66. จดหมายจากคุณลุง


หลายครั้งหลายหน เราเห็นคุณลุง รอลูกๆ จนมะม่วงเน่าเสียไป ไม่รู้กี่หน ต่อกี่หน

    ในรอบเดือนที่ผ่านมา ผมตั้งใจจะเขียนบันทึกหลายครั้ง แต่มีกิจสารพัด (เช่น ความล้าในอารมณ์) จนวันนี้ได้รับฟอร์เวริดเมลล์ที่ดีมากๆ ผมอ่านอยู่สองรอบ สุดท้ายลงความเห็นด้วยตนเองว่า "จั๋งซี่มันต้องซะ" (กระจาย) เรื่องมีอยู่ว่า   

.....ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้หลายปี เพื่อนบ้านก็ดี มีน้ำใจ ข้างบ้านรั้วติดกัน มีคุณลุงคนหนึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ เกษียณมาหลายปีแล้ว ภรรยาเสีย ตั้งแต่เรายังไม่ย้ายเข้ามา ลูกๆ ทั้ง 3 คน ต่างก็แต่งงาน มีครอบครัว ไปอยู่ที่จังหวัดอื่นๆ กันหมด

 .. ลุงแกก็อยู่บ้านคนเดียว มา เกือบ 10 ปี

เราได้รู้จักลุง ก็ได้เห็นในน้ำใจไมตรี เป็นคนใจดี อบอุ่น น่ารัก ..มีโรคประจำตัว ตามประสาคนแก่ คือเบาหวาน ความดัน และเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ไปตามปกติ...

ด้วยความที่ อยู่บ้านคนเดียว บางครั้งเจ็บป่วย ก็ลำบากหน่อย เพราะไม่มีลูกหลาน คอยช่วยเหลือ

ช่วงเวลาหลายปี ที่ผ่านมา เราก็ได้มีโอกาสได้ช่วยเหลือ พาไปหาหมอ พาไปทำธุระต่างๆ และถ้าป่วยหนัก ถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล ก็จะช่วยโทรตาม ลูกๆ ของแกให้

 

ลูกๆ ก็จะมาเยี่ยมบ้าง ไม่มาบ้าง แล้วแต่โอกาส 

แต่ !!! เรารู้ว่า คุณลุงเหงา !!!!....                                                                        

..........บ่อยครั้งที่คุณลุงจะบ่นถึงคุณป้า ซึ่งเราไม่เคยเจอตัวจริง ได้เห็นแต่ในรูป เพราะท่านเสียไปหลายปีแล้ว ก่อนที่เราจะได้ย้ายมาอยู่ที่นี่

 

.......... ช่วงเทศกาล ปีใหม่ สงกรานต์ เมื่อบ้านอื่นๆ เขามีลูกๆ มาเยี่ยม เราเห็นคุณลุงนั่งเหงาเพียงลำพัง

เราก็ซื้อของขวัญ ของกิน ของใช้ บางครั้งก็เป็นพวก ผลไม้บ้าง เครื่องดื่มบ้าง ไปไหว้  

 

...ลุงก็ดีใจ ให้ศีลให้พร กันยกใหญ่ 

แล้ว!!!............... 

ท่านก็ได้แต่ รำพึง รำพัน ถึงลูกๆ ......จนน้ำตาไหล ท่านได้แต่เฝ้ารอ นั่งมองแต่ประตูหน้าบ้าน รอว่าเมื่อไร จะมีรถของลูกๆ กลับมาเยี่ยมบ้างในช่วงเทศกาล..........................

 

 

หลายปีมานี้ คุณลุงก็ได้แต่รอ...เจอเพียงแต่ความว่างเปล่า ไร้แม้แต่เงาข้างกายของคนที่เรียกลุงว่าพ่อ


..........เราก็ได้แค่ปลอบ ว่าลูกๆ เขาคงติดธุระ วันไหนเขาว่าง ก็คงมาเยี่ยม ไม่ต้องคิดมาก

 

เสียสุขภาพไปเปล่าๆ...                                                                        

...........ที่หลังบ้านคุณลุง มีต้นมะม่วงพันธุ์ดีอยู่หลายต้น มีต้นหนึ่งที่ลูกโต หวานอร่อย เป็นพิเศษ

 

เราไปช่วยลุงเก็บเป็นประจำ และ  คุณลุงก็จะแบ่งมาให้ทุกครั้ง.......ลุงจะคัดลูกสวยๆ   เก็บใส่กล่อง

ดูแลเป็นพิเศษ...เก็บไว้รอลูกๆ อยากให้ลูกได้กินของดีๆ 

.......หลายครั้งหลายหน   เราเห็นคุณลุง  รอลูกๆ จนมะม่วงเน่าเสียไป ไม่รู้กี่หน ต่อกี่หน 

 

หลายปีมานี้................ ก็ไม่เคยเห็นลูกๆ กลับมากินมะม่วง ที่พ่อบ่มไว้ด้วยใจรัก แม้แต่ครั้งเดียว                                                                        

.......คุณลุงมีที่แปลงหนึ่ง ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ คุณลุงบอกว่าอยากขาย ให้เราช่วยดำเนินการให้หน่อย

 

เราก็เขียนป้ายไปติด แล้วลงประกาศให้ ...5 เดือน เศษๆ หลังจากประกาศขาย ในที่สุดก็มีผู้สนใจ

และก็ขายได้ในที่สุด ในราคา 1 ล้านบาท

 

........เมื่อได้เงินมา สิ่งแรกที่คุณลุงพูดถึงคือ...คิดถึงลูกๆ ถ้ารู้ว่าพ่อขายที่ได้คงดีใจ ลุงบอกว่า 

จะแบ่งเงินให้ลูกทั้ง 3 คน เท่าๆ กัน

 

 .......... วันรุ่งขึ้น ลุงก็มาหาเราแต่เช้า บอกว่าวันนี้ ขอแรงหน่อย ช่วยพาลุงไปธนาคารที จะไปโอนเงินให้ลูก

 

เราก็พาไป วันนั้นเป็นลูกค้ารายแรกของธนาคาร .. . คุณลุงโอนเงิน ให้ลูกคนละ 3 แสนบาท                                                                        

..........เมื่อกลับมา...จอดรถส่งลุง หน้าบ้าน...ก่อนลงจากรถ คุณลุงหยิบเงิน ในกระเป๋า 1 แสนบาท

 

ยื่นส่งให้ บอกว่า..เอานี่ "ลุงให้"

เรารีบปฏิเสธ บอกว่า ไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องให้ผม ลุงเก็บไว้ใช้เถอะ ให้ลูกๆ ไปเกือบหมดแล้ว

 

ลุงบอกว่า  "เอาไปเถอะ" ลุงได้รับบำนาญทุกเดือน ไม่ได้เดือดร้อนอะไร

 

ที่แปลงนี้ที่ขายได้ ก็เพราะเรา ต้องรับโทรศัพท์ และพาคนไปดูที่ หลายเดือนมานี้ ไม่รู้ขับรถไปกลับกี่รอบแล้ว และอีกอย่าง ตลอดเวลาที่ผ่านมา

ลุงก็ได้แต่รบกวน ไม่เคยได้ให้อะไร ตอบแทนบ้างเลย

พ่อหนุ่ม ไม่ใช่ลูก ไม่ใช่หลาน แต่ก็ยังอุตส่าห์ เสียเวลา เป็นธุระจัดการเรื่องราวให้สารพัด

....รับไว้เถอะ ลุงอยากให้จริงๆ ถ้าไม่รับลุงจะเสียใจนะ

.เราก็ไหว้ ขอบคุณครับลุง

 

..........กลับมานอนคิด ไตร่ตรอง รู้สึกไม่สบายใจ ดึกๆ จึงหยิบเงินไปหาลุงอีกรอบ...แต่ลุงไม่รับคืน และยืนยันว่า ตั้งใจจะให้เราจริงๆ                                                                        

..........อีก 2 วันถัดมา มีรถยนต์ มาจอดที่บ้านลุง ลูกสองคน คน เล็ก และคนกลาง มาเยี่ยมและ ทวงถามเราถึงเงิน 1 แสนบาท พูดจาประมาณว่า...เราไปหลอกเอาเงินคนแก่ เรารีบเข้าไปในบ้าน หยิบเงิน 1 แสน เดินไปที่บ้านลุง แล้วคืนเงินให้ลุง

 

.........ลุงปฏิเสธ และพยายามอธิบายให้ลูกๆ ฟัง แต่ทั้งสองคนไม่ยอม เราจึงวางเงินไว้แล้วเดินออกมา

 

ก่อนตะวันตกดิน ได้ยินเสียงรถขับออกไป ...................สักพักลุงก็มาหา เล่าว่า สองคนนั้นแบ่งเงิ นกันคนละ 5 หมื่นแล้วก็ลากลับไปแล้ว                                                                        

คุณลุงกล่าวคำขอโทษอย่างที่สุด

 

 

ลุงน้ำตาไหล บอกว่าเสียใจ ไม่คิดว่าลูกๆ จะเป็นไปถึงขนาดนี้      ลุงบอกว่าจะเอาเงินบำนาญที่ได้รับทุกเดือน มาทยอยคืนให้ จนกว่าจะครบ 1 แสนบาท

เราบอกว่า ไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องทำอย่างนั้น

.......อีก 3 วัน เกือบๆ เที่ยงคืน ลุงมาที่บ้าน พร้อมกับ ลูกชายคนโต เมื่อ 3 วันที่แล้ว พ่อโทรฯ ไปเล่าเรื่องให้ฟัง

พี่ก็ไม่สบายใจ.. พอดีที่ทำงานส่งไปสัมมนา  หลายวันออกมาไม่ได้ พอเสร็จธุระ ก็รีบขับรถมาเลย มาถึงซะดึก

พี่ต้องขอโทษ แทนน้องๆ สองคนด้วย เสียมารยาทจริงๆ เดี๋ยวต้องคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวสักครั้ง

อายุก็มากแล้ว แต่ก็ไม่รู้จักโต แย่จริงๆ...เอาอย่างนี้ ขอเลขบัญชีธนาคารให้พี่ได้ไหมเดี๋ยวกลับไป

 

พี่จะรีบโอนเงินมาคืนให้.............. ไม่ต้องหรอกครับ ไม่เป็นไร

......เราปฏิเสธไป

 

.........วันถัดมาเมื่อลูกชายคนโตกลับไป ลุงเล่าให้ฟังด้วยความดีใจ เจ้าใหญ่มันบอกว่า

วางแผนไว้แล้ว อีก 5 ปี จะย้ายมาทำงานที่บ้าน จะพาลูกพาเมียมาอยู่ที่นี่...เราสังเกตเห็น แววตาอันสดใสของคุณลุง  บ่งบอกถึงความปิติ ยินดีอย่างที่สุด....... ดีใจด้วยครับลุง ต่อไปลุงจะได้ไม่เหงาแล้ว ..

.....ตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ เกือบ 4 ปี แล้วซินะ ที่ลุงนับวันรอ ว่าจะมีลูกๆ กลับมาอยู่ด้วย

เราเห็นปฏิทินที่คุณลุงขีดฆ่า วันแล้ว วันเล่า ...เดือนแล้ว เดือน เล่า..ปีแล้ว ปี เล่า

และสุดท้าย .......

ลุง ..... ลุง ..... ลุง ..... ลุง น่าจะอดทนรออีกนิด .. อีกนิดเดียวเองครับลุง ความสุขที่ลุงเฝ้าฝันใฝ่หามาตลอด จากลูกชายที่ลุงรักสุดหัวใจ ..

........... ในห้อง ไอซียู เรากับ พี่ใหญ่ นั่งอยู่คนละข้างเตียงคนไข้.......ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต

 

คุณลุงขยับนิ้วมือ เรากับพี่ใหญ่เอื้อมมือไปจับมือลุง ...ดวงตาค่อยๆ ปิดลงช้าๆ

.................ชายชราที่เกิดมาเพื่อรอคอย ความอบอุ่นจากบุตร จากไปแล้ว อย่างไม่มีวันหวนกลับมา.

 

*** หลังงานศพ เสร็จสิ้น................

ค่ำคืนนั้น พี่ใหญ่มาหาเราที่บ้าน ยื่นถุงกระดาษส่งให้ บอกว่า – พ่อฝากไว้ให้

พ่อกำชับไว้ตั้งแต่ก่อนตาย ว่าต้องให้เรารับไว้ ไม่งั้นพ่อจะนอนตายตาไม่หลับ..

 

เราแกะถุงเปิดดูข้างใน มีซองจดหมายทั้งหมด 10 ซอง.

จ่าหน้าว่า... คืนเงิน    เดือนที่ 1-2-3...ไปจนถึง คืนเงินเดือนที่ 10 ในแต่ละซอง ข้างในมีธนบัตร ใบละ 1,000 บาท สิบใบ

 

.......ซองสุดท้าย มีข้อความ...ว่า

-----------------------------------------------------------------------------------------

ถึง...    หลานที่ไม่ใช่สายเลือด 

แต่ก็เป็นหลานที่ดีกับลุงเหลือเกิน ...ลุงคืนเงินให้ตามที่เคยสัญญา

ขอบคุณที่ช่วยเหลือ เป็นธุระให้ ในทุกๆ เรื่อง และเป็นเพื่อนคนแก่มาตลอด.

 

ป้ามารอลุงแล้ว...ลุงต้องไปก่อน                                                                        

      ------------------------------------------------------------------------------------------- 

 

.............อีก 2 วันถัดมา ที่บ้านคุณลุง มีคนเข้ามาทำความสะอาด...เราสังเกตเห็นปฏิทิน

ที่คุณลุงใช้ขีดฆ่า เพื่อนับวันรอลูกๆ ... ถูกทิ้งอยู่ในถังขยะหน้าบ้าน 

-------- เดินไปที่ถังขยะหน้าบ้านลุง มองไปที่ประตู มีป้ายประกาศติดไว้.....ขายบ้านด่วน !!!!

...........เราไปเก็บ ปฏิทิน มาทำความสะอาด........

นึกถึงภาพคนแก่ที่หยิบดินสอขีดฆ่าตัวเลข บนปฏิทินด้วยอาการมือสั่นเทา... แต่ใจแอบยิ้มเฝ้าฝันวันลูกชายที่รักกลับมาใกล้กาย.

...............ลูกๆ คงไม่รู้หรอกว่า ภายใต้ปฏิทินเก่าๆ ไร้ค่าใบนี้ มันซ่อน ความห่วงหาอาลัย

ซ่อนความเงียบเหงา ว้าเหว่ ..ซ่อนความเจ็บปวด ร้าวลึก ของคนแก่คนหนึ่ง ที่ต้องใช้ชีวิต อยู่อย่างโดดเดียว เพียงลำพัง มานานกว่า 10 ปี

 

............ความรู้สึกทั้งหมด คงซึมซับอยู่ในปลายปากกาที่ขีดเขียน ลงไปในแต่ละครั้ง

ในบางครั้งเรารอคนที่เรารักเพียง 1 วัน 1 ชั่วโมง 1 นาที ยังทนแทบไม่ได้ อยากเจอใจจะขาด 

ส่วนลุงที่รอมาจาก 365 วัน เป็น 730 วัน เป็น  1,095 วัน เป็น  1,460 วัน 

จนวันสุดท้ายของลมหายใจ

 

สภาพจิตใจคงย่ำแย่ เกินกว่าใครคนใดจะรู้ได้ แต่ทำไมทุกครั้งที่เราเจอ ลุงยังยิ้มได้ตลอดเวลา

........เราตั้งใจจะเก็บปฏิทินนี้ไว้ เพื่อเป็นที่ระลึก...ตลอดไป..

......ขอให้บุญกุศล และคุณงามความดี ทั้งหลายทั้งปวง ที่คุณลุงได้สั่งสมมาตลอดชั่วชีวิต

จงนำพาดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ของคุณลุง ไปสู่สุคติ..ในดินแดน อันสงบ ร่มเย็น

 

........ ชั่วนิรันดร์.....      

...............รักคุณลุงครับ

 


..ขออุทิศความดีที่พึงมีให้แก่ผู้เขียนเรื่องนี้ และทุกท่านที่ฟอร์เวริดเรื่องนี้มาให้ผม 

เหนือสิ่งใด ขออุทิศให้แด่ผู้ที่ได้ชื่อว่า  "คุณพ่อ" ของทุกคน


หมายเลขบันทึก: 378427เขียนเมื่อ 24 กรกฎาคม 2010 16:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 กันยายน 2012 18:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ซึ้งมาก ไม่ได้อ่าน  เสียใจแน่เลยค่ะ ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

ขอบคุณเช่นกัน

(ภาพเก่าของครูอ้อย ให้ความรู้สึกดีกว่า ผมขอให้ภาพเก่านะครับ...)

  • ครูอ้อย ก็ชอบรูปนี้ค่ะ
  • แต่เริ่มจะหลบไปอยู่ข้างหลัง ให้น้องๆ ได้อยู่ข้างหน้า เพราะ ครูอ้อยตัวสูงกว่า มั้งคะ

ครูอ้อยคุยสนุกนะครับ

บรรยากาศในชั้นเรียนคงดีมาก เด็กๆ มีความสุขในการเรียน 

ผมว่า ถึงเราจะไม่อยากหลบ แต่..น้องๆ จนถึงเยาวชนเขาจะเบียดขึ้นหน้าเราไปเอง

ที่เขาเรียกว่า...การพัฒนา

ขอบคุณที่มาเยี่ยมอีกครั้งครับ

ปู่ที่เคารพ  ย่าไม่ได้เข้ามาเยี่ยม GTK นานมาก แม้แต่ อะไรหละที่คุยกันถึงกันทันที ระบบคอมมันเปลี่ยนแปลงมากมาย ย่าตามไม่ทัน ทั้งโหลดนาน เอาว่าย่าไม่มีเวลาเหลือเลย  ย่าซื้อบ้านข้างๆๆ จากล้านสอง ย่าต่อเขาได้หนึ่งล้าน ที่ปู่เคยเย้าว่า จะมาซื้อเพื่อทำธุรกิจ ย่าไม่ได้ทำอะไร ซื้อเพราะเขาประกาศขายมานานแล้ว นานมาก เห็นว่ามันติดกันก็เลยซื้อ กะว่าจะทุบห้องใส่กัน เป็นหลังเดียว มันมีเป็นห้องๆๆ แล้ว เลยคิดว่า จะทำเป็นห้องแบ่งให้นักเรียนมาเช่า ตอนช่วงปีการศึกษาใหม่นี้ กำลัง เตรียมความพร้อม ย่าพูดเสียยาว เพราะเขียนเมลย์แมสเสทไฮไฟ ฮิฟิ ทำไม่เป็นแล้ว

-ย่าเป็นคนขี้สงสาร มาอ่านเรื่องนี้แล้ว คิดถึงแม่ ที่จากไป ความรู้สึกเงียบเหงา รอวัน ลูกจะกลับมาเยี่ยม แล้วขีดปฏิทินทุกวัน น่าสงสารเหลือเกิน น้ำตาคลอเบ้าแล้ว สงสารความรู้สึกแบบนี้ พ่อกับแม่ ที่เป็นเช่นนี้ยังมีอีกแน่นอน  ไม่แคร์ความรู้สึกของพ่อแม่เลย  และพ่อแม่ที่ไม่ยอมไปอยู่กับลูก กลัวเป็นภาระ กลัวลูกลำบาก แต่หวังเพียงว่า รอวันเวลา ทีเมื่อถึงเวลาจะมาเยี่ยมได้ ลูกๆน่าจะจัดสรรแบ่งเวลาบ้าง

-พ่อแม่คิดถึงลูก เวลาลูกไม่มาเยี่ยมก็คิดในทางที่ดี ว่าลูกไม่ว่าง ไม่พร้อม ลูกมาหาลำบาก ยาก ทั้งที่จริงแล้ว คิดว่าอยู่สบายดีแล้วเลยไม่มา ไม่ห่วง

-ถ้าหากเรื่องนี้ มาให้ย่าอ่าน ก่อนที่แม่ยังไม่จากไป ย่าจะทดแทน ชดเชย ความรู้สึกเหล่านี้ ให้แม่ได้ยิ้มอย่างเต็มที่ และมีความอบอุ่นใจ ให้นอนตายตาหลับ

จำได้ไหม บ้านที่เขาประกาศขาย กำลังทำกันสาดใหม่ ไว้เสร็จแล้วจะนำรูปมาให้ดู ช้างในก็ปูกระเบื้องเสียสวยเลย กว้าง 4 เมตร ยาว 24 เมตร 2 ชั้น มีห้องน้ำทั้งสองชั้น  ย่าจะทำห้องน้ำเพิ่มอีก หลังบ้าน เพราะเวลาเร่งด่วนจะแย่งห้องน้ำกัน

มีห้องเขากั้นไว้แล้ว เป็นห้อง 3 ห้อง ห้องว่าง ตอนนี้ที่บ้านย่าหลังเก่ามีนักเรียนหญิง อยู่กาฬสินธ์ มาเรียนที่โรงเรียนมัธยมศรีกระนวน 2 คน มาพักห้อง ลูกชาย เดือนละ 2,500 บาท  เลยได้ความคิด ว่าจะแบ่งให้นักเรียนเช่า มีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ มีน้ำอุ่น  เตรียมความพร้อมเมื่อไหร่เสร็จ ประกาศทางวิทยุทันที

ห้องหนึ่ง 2500 อยู่ได้ 2 คน หารแบ่งกันก็ได้ คือยังไงก็คิด ห้องละ 2500 บาท น้ำไฟ พัดลมพร้อม อยู่ใกล้ตลาด เดินไปก็ถึง ตืดถนน เดินทางไปมาสะดวก และคนที่มาใฃ้บริการ ก็คือเขาอยากให้ย่าคุมความประพฤติ ดูแลลูกหลานแทน

-มีบ้านให้เช่า มากมายในกระนวน หลังละ 2000 บาท แต่เขาว่าเอามาฝากย่าให้ดูแล เพิ่มอีก 500 บาท ค่าน้ำค่าไฟ สบายใจกว่าปล่อยให้อยู่ตามลำพัง

-ปู่ ย่าว่า ย่าหลบมาคุยส่วนตัว จะเป็นเหมือนเมื่อก่อน จะมีคนตามมาอ่าน ไปก่อนนะ ลืมสูตรหมดแล้ว ที่เคยทำคำ เพราะคอมมันเปลี่ยนแปลง จะเมลย์ประจำวันก็ทำไม่เป็น ไปหละคะ เดี่ยวจะไปเยี่ยมคนอื่นบ้างคะ คิดถึงเหมือนเดิม

บทจะไปก็เหมือนขอมดำดิน 

บทจะมาก็เหมือนหนุมาน (ว่องไวนะครับ...ไม่ใช่ลิงธรรมดา ที่..หลอกเจ้า...อิอิ...)

ดีใจด้วยนะย่า....ดีใจที่มีแอกเพิ่มขึ้นอีกตัว...ฮ่า ฮ่า... อยู่ดีๆ ไม่ว่าดี (live good good no said good) ไปเอาลูกเขามาเลี้ยง  (อีกแล้ว...) 

ปู่มีเรื่องหนึ่งเล่าให้ฟัง 

ครูท่านหนึ่งเกษียณอายุราชการมาแล้ว 5 ปี ตลอดเวลาหลังเกษียณท่านต้องดูแลคนป่วย คนแรกพี่สาวเป็นอัมพาต พอพี่สาวเสียชีวิต พ่อครูก็ป่วย ท่านก็ได้ดูแลพ่อ จนพ่อมรณภาพ (ต้องเรียกหลวงพ่อถึงจะถูก) หลังจากนั้นน้องชายท่านก็ไม่สบายอีก ท่านก็เป็นคนดูแลอีก 

มีคนพูดว่า "น่าสงสารคุณครูจัง ไม่รู้ว่าสร้างกรรมอะไรไว้ จะไปไหนก็ไม่ได้ไป" 

คนพูดสนิทกับปู่ ปู่ก็เลยบอกเขาว่า "เราลองมองอีกมุม มองว่า อิจฉาคุณครูจัง ได้มีโอกาสสร้างกุศล ดูแลคนเจ็บป่วย นับว่าเป็นกุศลที่หาได้ยากยิ่ง)

ย่าก็ทำใจสบาย....นึกว่า สงสารเด็ก สร้างกุศลกับเด็ก ทำคนให้เป็นคนดี กุศลแรง

ปู่ต้องปิดเครื่องไปประชุมที่จังหวัดตากแล้ว 

ย่าดูแลตัวเองด้วยนะ สำหรับอีเมล์เดี๋ยวปู่จะส่งให้ พอย่าเห็นคงหาวิธีตอบได้ 

คิดถึงย่าเหมือนกันนะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท