เมื่อปี 2545 ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ในแผนกทะเบียน ตอนนั้นทำหน้าที่เป็นหัวหน้าห้องฉุกเฉินอยู่ ด้วยนิสัยที่ไม่ชอบวุ่นวายหรือเข้าไปรู้เห็นเรื่องของใครๆ(ไม่รู้ว่าเป็นข้อดีหรือข้อเสีย แต่คิดๆดูแล้ว สงสัยจะเป็นข้อเสีย เหมือนปิดหูปิดตาตัวเองยังไงไม่รู้) ทำให้ไม่ทราบเลยว่าการทำหน้าที่ห้องทะเบียนเค้าทำอะไรกันบ้าง
ก่อนหน้าที่จะเข้าไปอยู่ในแผนกทะเบียนนั้น ด้วยได้ยินคำพูดที่เคยมีคนพูดถึงว่าในห้องทะเบียนนั้น เจ้าหน้าที่บางคนไม่ลุกขึ้นมาค้นบัตรเลย(บัตรผู้ป่วยนอก) หรือว่าคำพูดว่าพอคนหนึ่งไม่อยู่คนอื่นก็ตอบคำถามหรือแก้ปัญหาไม่ได้ ด้วยบุคคลภายนอก(นอกห้องทำงาน แต่โรงพยาบาลเดียวกัน) ไม่เคยรู้ระบบงานหรือชิ้นงานต่างๆที่ห้องนั้นปฏิบัติอยู่ ทำให้ตั้งใจเอาไว้ว่าจะทำให้ทุกคนดูขยัน ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในช่วงเวลาที่มีผู้รับบริการแน่นขนัด เช่นในช่วงเช้าจนถึงเที่ยงจะต้องลดเวลาในการให้บริการให้มากขึ้น เจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องเข้าแทนที่งานกันได้(นี่ก็พูดถึงงานที่ต้องให้บริการเท่านั้นนะ)
เนื่องจากโรงพยาบาลมีโครงสร้างทางกายภาพที่ได้รับการออกแบบมาจากคนที่ไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาล จึงไม่ทราบความต้องการ หรือกิจกรรมที่โรงพยาบาลทำ โรงพยาบาลคับแคบ ส่วนงานต่างๆมากมาย อาคารเก่าที่เคยอยู่กว้างกว่า พร้อมด้วยวัสดุครุภัณฑ์ พอย้ายมาอาคารใหม่ทุกอย่างก็เลยถูกบีบอัดเข้าไปอยู่ในที่เดียวกัน ในห้องทำงานนั้นมีส่วนงานอยู่ 2 ส่วน คือแผนกทะเบียน และ ส่วนเงินรายรับสถานพยาบาล ซึ่งมีเจ้าหน้าที่แยกกันแต่อยู่ในห้องเดียวกัน มีหัวหน้าควบคุมงานทั้งสองหน่วยงานเป็นนายทหารสัญญบัตร 2 คน รวมคนทั้งหมด 8- 9 คน ในห้องขนาดประมาณ 6*9 เมตร รวมตู้เวรระเบียน โต๊ะทำงาน 5 ตัว ตู้ยานอกเวลา 1 ตู้ โต๊ะคอมพิวเตอร์ 3 ตัว เคาน์เตอร์พร้อมลิ้นชัก ที่นั่งทำงานได้ 4 ช่อง (แบ่งหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 3 ช่อง) โซฟาสำหรับกางเป็นเตียงนอนให้เจ้าหน้าที่เข้าเวรได้พักผ่อน 1 ตัว
ถูกทาบทามให้มาเป็นหัวหน้าแผนก และต้องกำกับดูแลทั้งห้อง (เฮ้อ ก็อยากจะ take over เสียทั้งหมดนี่นะ คนเราก็หลงอำนาจเป็นธรรมดา ติดว่ามันก็ดี ดูใหญ่ขึ้น) ก็เลยตกลงใจจะมาทำงานในห้องนี้ เหตุผลอีกอย่างนึงก็คือ การทำงานกับคนไข้เนี่ยมีอันตรายมากๆ ถ้าใครไม่รู้ก็คิดว่าไม่เห็นมีอะไร แต่การที่ต้องใช้กำลังกาย กำลังใจ และความรู้ความสามารถในการตัดสินใจในงานต่างๆ (ก็มันเป็นงานในห้องฉุกเฉินนี่นา) เริ่มรู้สึกล้า อยากจะบอกอะไรให้นะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนผู้บังคับบัญชาก็มักจะลดจำนวนผู้ใต้บังคับบัญชาซะเรื่อย (สงสัยว่าดวงกำลังตก ก็แหม! ตอนเรียนและตอนบรรจุใหม่สบายเกินไปน่ะซิ ) ตอนทำงานที่แผนกผู้ป่วยใน(ไม่ได้เป็นหัวหน้าหรอกนะ แค่รองๆน่ะ) แต่ต้องรับผิดชอบเกือบทุกอย่าง ก็ไม่รู้ว่าทำไมห้วหน้าพยาบาลคนเก่าถึงให้ทำงานยังกับว่าเป็นหัวหน้าแผนกซะเองยังงั้น ทั้งเรื่องวางรูปแบบการจัดแผนก(ได้ตึกใหม่มาน่ะ)ระบบต่างๆที่จำเป็น ต้องคอยเดินตามท่านผู้อำนวยการ(คนเก่า) เพื่อรับคำสั่ง และกำหนดว่าอะไรจำเป็นสำหรับที่ทำงาน จนเหมือนต้องรับผิดชอบซะเองเลยละ ตอนนั้นโดนลดเจ้าหน้าที่พยาบาลลงไปแทบหมด คนไข้ล้นตึก กว่าจะรับคำสั่งการรักษาและให้การดูแลเสร็จก็เลยเที่ยงบ่อยๆ
พอปี' 40 หลังกลับจากเรียนชั้นนายพัน ก็ให้มาเป็นหัวหน้าห้องฉุกเฉิน พอเข้ามาเป็นหัวหน้า ผู้บังคับบัญชาก็ย้ายพยาบาลที่เคยอยู่ในห้องฉุกเฉินเข้าไปอยู่ในแผนกผู้ป่วยใน(เฮ้! ทำไม ไม่ย้ายเข้าไปซะตั้งแต่เราอยู่ข้างในนะ) แล้วก็นะ ตอนนี้เป็นหัวหน้าห้องทะเบียนผู้บังคับบัญชาก็ลดนายทหารในห้องแล้วเหลือเฉพาะหัวหน้าแผนกเป็นนายทหารอยู่คนเดียว น่าปลื้มใจซะไม่มี และก็ดูเหมือนจะไม่เคยคิดพิจารณาหาคนมาช่วยงาน ทำเหมือนคนไม่พูดไม่บ่นเนี่ยเหนื่อยไม่เป็นเลยนะ อีกอย่างนะเจ้าหน้าที่แสบๆ หรือคนที่ไม่ถูกกันก็จับมาอยู่กับเรา บอกแค่เราคุมได้ หรือไม่ก็กลัวแผนกอื่นได้ไปแล้วจะปวดหัว(ยังกับเราไม่มีหัวจะปวดซะอย่างนั้น)
คนที่เค้าทาบทามมาคงมองเห็นการไกล ว่ามันจะต้องมีอะไรที่วุ่นวายมากขึ้นแน่ๆเชียว โรงพยาบาลเพิ่งเข้าระบบหลักประกันสุขภาพใหม่ๆ
ไม่มีความเห็น