ความรู้เป็นของมีค่า..และราคาค่างวด


เทคนิคการประหยัดเงินค่า textbook ในต่างแดน คือมีสติไตร่ตรองว่า หนังสือเล่มไหนใช้ชั่วคราว เล่มไหนต้องใช้ไปอีกนาน

วันนี้มีเมล์ จ่าหน้าซอง "Value California resident" มายัดในตู้จดหมาย เปิดออกดูเป็นหนังสือวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง งบประมาณของรัฐแคลิฟอร์เนียที่วิกฤติ ถึงขั้น ส่งผลให้โรงเรียนฝึกอาชีพ community collage ต้องปิด class ไปจำนวนมาก..เป็นเรื่องซีเรียส แต่คนเขียนใช้วิธีเล่า อ่านเพลินดี แม้เราจะไม่มีอารมณ์ร่วมกับเขานัก อย่างตอนหนึ่ง ที่เด็กเจอหนังสือการ์ตูนของปู่ แล้วถามว่า
 " คุณปู่  จริงๆ หรือที่หนังสือการ์ตูนตอนนั้นราคาแค่ 1 dime (10 cents)"
 " ทำไมละ ตอนนี้ราคาเท่าไหร่...หา 3 เหรียญ (30 เท่า) เหรอ พูดเป็นเล่น !.." 
กับอีกตอน ที่เล่าว่า
  หญิงชราวัย 95 ปี ที่ตอนเธอเกษียณจากงานในตำแหน่งสูง เมื่อง 35 ปีก่อนนั้น เงินบำนาญแต่ละเดือนมากมายจนเธอรู้สึกมั่นคงว่าสามารถอยู่ได้สบายๆ ไปอีกนาน แต่เวลาผ่านไป รายรับบำนาญแต่ละเดือนเท่าเดิม แต่ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นๆ  ก่อนเธฮเสียชีวิต เงินบำนาญนั้นไม่พอแม้แต่จะจ่ายค่าเช่าแฟลตเก่าๆ ด้วยซ้ำไป...

  เรื่องราวนี้ ทำให้ฉันสะท้อนใจ อะไรหนอที่ไม่ลดค่าไปตามเงินเฟ้อ..หลายๆ คนตอบว่าทอง  แต่ก็ยังเป็นของนอกกาย ไฟไหม้ โดนปล้น ก็หมด  จะมีอะไรทำให้ผ่านวิกฤติโดยไม่มีใครแย่งชิงไปได้ เท่ากับ ปัญญา ความรู้
   ยิ่งประเทศเจริญเท่าไหร่ ก็ยิ่งให้ค่ากับ สมบัติทางปัญญา มากขึ้นเท่านั้น..ดูอย่าง

1. หนังสือเรียน ขณะที่บ้านเราปกแข็ง เล่มละ 500 บาทยังคิดแล้วคิดอีก มาเจอหนังสือปกอ่อน - paperback ที่นี่เล่มละราวๆ 50-60 เหรียญ ( 1500-2000 บาท) ยิ่ง textbook ที่เนื้อหาลงลึกยิ่งแพง  วิธีการประหยัดเงินในส่วนนี้คือ
 - หาซื้อหนังสือมือสอง หรือพิมพ์ครั้งก่อน เวบที่คุ้นๆ ก็เช่น amazon แต่เวบอื่นๆที่อาจได้ราคาดีกว่า แม้คนไม่ค่อยรู้จักเช่น directtextbook  ราคาถูกลงได้ 30- 70% เลยที่เดียว
- ระบบรับซื้อคืน (Trade in) ก่อนจะซื้อหนังสือจากเจ้าไหน อาจสำรวจว่าเขาให้ราคารับซื้อคืนเท่าไหร่ พอหมด semaster ราคายังไม่ตกมากก็ขายได้เงินคืนประมาณ 30-50%
- ยืม (Rent) ถามว่าทำไมไม่ยืมจากห้องสมุด  คำตอบคือ มีไม่พอ ห้องสมุดที่นี่หาอะไรก็เจอ แต่มักจะมีอย่างละเล่มสองเล่ม edition ใหม่ๆ มักเป็น Reference book ซึ่งต้องไปเซ็นยืมกับบรรณารักษ์แล้วให้เวลาอ่านแต่ละครั้ง 1 ชั่วโมง!! ทำให้คิดถึงตอนยืม Reference book ที่เมืองไทยยืมได้  1 วันยังแอบบ่นในใจ
   จึงมีคนหัวใส ทำเวบให้ยืม online ซึ่งก็ประหยัดจริงๆ ยกตัวอย่าง textbook ที่ต้องใช้ประกอบการเรียนสถิติการแพทย์เล่มหนึ่ง ราคาซื้อใหม่ 60 USD มือสองก็ยังแพง อย่างต่ำ 45 USD แถมราคาขายคืนยังขาดทุนตั้ง 30 USD จะซื้อฉบับพิมพ์ครั้งก่อนเนื้อหาก็น้อยกว่าฉบับล่าสุดอย่างมีนัยสำคัญ..คิดสะระตะแล้วยืมดีกว่า โดยยืมได้ 4 เดือนในอัตรา 20 USD

   ตอนอยู่เมืองไทย ฉันชอบขีดเขียนในหนังสือ หรือซื้อมาก็แช่ไว้ คิดว่าอ่านเมื่อไหร่ก็ได้ แต่มาอยู่ที่นี่เปลี่ยนนิสัย เป็นอ่านแบบถนอม จับใจความแล้วเขียนผังสรุปใจความไว้ และต้องอ่านให้คุ้ม  เพราะจะส่งกลับ หรือขายคืนถูกๆ ให้คนอื่นได้ใช้กันต่อไป..คิดในแง่ผู้บริโภคแล้วก็ดี ไม่ต้องสะสมหนังสือเก่าเก็บ ไม่ต้องไป Xerox เล่มไหนคิดว่าถูกใจ ต้องใช้ไปอีกนานค่อยซื้อไว้เป็นสมบัติส่วนตัว

   วิธีการเรียนที่นี่ก็มีส่วน ให้ไม่ต้องไปยึดมั่นถือมั่นกับข้อความ ตัวหนังสือในตำรา อ่านเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ประยุกต์ออกมาเป็นผลงาน  เพราะวิธีการวัด ไม่ได้วัดที่ content แต่วัดที่ product..
   ดังนั้น หนังสือดีไม่ดี ไม่ได้วัดที่ความเยอะ ความอลังการของเนื้อหา สังเกตดูหนังสือที่ตีพิมพ์หลายๆ ครั้ง มักเป็นผู้เขียนที่มีกลยุทธในการอธิบาย สรุปประเด็น ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย  ยกตัวอย่างเยอะๆ  อ่านแล้วต้องรู้สึกเหมือนนั่งกับเพื่อนมากกว่าต่อหน้าอาจารย์

2. ประชุมวิชาการ conference ต่างๆ  บ้านเราดีอย่างว่าส่วนมากจะฟรี หรือไม่เกินหลักพัน กระนั้นก็ยังน่าเสียดายว่า แต่ค่าลงทะเบียนที่นี่เป็นหลักหมื่น คนที่เข้าก็ต้องตั้งใจเข้าไปเก็บเกี่ยวความรู้จริงๆ มีวัตถุประสงค์ชัดเจนว่าอยากเอาความรู้ไปทำอะไร ไม่แปลกว่า แต่ละห้องที่นำเสนอวิจัยคนจะเข้ากันเต็มๆ  และหลังวิทยากรพูดจบแล้ว จะมีคำถามเยอะมาก..แบบต้องเอาให้คุ้ม ว่างั้นเถอะ


----------------------------------------------------------------------------------------------------

ปิดท้าย ด้วยภาพไปเยี่ยมเยียน UC berkeley  นั่งรถ BART จากสถานี 16th steet ไปลง Berkeley downtown  ร่มรื่นสวยงามจริงๆ 

มหาวิทยาลัย ที่มีสัดส่วน asian ใน undergrad 45% !!



ห้องสมุดกับหอคอย ดูภูมิฐาน เห็นนักศึกษาเขาใส่แบบนี้ เรายังต้องใส่เสื้อหนาวอยู่เลย

อิจฉานักศึกษาที่นี่อีกอย่าง ที่มีร้านหนังสือมือสองขนาดใหญ่อยู่ใกล้ๆ หนังสือมือสองที่นี่สภาพดีเยี่ยมจริงๆ

คำสำคัญ (Tags): #textbook#rent book#trade in#used book
หมายเลขบันทึก: 384968เขียนเมื่อ 15 สิงหาคม 2010 13:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท