ห่างหายไปนาน จนแฟนคลับตึกเขียวดอทคอม โทรทางไกลจากหนองบัวลำภูมาถามว่า ทำไมไม่update ข้อมูลเลยพี่น้อย รออ่านอยู่ .......
ดีใจสุดๆ นะคะ ขอตอบแทนด้วยวันนี้จะพาชาวหนองบัวลำภู กะชาวตึกเขียว ไปเที่ยวอุทัยธานีต่อนะคะ เราไปให้อาหารปลาที่วัดจันทราราม(ท่าซุง)กัน
ก่อนไปดูความน่ารักของปลากัน ขออนุญาตนำข้อมูลประวัติที่มาของวังมัจฉา จาก web site ของ วัดท่าซุง (http://www.watthasung.com)มาเล่าพอสังเขปกันก่อน นะคะ
ในอดีตสมัยที่วัดท่าซุงยังไม่เจริญมากนัก ยังไม่มีแพปลา และยังไม่มีปลามากเหมือนในปัจจุบันสมัยก่อนนั้นมีเพียงชานตลิ่งที่ยื่นออกมาไม่มาก ชายน้ำนี้จึงเป็นที่จอดเรือหางยาวของ คุณป้าเอี่ยม อ่อนศรี แม่ครัวคนหนึ่งของวัด ซึ่งเวลานี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว ตอนเช้าทุกเช้า คุณป้าจะต้องขับเรือหางยาวไปซื้อกับข้าวที่ตลาดมโนรมย์ มาทำอาหารถวายพระสงฆ์ เวลาพระสงฆ์ฉันข้าวเสร็จแล้ว เมื่อมีเศษอาหารเหลือ คุณป้าจะเอาไปให้ปลากินเป็นอาหาร พร้อมทั้งล้างจานของท่านเองไปด้วย เวลานี้มีปลามาอาศัยอยู่เยอะ เวลานักท่องเที่ยวมาซื้ออาหารโยนลงไปให้ ปลาพวกนี้จะขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย ซึ่งเป็นอาหารปลาที่พระในวัดและคนงานช่วยกันผลิตขึ้นมาจำหน่าย
เนื่องจากมีปลามาขอพึ่งบุญในวัดมากมาย มีชาวบ้านหัวหมอแอบลอบเข้ามาจับปลาเป็นระยะๆ พระสงฆ์ในวัด ต้องช่วยกันคอยดูแล และโครงการอนุรักษ์พันธุ์ปลาเกิดขึ้น กำหนดพื้นที่รักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำ ความยาวตั้งแต่เขตโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา ด้านยาว ยาว ๒ เส้น ๕ วา (ตามแม่น้ำสะแกกรัง) ด้านกว้าง ทิศตะวันออกจดคันตลิ่ง ถึงทิศตะวันตกจดคันตลิ่ง หน้าโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยาเพื่อสงวนพันธุ์ปลาไว้ ให้เราได้ชื่นชมกันนี่แหละค่ะ
ในวันนั้น ถึงแม้ระดับน้ำในแม่น้ำสะแกกรัง จะลดลงไปมาก แต่ก็คงไม่ได้กระทบกับระบบนิเวศน์ของปลาที่นี่มากนัก เพราะทางวัด ใช้ระบบปั๊มน้ำช่วยเพิ่มออกซิเจนในน้ำ......
ปลาส่วนใหญ่ที่นี่ เป็นปลาสวาย ซึ่งคงเหมือนกับวังมัจฉา ที่อื่นๆ สำหรับอาหารที่ทางวัดจัดไว้จำหน่าย จะมีอาหารเม็ดสำเร็จรูป ขนมปัง และกล้วยน้ำว้า ดูจากที่วางไว้ แสดงว่า วันหนึ่งๆ มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยอะพอสมควร
ที่สะดุดตา มากที่สุด คือ กล้วยน้ำว้า ที่คนขายเค้านั่งบรรจงปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นๆ ใส่จาน เรียงไว้( น่ากินทีเดียว) ตอนแรกก็ถามด้วยความไม่รู้ว่า กล้วยนี่ให้ใครกิน น้องคนขายเค้าบอกว่า เอาไว้ให้เลี้ยงปลา ก็ถามต่อว่า แล้วทำไมต้องปอกเปลือก คนขายบอกว่า จะได้สวยๆ กินง่ายๆ คนยังต้องปอกเลย (เออ... จริงอย่างน้องว่า ) แล้วก็อดสงสัย ต่อไม่ได้ว่า แล้วเปลือกที่เหลือ เอาไปทำอะไร ได้คำตอบว่า ก็ให้ปลากินแหละ ( อืม ... แล้วจะปลอกทำไม)
ในที่สุด ก็ได้คำตอบค่ะว่า กล้วยน่ะ ให้เอาไปป้อนปลาแรด กะปลาอะไรไม่รู้จำชื่อไม่ได้ ตัวโต้โต (555 ไม่ค่อยถนัดเรื่องปลาซะด้วย ซึ่งความจริงคนขายน่ะ เค้าบอกแล้ว แต่พี่น้อยลืม) เหตุผลที่ต้องป้อน เพราะถ้าโยนลงไป ก็จะโดนน้องๆปลาสวายที่มีเป็นพันๆ ตัว แย่งหมด วิธีการป้อน ก็ต้องใช้ไม้ไผ่จิ้มกล้วยไว้ ค่อยๆหย่อนไว้เหนือน้ำ ให้พี่ปลาแรด โผล่มางับกิน
งานนี้ ทดลองแล้ว พี่ปลาแรดน่ะ กระโดดขึ้นมางับได้เล็กน้อย ส่วนน้องปลาสวายน่ะไม่เห็นกระโดดนะ...เห็นปลาเยอะๆ แย่งกันกินน้ำแตกกระจาย อดคิดไม่ได้ว่า จะมีตัวไหนมั้ยน๊า ที่แย่งตัวอื่นไม่ทัน แล้วก็อดตาย แต่ดูแล้ว ทุกตัวอ้วนท้วนสมบูรณ์ดี
เพลิดเพลินสบายใจดีค่ะ แฟนคลับชาวตึกเขียวดอทคอมกะชาวหนองบัวลำภู เตรียมตัวกันไว้นะคะ พร้อมเมื่อไร เราไปให้อาหารปลาด้วยกันนะ
ปลาแรดมันช้า สงสัยกินไม่ทันตัวอื่นเค้า ดีนะ มีน้อยช่วยป้อนให้มันได้กินกล้วย ความจริงมาจากพิษณุโลก น่าจะป้อนกล้วยตากนิ
พี่น้อยขา!!..ปลาวังมัจฉาเค๊า..แนวเพื่อสุขภาพดีจังนะคะ..ถึงว่าตัวเบ้อเริ่มเลย..อิ..อิ!!!แต่สงสัยว่ากว่าจะป้อนหมดจาน..คงต้องมีกล้วยแบบปิ้งหรือยังไม่ปลอกให้คนป้อนด้วยจะดีมั๊ยค๊า..(ถึงวันนั้นชาวตึกเขียวจะแบกกล้วยไปเองละกัน..นะคะ..)
อยากไปเที่ยวมั่งจัง
ได้ความรู้เยอะเลย ...น่าอ่านจัง
ปลาเยอะมานานมากแระ อยากให้ทุกคนลองไปเที่ยว มีอะไรให้ดูเยอะกว่านี้อีกมาก