แอบให้เด็กใช้ Linux โดยไม่รู้ตัว


แอบให้เด็กใช้ Linux โดยไม่รู้ตัว

พูดถึง Linux หลายๆ คนคงปวดหัว รึหลายๆ คนคงคิดว่ายาก และหลายๆ คนคงไม่รู้จัก แต่จริงๆ แล้ว Linux ก็ไม่ได้ยากอะไรเลย

 

จากที่ผมได้คุยกับหลายๆ หน่วยงาน ทั้งหน่วยงานระดับใหญ่และหน่วยงานระดับเล็ก หลายๆ หน่วยงานได้พูดถึงการละเมิดลิขสิทธิ์ และได้พูดถึงการแก้ไข ซึ่งก็มักจะจบลงด้วยการซื้อโปรแกรม หรือไม่ก็ต้องหันไปใช้ Open Source ซึ่งพอพูดถึง Open Source ก็จะมองถึง Linux และ OpenOffice ซึ่งหลายๆ คนไม่เคยแตะต้องและไม่คิดที่จะแตะต้องมันเลย เพราะคิดว่ามันต้องยากแน่ๆ

 

มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งพูดกับผมว่าทางเนคเทคและซิป้า ได้พัฒนาโปรแกรมพวก Open Source ไปมากแล้ว เป็นนโยบายระดับชาติที่จะช่วยเหลือราชการและผู้ประกอบการที่ไม่สามารถจ่ายค่าลิขสิทธิ์ได้ โดยประเทศชาติเสียเงินไปมากกับการพัฒนาโปรแกรม นักวิจัยจำนวนมากทุ่มเทพัฒนากันมาเป็นสิบๆ ปี แต่กลับกลายเป็นว่ามีคนใช้น้อยมาก และยังคงใช้โปรแกรมแบบละเมิดลิขสิทธิ์อยู่

 

และในส่วนของสถานศึกษาหรือศูนย์ฝึกอบรม ก็มีผู้ที่เคยกล่าวเอาไว้ว่า ในฐานะที่คุณเป็นผู้ให้ความรู้ในการใช้โปรแกรมต่างๆ ซึ่งหากคุณอบรมโดยใช้โปรแกรมที่ผิดลิขสิทธิ์ก็เท่ากับว่าคุณผิดเต็มๆ หรือแม้ว่าคุณจะมีโปรแกรมที่ถูกลิขสิทธิ์แต่เมื่อคุณอบรมหรือสอนเสร็จแล้ว ผู้ที่ได้ความรู้จากคุณไปใช้โปรแกรมที่ผิดลิขสิทธิ์ก็เท่ากับเป็นการส่งเสริมให้เค้าทำผิด ก็เท่ากับว่าคุณก็มีส่วนผิดด้วย

 

ก็น่าคิดนะครับ

 

มีผู้ใหญ่อีกท่านกล่าวว่า

เราเป็นสถาบันการศึกษา เรื่องจริยธรรมก็สำคัญ
เราพยายามสอนให้นักศึกษามีคุณธรรม จริยธรรม  แต่เราเองก็ทำเสียจนชินชา ไม่ค่อยมีคนคิดถึงว่าเราละเมิดลิขสิทธิ์
โดยสภาพ เราไม่มีปัญญาไปซื้อซอฟท์แวร์ลิขสิทธิ์ได้ทุกเครื่อง
ถ้าถูกฟ้องมาใครจะเป็นคนจ่าย รัฐบาลคงไม่จ่าย หน่วยงานต้องจ่ายจากเงินรายได้ ซึ่งเรามีน้อยมาก เราจะรับผิดชอบกันอย่างไร

และท่านผู้ใหญ่ท่านนี้ก็มีแนวความคิดจะหาหน่วยงานตัวอย่างในการนำ Open Source มาใช้ภายในหน่วยงาน ซึ่งเป็นความคิดที่ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง

 

ซึ่งจริงๆ แล้วผมมีการทดสอบได้ระยะหนึ่งแล้ว ว่าหากนำ Open Source มาใช้จะสามารถทดแทน Windows ได้หรือไม่

 

โดยคำตอบที่ผมได้รับนั้น หากว่าแค่ใช้งานทั่วๆ ไป ก็สามารถใช้แทนได้ เพราะผมได้ลองลง Linux ปนไปกับเครื่องที่ให้บริการเด็กที่มาใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตที่ศูนย์ MHSICT โดยจากเครื่องที่มีอยู่จำนวน 12 เครื่อง ผมได้ลงไปก่อน 2 เครื่อง เพื่อดูผล

 

โดยผลที่ออกมานั่นก็คือเด็กที่มาใช้งานเครื่อง 2 เครื่องนั้น สามารถใช้งานได้ปกติ เพียงแต่เด็กที่มาใช้ มาใช้เพียงอินเตอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูล อ่านข่าว อ่านเมล ใช้พวก Social Network ใช้เล่นเกมในเว็บทั่วๆไป ซึ่งเด็กที่มาใช้เป็นเพียงเด็ก ป.5 , ป.6 และเด็ก ม.ต้น เท่านั้น ซึ่งเด็ก ป.5 และ ป.6 ไม่รู้เลยว่าใช้ Linux อยู่ ส่วนเด็ก ม.ต้น พอจะรู้อยู่บ้าง แต่ก็สามารถใช้งานได้

 

ผลที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจ แต่ยังคงต้องสังเกตต่อไปว่าหากมีการใช้งานด้านอื่นๆ ด้วย เช่น พิมพ์เอกสาร หรืองานเกี่ยวกับ Graphics จะได้ผลอย่างไร

 

ในวันพรุ่งนี้ผมจะลองลงเพิ่มอีก 2 เครื่อง เพื่อดูว่าเด็กจะมีปฏิกริยาอย่างไร จะใช้เครื่องที่เป็น Linux หรือไม่

 

ยังไงอย่าลืมมาฟังผลนะครับ

 

ป.ล. ไม่ได้หลอกให้เด็กใช้นะครับ เพราะหากเด็กใช้ไม่ได้ก็มีเครื่องอื่นๆ หรือหากเครื่องเต็มเด็กก็สามารถรอใช้เครื่องอื่นได้ และที่ศูนย์ผมปัจจุบันให้บริการคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตฟรี ตั้งแต่ 8.30-21.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการครับผม

 

คำสำคัญ (Tags): #linux
หมายเลขบันทึก: 378505เขียนเมื่อ 25 กรกฎาคม 2010 01:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 15:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท