อัฐมีบูชา (ประวัติความเป็นมา 2 ) : อุตรดิตถ์ไดอารี่


 

[๑๕๗] พระเจ้าแผ่นดินมคธพระนามว่าอชาตศัตรู เวเทหบุตรได้ทรงสดับ ข่าวว่า พระผู้มีพระภาคเสด็จปรินิพพานในเมืองกุสินาราจึงทรงส่งทูตไปหาพวก เจ้ามัลละเมืองกุสินาราว่า พระผู้มีพระภาคเป็นกษัตริย์ แม้เราก็เป็นกษัตริย์ เราควร จะได้ส่วนพระสรีระพระผู้มีพระภาคบ้าง จักได้กระทำพระสถูปและการฉลอง พระสรีระพระผู้มีพระภาค พวกกษัตริย์ลิจฉวีเมืองเวสาลีทราบข่าวว่า พระผู้มีพระภาค เสด็จปรินิพพานในเมืองกุสินารา จึงส่งทูตไปหาพวกเจ้ามัลละเมืองกุสินาราว่า พระผู้มีพระภาคเป็นกษัตริย์ แม้เราก็เป็นกษัตริย์ เราควรได้ส่วนพระสรีระพระผู้มีพระภาคบ้าง แม้พวกเราก็จักได้ทำพระสถูปและการฉลองพระสรีระพระผู้มีพระภาค พวกกษัตริย์ศากยะเมืองกบิลพัสดุ์ ... พระผู้มีพระภาคเป็นพระญาติอันประเสริฐ ของพวกเรา ... พวกกษัตริย์ถูลีเมือง  อัลกัปปะ ... พระผู้มีพระภาคเป็นกษัตริย์ แม้เราก็เป็นกษัตริย์ ... พวกกษัตริย์โกลิยะเมืองรามคาม ... พระผู้มีพระภาคเป็น กษัตริย์ แม้เราก็เป็นกษัตริย์ ... พราหมณ์ผู้ครองเมืองเวฏฐทีปกะ ... พระผู้มี
พระภาคเป็นกษัตริย์ แม้เราก็เป็นพราหมณ์ ... พวกกษัตริย์มัลละเมืองปาวา ได้ ทรงสดับข่าวว่า  พระผู้มีพระภาคเสด็จปรินิพพานในเมืองกุสินารา จึงทรงส่งทูต ไปหาพวกเจ้ามัลละเมืองกุสินาราว่า พระผู้มีพระภาคเป็นกษัตริย์ แม้เราก็เป็นกษัตริย์ เราควรจะได้ส่วนพระสรีระพระผู้มีพระภาคบ้าง จักได้กระทำพระสถูปและการฉลอง พระสรีระพระผู้มีพระภาค เมื่อกษัตริย์และพราหมณ์ว่ามาดังนี้แล้ว พวกเจ้ามัลละ เมืองกุสินาราได้ตรัสตอบหมู่คณะเหล่านั้นว่า พระผู้มีพระภาคเสด็จปรินิพพานใน คามเขตของพวกเรา พวกเราจักไม่ให้ส่วนพระสรีระพระผู้มีพระภาค ฯ

                 [๑๕๘] เมื่อพวกเจ้ามัลละเมืองกุสินาราตรัสอย่างนี้แล้ว โทณพราหมณ์ ได้พูดกะหมู่คณะเหล่านั้นว่า ดูกรท่านผู้เจริญทั้งหลาย ขอพวกท่านจงฟังคำอันเอกของข้าพเจ้า พระพุทธเจ้าของเราทั้งหลาย เป็นผู้กล่าวสรรเสริญขันติ การ จะสัมประหารกันเพราะส่วนพระสรีระของพระพุทธเจ้าผู้เป็น อุดมบุคคลเช่นนี้ ไม่ดีเลย ขอเราทั้งหลายทั้งปวง จงยินยอม พร้อมใจยินดีแบ่งพระสรีระออกเป็น ๘ ส่วนเถิด ขอพระสถูป จงแพร่หลายไปในทิศทั้งหลาย ชนผู้เลื่อมใสต่อพระพุทธเจ้า
ผู้มีพระจักษุมีอยู่มาก ฯ [๑๕๙] หมู่คณะเหล่านั้นตอบว่า ข้าแต่พราหมณ์ ถ้าเช่นนั้นขอท่าน นั่นแหละจงแบ่งพระสรีระพระผู้มีพระภาคออกเป็น ๘ ส่วนเท่าๆ กัน ให้เรียบร้อยเถิด โทณพราหมณ์รับคำของหมู่คณะเหล่านั้นแล้ว แบ่งพระสรีระพระผู้มีพระภาค ออกเป็น ๘ ส่วน    เท่ากันเรียบร้อย จึงกล่าวกะหมู่คณะเหล่านั้นว่า ดูกรท่านผู้เจริญ ทั้งหลาย ขอพวกท่านจงให้ตุมพะนี้แก่ข้าพเจ้าเถิด ข้าพเจ้าจักกระทำพระสถูป และกระทำการฉลองตุมพะบ้างทูตเหล่านั้นได้ให้ตุมพะแก่โทณพราหมณ์ฯ
[๑๖๐] พวกเจ้าโมริยะเมืองปิปผลิวัน ได้สดับข่าวว่า พระผู้มีพระภาค เสด็จปรินิพพาน ในเมืองกุสินารา จึงส่งทูตไปหาพวกเจ้ามัลละเมืองกุสินาราว่า พระผู้มีพระภาคเป็นกษัตริย์ แม้เราก็เป็นกษัตริย์ เราควรจะได้ส่วนพระสรีระ พระผู้มีพระภาคบ้าง จักได้กระทำพระสถูปและการฉลองพระสรีระพระผู้มีพระภาค พวกเจ้ามัลละเมืองกุสินาราตอบว่า ส่วนพระสรีระพระผู้มีพระภาคไม่มี เราได้ แบ่งกันเสียแล้ว พวกท่านจงนำพระอังคารไปแต่ที่นี่เถิด พวกทูตนั้น นำพระ อังคารไปจากที่นั้นแล้ว ฯ

[๑๖๑] ครั้งนั้น พระเจ้าแผ่นดินมคธ พระนามว่า อชาตศัตรู เวเทหรีบุตร ได้กระทำพระสถูปและการฉลองพระสรีระพระผู้มีพระภาค ในพระนครราชคฤห์ พวกกษัตริย์ลิจฉวีเมืองเวสาลี ก็ได้กระทำพระสถูปและการฉลองพระสรีระพระผู้มี พระภาคในเมืองเวสาลี พวกกษัตริย์ศากยะเมือง  กบิลพัสดุ์ ก็ได้กระทำพระสถูป และการฉลองพระสรีระพระผู้มีพระภาคในเมืองกบิลพัสดุ์ พวกกษัตริย์ถูลีเมือง อัลกัปปะ ก็ได้กระทำพระสถูปและการฉลองพระสรีระพระผู้มีพระภาคในเมืองอัลกัปปะ พวกกษัตริย์โกลิยะเมืองรามคาม ก็ได้กระทำพระสถูปและการฉลอง พระสรีระพระผู้มีพระภาคในเมืองรามคาม พราหมณ์ผู้ครองเมืองเวฏฐทีปกะ ก็ได้ กระทำพระสถูป และการฉลองพระสรีระพระผู้มีพระภาคในเมืองเวฏฐทีปกะ พวกเจ้ามัลละเมืองปาวา ก็ได้กระทำพระสถูปและการฉลองพระสรีระพระผู้มีพระภาค ในเมืองปาวา พวกเจ้ามัลละเมืองกุสินารา ก็ได้กระทำพระสถูปและการฉลอง พระสรีระพระผู้มีพระภาคในเมืองกุสินารา โทณพราหมณ์ ก็ได้กระทำสถูปและ การฉลองตุมพะ พวกกษัตริย์โมริยะเมืองปิปผลิวัน ก็ได้กระทำพระสถูปและการ ฉลองพระอังคารในเมืองปิปผลิวัน ฯ พระสถูปบรรจุพระสรีระมีแปดแห่ง เป็นเก้าแห่งทั้งสถูปบรรจุตุมพะ เป็นสิบแห่งทั้งพระสถูปบรรจุพระอังคาร ด้วยประการฉะนี้ การแจกพระธาตุและ การก่อพระสถูปเช่นนี้ เป็นแบบอย่างมาแล้ว ฯ

 

                        [๑๖๒] พระสรีระของพระพุทธเจ้าผู้มีพระจักษุ แปดทะนาน เจ็ดทะนาน บูชากันอยู่ใน   ชมพูทวีป ส่วนพระสรีระอีกทะนาน หนึ่งของพระพุทธเจ้า ผู้เป็นบุรุษที่ประเสริฐอันสูงสุด พวก นาคราชบูชากันอยู่ในรามคาม พระเขี้ยวองค์หนึ่งเทวดา ชาวไตรทิพย์บูชาแล้ว ส่วนอีกองค์หนึ่ง บูชากันอยู่ในคันธาร บุรี อีกองค์หนึ่งบูชากันอยู่ในแคว้นของพระเจ้ากาลิงคะ อีก องค์หนึ่ง             พระยานาคบูชากันอยู่ ฯ ด้วยพระเดชแห่งพระสรีระพระพุทธเจ้า นั้นแหละ แผ่นดินนี้ชื่อว่า ทรงไว้ซึ่งแก้วประดับแล้วด้วยนักพรตผู้ ประเสริฐที่สุด พระสรีระของพระพุทธเจ้าผู้จักษุนี้ ชื่อว่า อันเขา  ผู้สักการะๆ สักการะดีแล้ว พระพุทธเจ้าพระองค์ใด อันจอมเทพจอมนาคและจอมนระบูชาแล้ว     อันจอมมนุษย์ผู้ ประเสริฐสุดบูชาแล้วเหมือนกัน ขอท่านทั้งหลายจงประนม มือถวาย บังคม       พระสรีระนั้นๆ ของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น พระพุทธเจ้าทั้งหลายหาได้ยากโดยร้อยแห่งกัป ฯ พระทนต์ ๔๐ องค์ บริบูรณ์ พระเกศา และ พระโลมาทั้งหมด พวกเทวดานำไปองค์ละองค์ๆ โดยนำ ต่อๆ กันไปในจักรวาล ดังนี้แล ฯ จบมหาปรินิพพานสูตร ที่ ๓

ที่มา  เซิ่น (นามสมมติ)  ลานธรรม มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ (Online)

http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=dokgaew&topic=5165  

 

                 จำเนียรกาลมาบัดนี้ พระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานผ่านล่วงไปแล้ว ๒๕๔๖ ปี  พระพุทธศาสนาได้สืบทอดต่อมาได้โดยไม่ขาดสาย ก็เพราะเรายังมีพระสงฆ์ผู้ทรงรักษา มรดกธรรมอันล้ำค่านี้ไว้ได้มาตลอด จึงขอบูชาท่านเหล่านั้นด้วยพระคาถานี้ โส โส สะ สะ อะ อะ อะ อะ นิ หมายถึง โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล สกทาคามีมรรค สกทาคามีผล อนาคามีมรรค อนาคามีผลอรหัตตมรรค อรหัตตผล นิพพานในกาลบัดนี้ ถึงแม้จะเหลือแต่เพียงพระบรมสารีริกธาตุที่เป็นสิ่งระลึกถึงพระพุทธองค์ ก็ใช่ว่าเราจะไม่มีวาสนาที่จะได้พบพระพุทธองค์เสียทีเดียวไม่ เพราะยังมีพุทธพจน์ บทหนึ่งที่ชี้หนทางให้เราสามารถที่จะได้พบพระพุทธองค์ได้ โย ธมฺมํ ปสฺสติ โส ม ํ ปสฺสติ ผู้ใดเห็นธรรม     ผู้นั้นเห็นเรา

โดย น้ำใส  (นามสมมติ) ( อ้างอิงมาจาก ซีดีพุทธประวัติ ของวัดไตรมิตรวิทยาราม ได้มาในงานวันวิสาขบูชา ) มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิลานถามตอบปัญหาธรรมะ (Online)http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=dokgaew&topic=3062 

 

เชิญประเทียบพระหีบทองผ่องพิลาส
เป็นภาชนะรองพระธาตุพระชินสีห์
พระบรมสารีริกธาตุพุทธบดี
ประดิษฐานคารวะที่อันสมควร

เจ็ดราตรีหลังพิธีถวายพระเพลิง
กำหนดการเถลิงพระเกียรติ์หวน
จึ่งพรั่งพร้อมพุทธบริษัทเหล่าทั้งมวล
ร่วมขบวนทักษิณาบูชาคุณ

เพื่อระลึกถึงพุทธคุณการุณยิ่ง
ทรงแสดงความเป็นจริงเพื่ออุดหนุน
ให้เวไนยได้เสริมสร้างเส้นทางบุญ
ละพิษภัยวายวุ่นวัฏฏะกรรม

อัฐมีบูชาในครานี้
ขออัญเชิญกุศลศรีที่เลิศล้ำ
กราบบูชาพระคุณแห่งจอมธรรม
ผู้น้อมนำสันติสุขปลุกชีพชน
....สุดปลาบปลื้มอภิรติ บุณฑริกผลิละลอยล่อง
....วสุมดีมนุสวรรค์พลันแซ่ซ้อง เฉลิมฉลองนมัสการ
....ก่อเกิดพระธรรมรัตน์เลิศ อภิประเสริฐ ณ ดวงมาน
....ธรรมคุณ ธ จะนำทาง สุขอริยพระนิพพาน....

ดย ...แป้ง.. ที่มา  แป้ง(นามสมมติ)มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ ถามตอบปัญหาธรรมะ (Online)    

สองพันหกร้อยยี่-..............สิบเจ็ดปีผ่านพ้น
โลกเกิดแก้วแววล้น................ค่าล้ำในไตร

ส่องสว่างไปทั้งสิ้น...............สุดแผ่นดินแผ่นฟ้า
ทรงเสด็จมายังหล้า..............โปรดผู้ทุกข์ทน

ประชาชนชาวโลก................ระงับโศกเนื่องด้วย
แสงแห่งพระธรรมท้วย........พุทธเจ้าทรงแสดง

ดั่งดินแล้งได้ฝน..................ที่ร่วงหล่นจากฟ้า
แผ่พระคุณยังข้าฯ................เหล่าผู้นรชาติ

เกินเอื้อมอาจประมาณ..........พระคุณท่านช่วยชี้
ทางแห่งหลุดพ้นนี้..............สุดสิ้นสังสาร

อธิษฐานกรานกราบ.............ศิโรราบจิตน้อม
ทุกเหล่าชาวพุทธพร้อม.......ทั่วนั้นวันวิสาข์ ๛

ณธีร์ 


 

คณะผู้จัดทำ

อาจารย์ปภังกร                วงศ์ชิดวรรณ           

อาจารย์รวมพร                     อารีรักษ์                

อาจารย์วริศรา                       ดวงตาน้อย           

คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์

หมายเลขบันทึก: 37842เขียนเมื่อ 8 กรกฎาคม 2006 22:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 16:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท