มาต่อกันตามที่ บล็อกกล่าวเล่าสิบ ไว้ในการประชุมเพื่อปรับปรุงแผนหลัก 3 ปี สสส. ตอนที่ 1
ตอนบ่าย มารวมกลุ่มกันใหม่ โดยช่วยกันให้ข้อคิดเห็นในประเด็นที่เป็นไปได้ แต่ไม่สรุป ขอให้ สสส. นำประเด็นไปพิจารณาและดำเนินการต่อ
มีผู้เสนอแนวคิดของแผน ออกมาเป็นรูปร่างของกระถางปักธูป คือ แผน 13 ทำหน้าที่สร้างเสริม สนับสนุน ต่อยอดงานของแผน 1 - 12 และขยายวงไปนอกแผน และ ภาคีเครือข่าย
คุณหมอสมศักดิ์ เกิดไอเดียบรรเจิดอีกว่า สสส. ควรมี
1. Internal management ของ สสส.
2. Capacity building
3. Innovation
4. Strategic supportive element
5. Strategic monitoring unit
คือ ควรมีกลไกที่จะดูทิศทางการดำเนินงานของ สสส. ว่าจะไปทางไหน ซึ่งควรจะมีอิสระในด้านความคิด ไม่น่าจะอยู่ในสำนักผู้จัดการ พูดง่ายๆ ก็เป็นหน่วย Think Tank หรือ strategic unit รับทำให้เกิดงานนวัตกรรม
แล้วเราก็แยกเป็นกลุ่มอีกครั้งคือ กลุ่ม 1 กลุ่มหัวกะทิ Think Tank / Creative และอีก 2 กลุ่มไปคิดดูว่า ใน 5 แผนหลักนั้น ควรจะปรับอะไรหรือไม่ โดยถกๆ กัน แต่ไม่สรุป ว่า
- บางหน่วยงานทำระบบข้อมูลข่าวสารได้ดี แต่ยังไม่ได้ไปทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ เป็นระบบนิ่งๆ คงไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร ถ้าแผน 13 ไปช่วยเสริม/ต่อยอด/เสนอแนะว่า ถ้าเอาข้อมูลข่าวที่เป็นระบบอยู่แล้วนั้น ไปเชื่อมโยงกับผลลัพธ์ในเรื่องต่างๆ ใช้ evidence-based จะเกิดผลกระทบให้เห็นชัดเจนขึ้น และเป็นการพัฒนาศักยภาพการทำงาน
ตรงนี้ ทำให้คิดถึงการทำงานของ สคส. ที่ปีนี้ สคส. เน้นการเชื่อมโยงเครือข่ายเพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และต่อยอดกันไปแบบยอด..ต่อยอด..ต่อยอด.... สคส. ไปจับภาพหาสิ่งละอันพันละน้อยที่เป็นสิ่งดีมีอยู่แล้ว จูงไปจับมือทำความรู้จักกับสิ่งอื่นรอบข้าง แล้วให้เค้าเดินไปด้วยกัน ในที่สุดเค้าก็เดินไปกันเองได้ แล้ว สคส. ก็ไปหาคู่พันธมิตรใหม่ ทำซ้ำๆ แบบนี้ จนกลายเป็นห่วงโซ่เล็กๆ ที่ร้อยเรียงต่อกันไปเรื่อยๆ ไม่รู้จักจบสิ้น
- สสส. ควรทำ mapping เพื่อดูว่า ใครทำอะไร ตรงไหน เชื่อมโยงอย่างไร ในเรื่องแผนงาน พื้นที่ กลุ่มเป้าหมาย ผลลัพธ์ เป็นต้น
ตรงนี้ สคส. ก็เริ่มทำบ้างแล้ว แต่อาจจะยังได้ภาพที่ไม่ชัดเจนนัก
- สสส. ควรพัฒนาและสนับสนุนให้มีระบบ/กลไกด้าน ข้อมูลข่าวสาร / การสร้างและจัดการความรู้ / งานวิจัย
- สสส. ควรช่วยพัฒนาศักยภาพภาคี โดยเสริมสร้างให้คนในระบบขับเคลื่อนตนเอง / หนุนงานนโยบายสาธารณะ / งานต่างประเทศ
- สสส. สามารถปรับงานส่วนสำนักงานและส่วนวิชาการ ยกระดับให้เป็น สำนักนโยบายและแผน เพื่อเป็นกลไกในการมองภาพรวม และเสริมสร้างความเข้มแข็งของงาน รวมทั้งมีการติดตามประเมินผลอย่างไกล้ชิด
สังเกตว่า ระหว่างที่คุยกันในกลุ่มย่อย มีการกล่าวถึงเรื่องการจัดการความรู้อยู่บ่อยๆ ว่า เป็นเครื่องมือที่จะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพ และแทรกซึมเข้าไปอยู่ในทุกกระบวนการได้ ยังไงๆ ก็ยังคงต้องเก็บไว้เป็นหนึ่งในแผนหลัก ==อย่างน้อย สคส. ก็ได้กำลังเสียงสนับสนุนการดำเนินงานของ สคส. จากผู้รับทุนกลุ่มนี้แล้ว== การจัดการความรู้ ติดโผ และ ยัง in-trend
ตอนต่อไปก็คือ ส่วนที่เป็นน้ำๆ ล่ะค่ะ
ไม่มีความเห็น