ผู้บริหารและนักการเมืองที่ “ไม่เอาไหน” ในสายตาของผม


ในหัวของพวกที่ “ไม่เอาไหน” นี้ มักมีแต่เรื่อง “Somewhere to Run” หรือไม่ก็ “Someone to Blame” เท่านั้นเองครับ . .
          สำหรับผมแล้วผู้บริหารและนักการเมืองที่ “ไม่ได้เรื่อง” ก็คือ พวกที่ “ดีแต่พูด” คือพูดมาก แต่ทำน้อย หรือไม่ค่อยได้ทำ เป็นพวกที่ใช้ชีวิตไปตามหลักขอ “NATO” คือ “No Action Talk Only” คนพวกนี้มักเป็นพวกที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง เป็นพวกที่ต้องการให้ทุกอย่างหยุดอยู่กับที่ (Status Quo) ไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แม้ในหน่วยงานของพวกเขาจะมีการใช้วงจร P-D-C-A ซึ่งหมายถึง “Plan-Do-Check-Action” คือให้มีการวางแผน แล้วค่อยไปลงมือทำ ให้มีการติดตามตรวจสอบสิ่งที่ทำไป เพื่อจะได้นำข้อมูลมาใช้ปรับปรุงแก้ไข หรือวางแผนในรอบใหม่ต่อไป ทำให้เกิดการปรับปรุงพัฒนาที่สามารถหมุนวนไปได้โดยไม่จบสิ้น แต่ในทางตรงกันข้าม พวกที่ “ไม่เอาไหน” นี้กลับตีความ คำว่า “P-D-C-A” ว่าย่อมาจาก “Please Don’t Change Anything” ไปซะนี่
 
          สิ่งที่ผมและคนใน สคส. ทำกันต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่าเจ็ดปีก็คือการนำสิ่งที่เรียกกันว่า KM นี้เข้าไปในองค์กรต่างๆ เป็นกระบวนการเรียนรู้เรื่องการบริหารและการพัฒนาภาวะผู้นำที่ทำให้เกิดการระเบิดจากข้างใน เป็น “KM inside” ก่อนที่จะไปทำ KM โดยใช้ IT . . . เป็น KM ที่แฝงอยู่กับการทำงาน เป็นการ “สอนแบบไม่สอน” คือสอนโดยไม่ได้ตั้งท่าบรรยาย แต่เป็นการ Design เพื่อให้การเรียนรู้เป็นไปโดยธรรมชาติ ความปรารถนาหรือเป้าหมายสูงสุดของการเรียนรู้ที่ว่านี้ก็คือ หวังว่าวันหนึ่งเราคงจะมีผู้บริหารและนักการเมืองที่มีความรับผิดชอบจำนวนที่มากขึ้น ไม่ใช่พบแต่พวกที่เก่งเรื่องการกล่าวโทษหรือโยนความผิด (Blame) ให้กับคนอื่น เป็นผู้บริหารและนักการเมืองที่ทำงานเพื่อส่วนรวมจริงๆ ไม่ใช่วิ่งเอาตัวรอดไปวันๆ ผมมองว่าคนเหล่านั้น “ไม่มีแก่นสารอะไร” เชื่อว่าในหัวของพวกที่ “ไม่เอาไหน” นี้ มักมีแต่เรื่อง “Somewhere  to Run” หรือไม่ก็ “Someone to Blame” เท่านั้นเองครับ

             

หมายเลขบันทึก: 385241เขียนเมื่อ 16 สิงหาคม 2010 11:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

อ่านแล้วขอบอกว่า..สุดยอดมากค่ะท่าน  “Somewhere  to run” หรือ“Someone to blame” สมัยนี้มันเยอะมากๆบ้านเมืองเรา หรือองค์กรบางแห่ง เลยย่ำแย่ ...ขอบคุณที่แบ่งปันบันทึกดีๆนะคะ

ขอบคุณครับ คุณมาตายี พอดี "ปิ้งแวบ" ประเด็นเหล่านี้ขึ้นมา

เรียนคุณบียอนด์

เขียนได้ดีครับ ผมชอบจริงๆ

นักการเมืองควรมีมาตรฐานได้แล้ว กำหนดกันขึ้นมาเลย ไม่ได้มาตรฐานไม่ให้เป็น

ชาวบ้านควรมีการศึกษาเรือ่งการเมืองครับ จะได้มีความรู้ ไม่ใช่เลือกแต่คนโกง คนปากดี

การศึกษาต้องดูแลบ้านเมืองได้แล้ว คนทะเลาะกันทั้งบ้านทั้งเมือง แล้วจะเรียนตรีโทเอกไปทำไม เรียนแก้ปัญหาประเทศไม่ดีกว่าหรือ ทีเวียตนามเขามีหลักสูตรปราบโกงกันแล้ว

ของเรา ปราบโกง ตั้งแต่ปฐม มัธยม ปริญญาไปเลย เอากันจริงจัง หยุดนักการเมืองชั่วเดี๋ยวนี้เถิดครับ

แบบนี้เขาเรียกแหกตาใช่เปล่าครับ จากภาพข้างบน

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับอาจารย์ . . เรื่อง "มาตรฐานนักการเมือง"

อ.ครับ

     *   สร้าง KM inside เล็กๆ ในตัวคน และ ในองค์กร   ผมว่าถ้าเอาจริง    จากจุดเล็กๆ  น่าจะสะเทือนไปถึงนักการเมืองบ้างครับ (ถึงแม้ว่าสะเทือน แต่นักการเมืองไม่สะดุ้ง ก็ยังดีครับ ที่สะเทือน) 

                    ขอบคุณครับ

อาหารรสจืดเกินไปคงไม่เอาไหน

ในความหลากหลายของดอกไม้นานาพันธุ์

แวะมาอ่านความคิดเห็นดีดี

หลักการนั้นดีแต่คนนั้นเปลี่ยนแปลงไปนะ

ขอบคุณครับ

แวะมาเยี่ยมครับอาจารย์

  • ประทับใจมากครับ...ผู้บริหารที่ไม่ดีตามบันทึกของอาจารย์ยังมีอยู่มากครับ
  • แต่อย่างไร..ก็ขอเป็นกำลังใจสำหรับคนดีดี ทำงานต่อไปครับ
  • สะท้อนได้กระชับ ชัดเจน แจ่ม...จริง

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท