หลายครั้ง เดินทางเข้าออกหมู่บ้าน เมื่อมีดวงวิญญาณของคนต้องไปอยู่อีกภพหนึ่ง
....คนในหมู่บ้านทยอยเดินหิ้วถุงข้าวสารไปบ้านของร่างที่ไร้ชีวิต....
วิถี ข้าวสารและไม้ฟืน ยังคงพบเห็นได้โดยทั่วไปในชุมชนชนบทของเมืองน่าน
วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ซื้อข้าวสารไป "ฮอม" (ร่วมสบทบ) บ้านศพ
แต่เนื่องจากไปในนามของสำนักงาน ปริมาณข้าวสารจึงใหญ่กว่าปกติ ประมาณ 50 กิโลกรัม โดยปกติแต่ละบ้านจะเอาข้าวสารไปฮอมบ้านละ 1 กิโลกรัม
พอไปถึงเดินไปช่วยงานที่มุมทำอาหารเพื่อรับรองแขกและคนช่วยงาน
วันนี้ร่วมกลุ่มกับพี่ๆ แม่บ้าน เอาข้าวเหนียวที่หุงแล้วใส่ถุงพลาสติกขนาดพอเหมาะ เพื่อเสริมพร้อมกับข้าวให้แขกในงาน
ขณะที่ใส่ข้าวสังเกตเห็นข้าวมีสีขาวบ้าง สีขุ่นบ้าง เมล็ดใหญ่บ้างเล็กบ้าง คิดในใจว่า "โอ้สงสัยเป็นข้าวเก่าหรือไม่ก็ไม่ได้คัดพันธุ์ข้าวไว้" ฉันยังเก็บความคิดนี้ไว้ในใจ
หลังจากช่วยงานกลุ่มแม่บ้านเสร็จก็มานั่งกับเด็ก ๆ บ้านโจ้โก้ (สหายเด็กที่คบกันมานาน)
ระหว่างแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเด็ก ภาพของลุงคนหนึ่งเดินข้ามถนนมา
มือหนึ่งหิวถุงข้าวสีเมล็ดออกขาวขุ่นผสมสีก่ำ ประมาณว่าเหมือนข้าวตำเองสมัยก่อน อีกมือหนึ่งพยุงไม้ท่อนยาวประมาณ 3 เมตรเห็นจะได้
ลุงคนนั้นวางข้าวสารไว้ที่โต๊ะ เด็ก ๆ ช่วยกันใส่ชื่อและจำนวนข้าวสาร ลุงไม่ได้สนใจเด็ก ๆ แบกไม้ตรงไปยังมุมครัว
น้องแพ๊ท เด็กในสังกัด พูดขึ้นมาว่า ไม้เอาไว้ไปเป็นฟืนทำอาหาร.....(
โอ้ จริงด้วย หายากนะที่จะเห็นคนเอาฟืนมาให้ในงานศพ เพราะเดียวนี้ใช้แก๊สเป็นส่วนมาก ยิ่งในเมืองคงไม่รู้ว่าจะเอาฟืนมาจากไหน)
ฉันเก็บภาพคุณลุงที่แบกไม้ไว้เป็นภาพประทับใจในความทรงจำ ถ้าไม่ลืมอยากจะวาดออกมาเป็นภาพสักครั้ง
ฉันหันกลับมาดูข้าวในถุง....อ้อ...เข้าใจแล้วว่าทำไมข้าวที่ฉันช่วยพี่ๆใส่ถุงถึงดูไม่ค่อยขาวและเมล็ดหลากหลายแบบ เป็นเพราะเป็นข้าวที่ได้มาจากการ "ฮอม"ของคนแต่ละบ้านนี่เอง
มองในทางกลับกันแสดงว่าบ้านนี้คนก็ยังบริโภคข้าวหลากหลายพันธุ์อยู่
ความคิดแปลกๆๆผุดขึ้นในใจ พรุ่งนี้ฉันจะไปฮอมอีก แต่จะเอาข้าวก่ำไปฮอมข้าวที่หุงเสร็จจะได้มีสีสรรค์น่ากิน....
...หวังไว้ว่า วัฒนธรรม "ฮอมข้าวสารและไม้ฟืน" คงจะยังคงอยู่และไม่ถูกกลืนด้วยวัฒนธรรม "ใส่ซอง"