วันอาสาฬหบูชา
ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ เกิดขึ้นก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี เป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงธรรม “ปฐมเทศนา” หรือการแสดงธรรมครั้งแรกหลังจากตรัสรู้แก่ “ปัญจวัคคีย์”เทศน์กัณฑ์แรกหรือพระธรรมที่แสดงคือ “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” และผลของพระธรรมทีเทศนากัณฑ์นี้เป็นเหตุให้ “โกณฑัญญะ” ได้รู้แจ้งเห็นธรรม จึงขอบรรพชาต่อพระองค์นับเป็นอริยสงฆ์องค์แรกของพระพุทธศาสนาและทำให้พระรัตนตรัยครบองค์ ๓ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
โดยทรงแสดงธรรม ๒ ประการคือ
๑. มัชฌิมาปฏิปทาหรือทางสายกลาง ไม่ประพฤติสุดโต่ง ๒ ส่วน คือ
- การหมกหมุ่นมัวเมาในกามสุข (กามสุขัลลิกานุโยค)
- การทรมานสร้างความลำบากให้แก่ตนเอง (อัตตากิลมถานุโยค)
การดำเนินตามทางสายกลางคือ การดำเนินชีวิตด้วยปัญญา โดยมีหลัก ๘ ประการเรียกว่า “อริยอัฎฐังคิกมัคค์”หรือมรรคมีองค์ ๘ ได้แก่
๑. สัมมาทิฎฐิ (เห็นชอบ)
๒. สัมมาสังกัปปะ (ดำริชอบ)
๓. สัมมาวาจา (วาจาชอบ)
๔. สัมมากัมมันตะ (กระทำชอบ)
๕. สัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ)
๖. สัมมาวายามะ (พยายามชอบ)
๗. สัมมาสติ (ระลึกชอบ)
๘. สัมมาสมาธิ (ตั้งจิตมั่นชอบ)
๒. อริยสัจ ๔ แปลว่าความจริงอันประเสริฐของอริย ได้แก่
๑. ทุกข์ (ความไม่สบายกาย สบายใจ)
๒. สมุทัย (เหตุให้เกิดทุกข์)
๓. นิโรธ (การดับทุกข์)
๔. มรรค (ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์)
เมื่อวันอาสาฬหบูชาที่ผ่านมา ผมได้พาครอบครัวไปไหว้พระทำบุญตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ๕ อำเภอ ตอนเช้าเตรียมกับข้าวเสร็จก็เอาใส่รถกระบะคู่ใจชื่อ “ขาวผ่อง”เพื่อไปทานเป็นอาหารกลางวัน วันนี้เจ้าขาวผ่องก็ต้องเหนื่อยอีกวัน เพราะได้นำพากันไปร่วมทำบุญ เริ่มออกจากบ้านจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช มุ่งหน้าไปทางตะวันตกสู่อำเภอพรหมคีรีไปถึงสี่แยกหน้าอำเภอเลี้ยวซ้ายไป 100 เมตร ทางไปน้ำตกพรหมโลก ก็ถึงจุดที่หนึ่งคือวัดพรหมโลกได้เข้าไปไหว้พระทำบุญรูปปั้นอดีตเจ้าอาวาส และพระประธานในอุโบสถ ซึ่งเพิ่งได้ทำพิธีฝังลูกนิมิตไปเมื่อต้นเดือนและได้เข้าไปนมัสการพระครูบรรหารวุฒิชัย อาจารย์เจ้าอาวาสและเป็นเจ้าคณะอำเภอด้วย ท่านได้มอบวัตถุมงคลให้เป็นของที่ระลึก
เสร็จจากนั้นก็เดินเที่ยวชมบริเวณวัดได้พบกับภาพวาดรูปฤาษีดัดตนในโรงฉันซึ่งเป็นศาสตร์ว่าด้วยการบริหารร่างกาย
และต่อจากนั้นได้ไปเยี่ยมชมสถานพยาบาลรักษาผู้ป่วยที่โดนงูกัด ด้วยยาสมุนไพร ด้วยภูมิปัญญาของชาวบ้าน ซึ่งอยู่ภายในวัดซึ่งมีการสตาร์ฟงูพิษต่างๆ ไว้ให้ได้ศึกษาเรียนรู้และตัวยาสมุนไพรที่ใช้ในการรักษา
เส้นทางจากตัวเมืองสู่วัดพรหมโลกระยะทางประมาณ ๒๕ กม. สองข้างถนนเป็นสวนไม้ผล ดูแล้วเขียวชอุ่ม และมีภูเขาหลวงเป็นทิวฉากสูงถึงก้อนเมฆเป็นม่าน หลังจากนั้นได้เดินทางย้อนกลับมาสู่เส้นทางไปอำเภอลานสกา เดินทางไปสู่วัดคีรีวงเป็นจุดที่สอง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่แน่นอนเส้นถูกปิดซ่อมถนน หากจะไปจะต้องเดินทางอ้อมและเป็นภูเขาทำให้เสียเวลา เลยตัดสินใจเดินทางจากอำเภอลานสกาสู่อำเภอช้างกลาง ซึ่งเส้นทางสายนี้ลัดเลาะไปทางภูเขาซึ่งเป็นธรรมชาติที่ให้ความสดชื่นแก่ชีวิตแล้วไปหยุดบูชารูปปั้นพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ บนเขาธงเป็นสำนักสงฆ์เทวศิษฐ์ จุดเชื่อมต่อระหว่างอำเภอลานสกากับอำเภอช้างกลางเป็นจุดที่สาม
เสร็จแล้วเดินทางต่อไปยังน้ำตกท่าแพเพื่อหยุดรับปรานอาหารกลางกลางวัน ซึ่งอยู่ในเส้นทางผ่านเพื่อที่จะเดินทางไปยังวัดมะนาวหวานเป็นจุดที่สี่ต่อไป
และได้เดินชมน้ำตกและป่าไม้ให้สดชื่นแห่งชีวิต และได้มานั่งทานอาหารที่ร้านอาหารส้มตำริมน้ำตก สั่งส้มตำ ไก่ย่างและข้าวเหนียวมาทานรวมกับอาหารที่นำไปจากบ้าน ทานอาหารไม่เสร็จฝนได้ตกมาอย่างหนักทำให้นึกไปว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีใครกำหนดได้ ทานอาหารเสร็จเจ้าของร้านเป็นชาวสวนผลไม้ ให้ทุเรียนและมังคุดทานฟรี คิดเฉพาะอาหารที่สั่ง เป็นบรรยากาศการเอื้ออาทรซึ่งกันและกันของชีวิตชนบท
หลังจากทานอาหารเสร็จ ฝนยังตกเดินทางมาผ่านวัดมะนาวหวาน(พระอารามหลวง)เลยไม่แวะไปแต่ได้ยกมือไหว้อธิษฐานค่อยมาครั้งต่อไป และเดินทางต่อไปยังวัดธาตุน้อยเป็นจุดที่ห้า วัดนี้เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งเป็นที่เก็บสรีระของพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ซึ่งเป็นพระเกจิที่ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราชองค์หนึ่ง เป็นที่เคารพสักการบูชาของชาวนครและบุคคลทั่วไป วัดนี้เลยเต็มไปด้วยผู้คนมากมายมาที่วัด
ไปไหว้สักการะสรีระพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์เสร็จแล้วเดินทางต่อมายังวัดสวนขันเป็นจุดที่หก เป็นวัดที่พ่อท่านคล้ายเคยจำวัดอยู่ ซึ่งมีองค์พระคชเชนท์(พระพิฆเนศร์)อยู่ซึ่งเป็นของคู่กายพ่อท่านคล้าย ได้โทรหาเพื่อนเก่าสมัยเรียนซึ่งมีบ้านแถวนั้น เขารับสายแล้วบอกว่าอยู่ที่บ้านมีงานฌาปนกิจของคุณย่า ผมเลยแวะไปเยี่ยมและร่วมทำบุญในงานด้วย ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามกฎของไตรลักษณ์ เสร็จแล้วมุ่งต่อไปยังวัดสำโรงอยู่ในเขตอำเภอทุ่งสงเป็น จุดที่เจ็ด เส้นทางที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นเส้นทางเลียบเชิงเขามีป่าไม้ร่มรื่นดูแล้วสบายตา แต่กาลเวลามันช่างผ่านไปรวดเร็ว ทำให้บางจุดในเส้นทางผ่านไม่ได้แวะตามที่ตั้งใจไว้อย่างเช่นวัดสำโรง เพื่อชมปลาในสระที่เลี้ยงไว้ ต้องเดินทางมากราบไหว้คุณแม่ของพี่ที่ทำงานด้วยกันเพื่อมาขอพรและเอาของไปฝาก ที่ถ้ำพระหอเป็นจุดที่เจ็ด ซึ่งมีสำนักสงฆ์อยู่ด้วย ตอนนี้ก็เวลาบ่าย ๕ โมงเย็น การเดินทางระหว่างจุดนี้ถึงบ้านคุณพ่อคุณแม่เพื่อไปนอนพักที่บ้านท่านสักคืนที่อำเภอร่อนพิบูลย์ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง เลยต้องตัดจุดที่ต้องแวะไป ๒ จุด คือวัดพนมเชือดและวัดเทพนิมิต วันรุ่งขึ้นเดินทางสู่บ้านพักในตัวอำเภอเมืองครบรอบพอดี การเดินทางเส้นทางธรรมสู่ธรรมชาติก็สิ้นสุดลงเท่านี้
มาชม
มาเชียร์
คุณแมน...เป็นการเดินทางอย่างมีชีวิตชีวานะครับนี่...ได้บุญกุศลช่วยอำนวยชัยด้วยละ...
สวัสดีครับอาจารย์ยูมิ ผมมีภาพการเดินทางด้วยแต่กำลังตัดเพื่อลดขนาดของไฟล์ภาพ
ขอบคุณอาจารย์ยูมิมากที่เป็นกำลังใจ