ระหว่างทาง เดินทางไปวัดกัลยณมิตรวรมหาวิหาร
เมื่อพวกเราไหว้พระที่วัดระฆังฯเสร็จ พวกเราทุกคนก็เดินออกมาถนน เพื่อหารถเดินทางต่อไปยังวัดกัลยณมิตรวรมหาวิหาร สิ่งที่พวกเราพบระหว่างทาง
(1) ภาพที่แม่นำลูกมาขอทานด้วย เด็กๆๆ หลายคนเดินรี่เข้าหาเด็กน้อย แล้วชวนว่ามาอยู่ที่บ้านอุปถัมภ์เด็กเถอะ แต่เด็กน้อยไม่ยอมตอบอะไร แม่ก็ได้แต่ก้มหน้า ขอเงิน แต่มีเด็กบางคนที่บอกว่าพวกเขาก็เคยทำอย่างนี้มาก่อน และถ้าแม่รักลูกจริงควรให้เด็กได้เรียนหนังสือ พอถึงตรงนี้ครูจิ๋วก็รีบบอกว่า พวกเราทุกคนมีโอกาสแล้วในเรื่องการเรียนของให้ได้ตั้งใจในการเรียนหนังสือเถอะ
(2) การเดินทางด้วยรถตุ๊ก ตุ๊ก ซึ่งต้องใช้รถถึง 5 คัน คันละตั้งแต่ 40-50 บาท แล้วการต่อรองของเด็กๆๆ เมื่อขึ้นรถกันได้เท่านั้น เสียงเด็ก ต่างส่งเสียงเชียรคุณลุงที่ขัว่าต้องออกหน้ารถคันแรกนะ หรือต้องให้ทันรถคันแรก ซึ่งเด็กบอกว่า เป็นเรื่องของการตื่นเต้นจริงๆ
เมื่อเด็กมาถึงที่วัด ต่างก็ตรงไปที่ ประวัติของวัดทันที แล้วก็เข้าไปไหว้พระในโบสถ์
ประวัติของวัด วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร(วัดกัลยา) พระอารามหลวง ชั้นโท ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ เจ้าพระยานิกรบดินทร์(โต กัลยาณมิตร) ได้อุทิศบ้านและซื้อที่ดินข้างเคียงเพิ่มเติม สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๓๖๘ แล้วน้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ พระราชทานนามว่า วัดกัลยาณมิตร และทรงสร้างพระราชทานทั้งพระวิหารหลวงและพระประธานสำหรับพระวิหารหลวง คือ หลวงพ่อโตหรือพระพุทธไตรรัตนนายก โดยทรงมีพระราชประสงค์ให้เป็นพระพุทธรูปใหญ่อยู่ริมแม่น้ำแบบเดียวกันกับที่วัดพนัญเชิง กรุงเก่า หลวงพ่อโตเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงโดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน เรียกชื่อแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง ภายในพระอุโบสถซึ่งมีขนาดเล็กกว่าพระวิหาร มีจิตรกรรมฝาผนังเรื่อง พุทธประวัติที่แทรกเรื่องราวชีวิตชาวบ้านชาวเมืองสมัยรัชกาลที่ ๓ ซึ่งนอกจากจะมีคุณค่าทางวัฒนธรรมแล้ว ยังมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์สังคมอย่างยิ่งอีก
เด็กบอกว่า 2 วัด พระประธานในโบสถ์สวยงามเหลือ เห็นชาวต่างชาติถ่ายรูปจำนวนมากเหลือเกิน
มาเที่ยวชมไปด้วยค่ะ ชอบมากค่ะ ได้เรียนรู้ไปด้วย
ขอบคุณมากนะคะ
ครูอ้อย ค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ ไปเทียวกับพวกเรานะค่ะ
ถึงแม้จะเขียนช้าไปหน่อย เพราะติดการปฏิบัติงานค่ะ