คุณศุมล ศรีสุขวัฒนา หัวหน้ากลุ่มพัฒนาระบบบริหาร และคุณสุพจน์ อาลีอุสมาน จาก สำนักกฎหมายสาธารณสุข ได้มาเยี่ยมชื่นชม เพื่อเสริมพลังการจัดการความรู้ สำนักทันตสาธารณสุข เมื่อวันที่ 28 มิย.53 ค่ะ ... มาดูกันว่า สำนักทันตฯ ทำเรื่องการจัดการความรู้กันอย่างไร
โดยน้องอู๋ นำเสนอ
KM ของสำนักทันตฯ ทำใน 2 กิจกรรมใหญ่ๆ ก็คือ
ตาม IC Mapping จะมีกิจกรรมที่นำ KM ไปใช้ ได้แก่
-
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เครือข่ายผู้สูงอายุ
-
เครือข่ายโรงเรียนส่งเสริมทันสุขภาพ
-
การเฝ้าระวังปัญหาฟันผุเด็ก 0-3 ปี
-
โครงการทันตแพทย์ผู้นำ
-
การจัดการปัจจัยเสี่ยงด้านฟลูออไรด์
-
การพัฒนาระบบทันตฯ
-
ชุมชน เสวนางานสนับสนุนวิชาการกรมอนามัย
-
เสาตกน้ำมัน
-
ชุมชน เสวนาซื้อง่ายใช้คล่อง
-
ชุมชน ระบบบันทึกงานออนไลน์
-
ชุมชน เรียนไปรู้ไปกับงานทันตฯ
-
Journal Club ผลิตภัณฑ์ทันตสุขภาพ
-
Journal Club รู้ทันการแปรงฟัน และแปรงลิ้น
แผนการจัดการความรู้ ตามประเด็นยุทธศาสตร์ เป็นการดำเนินการตาม 7 ขั้นตอน ได้แก่
แผนการพัฒนาอนามัยแม่และเด็ก
-
เป้าประสงค์ เพื่อให้เกิด การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อพัฒนาเครื่องมือเฝ้าระวังปัญหาฟันผุเด็ก 0-3 ปี ในชุมชน
-
โดยเริ่มจากการบ่งชี้ความรู้ ด้วยการค้นหา ประสานนักวิชาการ หรือผู้ปฏิบัติงานระดับพื้นที่ที่มีประสบการณ์การทำงาน ฟันผุของเด็กเล็กในชุมชน และจัดการแสวงหาความรู้ด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อหาข้อสรุปในเครื่องมือ และแนวทางในการเฝ้าระวังปัญหาฟันผุในเด็ก 0-3 ปี โดยชุมชน
-
นำความรู้มาจัดการให้เป็นระบบ โดยจัดทำข้อสรุปเรื่องเครื่องมือ และแนวทางในการเฝ้าระวังปัญหาฟันผุในเด็ก 0-3 ปี โดยชุมชน
-
สุดท้ายคือ การจัดการให้เข้าถึงความรู้ ในรูปแบบของเอกสาร และเผยแพร่ผ่านเวปไซต์
ในงานลดปัจจัยเสี่ยงวัยเรียนและวัยรุ่น
-
เป้าหมายสูงสุด คือ ให้เกิดกลไกการพัฒนาเครือข่ายโรงเรียนสร้างเสริมทันตสุขภาพในพื้นที่
-
เริ่มจากการบ่งชี้ความรู้ ในลักษณะของการรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมพัฒนา ศูนย์อนามัยละ 2 จังหวัด
-
สร้างและแสวงหาความรู้ โดยการพัฒนาศักยภาพทีมทันตบุคลากร ให้เข้าใจกระบวนการทำงานแบบเครือข่าย
-
ติดตามการทำงานจากเครือข่าย และสนับสนุนการดำเนินงาน
-
เกิดการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนความรู้ โดยจัดเวทีถอดบทเรียน เพื่อให้ทราบถึงกลไกการพัฒนาเครือข่ายสร้างเสริมทันตสุขภาพ
-
สุดท้าย เข้าสู่การเรียนรู้ คือ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การดำเนินงานพัฒนาศักยภาพของเครือข่ายผ่าน weblog
งานส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ
-
เป้าหมาย คือ ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเครือข่ายผู้สูงอายุ
-
เริ่มจากการแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ ด้วยการจัดประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เครือข่ายชมรมผู้สูงอายุ เขต 11, 12, 1 และ 2
-
มีการบ่งชี้ความรู้ ด้วยการจัดทำทำเนียบภาคีเครือข่ายส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุภาคใต้ และ เขต 1 และ 2
-
มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผ่าน weblog สุขภาพผู้สูงอายุ และสาระน่ารู้ (GotoKnow)
-
และ สรุปกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพช่องปากในชมรมผู้สูงอายุ
งานตามพันธกิจของสำนัก
-
มุ่งเน้นให้บุคลากรในสำนักฯ ได้รู้จัก KM และนำ KM มาใช้ในระบบงานของทุกคน
-
ที่ผ่าน มีการอบรมเขียนบันทึก ประสบการณ์ความรู้ด้วยเรื่องเล่า Online โดยเขียนผ่านเวป GotoKnow.org
-
ปี 2553 มีการพัฒนาระบบบันทึก Online รูปแบบ หน้าตา เป็นการผสมผสาน Hi5 และ GotoKnow เข้าด้วยกัน ใช้ภายในสำนักฯ
-
หลักการในระบบบันทึก หมอวิ๊ว เล่าเพิ่มเติมว่า … บันทึก online เป็นเรื่องของเพื่อนสนิท ที่จะมาพูดคุยกัน เรามีพื้นฐานจาก ทุกคนในสำนักฯ เป็นเพื่อนกันก่อน สามารถบันทึกงาน ใส่ภาพ และให้อิสระในการบันทึก ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยน
คุณศุมล ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมในกิจกรรมไว้อย่างน่าสนใจค่ะว่า
-
สิ่งที่ผมสนใจจากเรื่องเล่า ก็คือ เป็นการเริ่มต้นจากเป้าหมายการทำงาน เอาไปใช้ทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้บรรลุผล ในเรื่อง สุขภาพ และการที่เราให้ความสำคัญของการทำงาน ก็ได้เอามาเป็นผลในการพัฒนาเครื่องมือ และเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยกัน สุดท้ายก็จะได้เครื่องมือชิ้นนั้นไปทำงานต่อ
-
ผมคิดว่า ถ้าผมอยากได้เครื่องมือชิ้นหนึ่งมาใช้ในพื้นที่ ก็ต้องทำโดยเอาผู้มีประสบการณ์มาแลกเปลี่ยน และจะทำอะไรกันได้บ้าง ก็มีการเก็บ คิดว่า ไม่ต่างกับงานวิจัย
-
การจัดการความรู้จึงเป็นเหมือนเครื่องมือชิ้นหนึ่ง ที่สารพัดประโยชน์ โดยที่มีจุดเริ่มต้นจากการสร้างความเชื่อมโยง หรือเอาความรู้มาแลกเปลี่ยนกัน โดยมีจุดประสงค์ร่วมกัน ที่การเกิดประโยชน์กับชุมชน
-
ผมคิดว่า ... กระบวนการ KM เป็นกระบวนการของการพัฒนาตน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีเป้าหมาย และไปบรรลุเป้าหมายการทำงาน และการเรียนรู้ก็จะมีหลายวิธีการ อย่างไรก็ได้
-
concept ก็คือ ความรู้จากการจัดการความรู้นี้ เป็นกระบวนการที่เกิดจากการแลกเปลี่ยน เป็นประสบการณ์จากคนที่มาเจอกัน และเกิดความรู้ใหม่ขึ้นมา
-
ผมเห็นด้วย กับเรื่องของการแลกเปลี่ยน ... เป็นเรื่องการประดิษฐ์คิดค้น การประยุกต์ใช้เครื่องมือในการทำงานให้มีความหลากหลาย และการมีนโยบายในการแลกเปลี่ยน จะทำให้เกิดการนำไปใช้กันอย่างกว้างขวางมากขึ้น
-
ปัญหาของระบบนี้ อาจจะต้องมีเป้าประสงค์เพื่อการพัฒนาศักยภาพของหน่วยงานที่เนื้องาน แต่ก็อย่าไปกังวลมาก ... ทำไปตามธรรมชาติ ว่า เมื่อมีการทำก็สรุป เมื่อมีการเผยแพร่ เมื่อมีการเผยแพร่ก็มีการวิพากย์ กันต่อ ทำไปเรื่อยๆ เป็นฐานของการต่อยอดองค์ความรู้
-
เรื่อง การจัดการความรู้ในองค์กร จะมีคำว่า องค์กรแห่งการเรียนรู้ (LO) เป็นลักษณะของ การใช้ความรู้ของการจัดการความรู้อย่างดีเยี่ยม มีการสื่อสารข้อมูลทั้งหลายทั้งปวง ไปสู่ทุกอณูขององค์กรได้อย่างรวดเร็ว และเท่าเทียม จะทำให้องค์กรมีการเคลื่อนแบบมนุษย์ที่มีชีวิต คิดว่า นี่เป็นการจัดการความรู้ที่ทำให้องค์กรเข้มแข็ง มีคุณภาพสูง มีการตอบคำถามได้อย่างรวดเร็ว เป็นแม่แบบได้
-
แต่การนำ KM ไปใช้กับองค์กรภายนอด ก็จะเป็นวิธีการหนึ่งที่จะไปเสริม ทำให้โครงการบรรลุผลได้เร็ว หรือมีความกว้างขวางของปริมาณการรับรู้ได้มากขึ้น เป็นการใช้ความรู้ไปเพื่อการสนับสนุนการดำเนินงาน
ผมคิดว่า ... "เราจะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ... คุณก็จะต้องทำให้องค์กรมีองคาพยบที่มีการเชื่อมโยงกันได้เหมือนกับร่างกายมนุษย์ มีมันสมองที่เป็นคลังความรู้ขององค์กร องค์ความรู้นี้จะต้องมีพัฒนาการตลอดเวลา มีการสื่อสารโดยผ่านระบบ เหมือนกับเส้นประสาทของมนุษย์ที่ส่งผลไปยังฝ่ายปฏิบัติการ ฝ่ายเคลื่อนไหว ฝ่ายที่จะต้องพัฒนา สูบฉีดเลือด เหล่านี้เป็นข้อมูลที่จะส่งและทำให้องค์กรนี้ เคลื่อนตัวได้ทั้งระบบ" ... นี่คือ ตัวการจัดการความรู้ที่ไปสะท้อนให้องค์กรมีศักยภาพ
การจัดการความรู้ (KM) จะต้องมีการจัดการความรู้ใน 3 ส่วน ก็คือ ตัวองค์ความรู้ ต้องมีการจัดการอย่างเป็นระบบ สอง การถ่ายความรู้ไปสู่ทุกคนใน กอง/สำนัก สาม การ capture จากความรู้แต่ละคน ที่จะดึงมาเป็น tacit knowledge สามส่วนนี้ประกอบกันเป็นการจัดการความรู้ และการแลกเปลี่ยนจะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ ที่จะนำความรู้ทั้งหมด ปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้
ได้ความคิดดีดี อะไรกันบ้างไหมคะ