยายามปรับใช้กับชีวิตประจำวันทุกครั้ง ที่ตั้งสติระลึกได้ ทำใจให้นิ่งตามความคิดให้ทัน (พูดง่ายๆแต่ทำยากจังค่ะ (*_* ) )
กราบขอบพระคุณเจ้า ค่ะ
นมัสการพระน้องเจ้า สบายดีนะเจ้าค่ะ พี่ปูต้องเรียกสติให้พยายามอยู่กับปัจจุบันค่ะ แม้ว่าอดีตจะน่าประทับใจมากมายเพียงใดก็ตาม ๕ ๕ รักษาสุขภาพนะคะ ระลึกถึงเสมอค่ะ ;)
สาธุพี่ปูที่แวะมาเยี่ยยมเยียนเนาะ
กราบนมัสการเจ้าค่ะ
แวะมาอ่านคร่าวๆ เดี๋ยวกลับมาอ่านพิจารณาอีกครั้งเจ้าค่ะ
ต้องไปทำหน้าที่ก่อน (วันนี้อยู่เวรเจ้าค่ะ)...^^
เป็นการเรียนควบคู่กับการทำงานเจ้าค่ะ...เอ หรือจะใช้ศัพท์ว่า เรียนรู้จากการทำงานดี?
คือศึกษาต่อ ไม่ได้หมายถึงต้องเรียนในห้องเรียน
แต่เป็นการทำงานตรวจคนไข้ อยู่เวร แล้วก็เรียนรู้จากคนไข้เจ้าค่ะ ปลายปีจะมีสอบวัดระดับอีกครั้ง
กราบนมัสการเจ้าค่ะ
ดาวได้เรียนรู้ทั้งจากผู้ป่วย ญาติ และเพื่อนร่วมงาน เลยล่ะเจ้าค่ะ
พยายามมีสติอยู่กับปัจจุบัน แต่บางคราวก็เผลออยู่ในโลกอดีตและอนาคตเหมือนกันเจ้าค่ะ
พอมีสติระลึกรู้ ก็จะรีบดึงกลับมาให้กายกับใจก้าวไปพร้อมๆ กัน ไม่งั้นเดี๋ยวจะพลาดโอกาสชื่นชมสองข้างทางของการเดินทางไป
กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ
ตราบใดที่เรายังอยู่ในโลกของการฝกฝน แม้ที่เรียนมาจะรู้ว่าเป็นเรื่องธรรมดา
แต่นับว่าโชคดี และขอบคุณความอ่อนแอที่เข้ามาหา ทำให้เรารู้ว่าจิตใจเรายังต้องฝึกฝนต่อไป
หวังว่าวันหนึ่งจะเกิดพละกำลังเข้มแข็งทั้งกายและใจ
ขออนุโมทนาขอบคุณกกับการแบ่งปันครับ