พ่อในความทรงจำของย่า...


...ชีวิตของพ่อที่ผมเพิ่งเคยได้ยิน...

 

 

 

 

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาผมและภรรยาออกเดินทางจากชลบุรีแต่เช้าเพื่อกลับบ้านที่ราชบุรี วันนี้เราจะนำอัฐิและรูปของพ่อไปทำบุญครบร้อยวันที่บ้านย่าที่จังหวัดนครปฐม แม่ไปปรึกษากับย่า ย่าบอกว่าให้มาทำบุญร้อยวันที่บ้านย่าดีกว่าเพราะมีญาติพี่น้องเยอะ มีคนช่วยกันแม่จะได้ไม่เหนื่อยมาก และ ญาติพี่น้องทางนี้จะได้มาร่วมทำบุญด้วย ผมมาถึงบ้านประมาณเก้าโมงเช้า พี่สาว พี่เขย และ หลานชายมาถึงก่อนหน้าสักพัก แม่ตระเตรียมของ ดอกไม้ ไว้เรียบร้อยแล้ว ผมหาข้าวเช้ากินนิดหน่อย รอสักพัก พี่ชาย พี่สะใภ้ และ เจ้าหลานชายอีกคนก็เดินทางมาถึง แม่ กับ พี่สาวขึ้นไปหยิบรูปพ่อ และ นำอัฐิลงมาจากบนบ้าน เราตกลงกันว่า ผมจะขับเป็นคันแรกโดยพี่สาวจะถือรูปพ่อ และ แม่ถือเถ้าอัฐิ นั่งไปรถคันเดียวกัน ส่วนพี่เขย และ พี่ชายจะค่อยๆขับตามกันไป

 

 

 

ผมค่อยๆขับรถออกจากบ้าน พี่สาวคอยทำหน้าที่บอกทางว่าเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เพราะถือว่า วิญญาณอาจจะตามไปด้วย พอรถเคลื่อนออกจากบ้าน แม่ และ พี่สาวก็เริ่มร้องไห้ผมได้แต่ปลอบว่าอย่าร้องไห้เลย ทำใจให้เบิกบาน ทำใจให้เป็นกุศลเพราะเรากำลังจะไปทำบุญให้พ่อกัน ขับไปสักพักแม่และพี่สาวจึงหยุดร้องไห้ ขับมาประมาณห้าสิบนาที เราก็เดินทางมาถึงบ้านเกิดของพ่อที่นครปฐม เราเรียกบ้านหลังนี้จนติดปากว่า "บ้านย่า" แม่กับพี่สาวลงไปถามอาว่าจุดธูปบอกเจ้าที่ บรรพบุรุษหรือยังว่าจะนำอัฐิพ่อมาไว้ที่นี่ อาบอก จุดธูปบอกตั้งแต่เช้าแล้ว แม่กับพี่สาวจึงนำรูปพ่อ และ อัฐิไปไว้ชั้นบน เพื่อรอพิธีสวดมนตร์เย็น ตอนที่ไปถึง อา และ ญาติๆกำลงัช่วยกันทำกับข้าวและขนมกันเพราะเย็นนี้จะมีเลี้ยงแขกประมาณสิบกว่าโต๊ะ ส่วนพรุ่งนั้จะมีเลี้ยงพระเช้าอีกรอบ

 

 

 

ตกเย็นมีการนิมนต์พระมาสวดมนตร์เย็น และ มีการเลี้ยงแขกด้วยเสร็จแล้วญาติๆพี่น้องก็มานั่งคุยกัน ผมเลยไปร่วมวงกับเขาด้วย ในวงมีย่า (แม่ของพ่อ) ย่าอีกคน (น้องปู่) ป้า (พี่สาวพ่อ) อาอีกสองคน (น้องสาวพ่อ) ย่าบอกว่าสงสารพ่อเด็กๆลำบากมาก เพราะปู่กับย่าจนมาก ทำอาชีพเกษตรกรรม ไม่ค่อยมีเงินส่งลูกเรียน เด็กๆพ่อจึงต้องทำงานหาเงินส่งตัวเอง และ คอยเลี้ยงน้องๆ ดูแลน้องอีกหลายคน พ่อเป็นลูกคนที่สอง พ่อต้องคอยเก็บผักเก็บหญ้าใส่กระสอบไปขายที่ตลาด บางทีก็นำลูกตาลไปขาย บางทีไปไกลถึงสนามหลวงเพราะไปขายที่นั่นได้ราคาดี พ่อปั่นจักรยานจากบ้านไปโรงเรียนไปกลับทุกวัน ไปกลับวันหนึ่งก็ยี่สิบกว่ากิโล ชุดนักเรียนก็เก่าๆ ขาดแล้วขาดอีก ปะแล้วปะอีก กับข้าวไปกินโรงเรียนก็ไม่มี บางทีก็เอากะปิ เอาผักหญ้าไปคลุกข้าวกินก็จะโดนเพื่อนๆที่ฐานะดีกว่าหยอกล้อ ดูแคลนบ่อยๆ

 

 

พ่ออดทนเรียนจนจบวิทยาลัยครูแต่ก็ยังไม่ได้ทำงาน ต้องไปช่วยญาติข้างบ้านทำงานอยู่สองสามปีกว่าจะได้บรรจุช่วงนั้นย่าก็ไม่ค่อยมีเงิน พ่อเลยต้องไปอยู่กับญาติห่างๆช่วยเขาทำงานไป หางานไปด้วย ในที่สุดพ่อก็สอบเข้ารับราชการได้ พ่อต้องไปบรรจุเป็นเจ้าหน้าที่ที่ดินที่จังหวัดกาญจนบุรี มีวันหนึ่งพ่อเอาเสื้อผ้าตากไว้ แล้วก็ไปทำงานกลับมาชุดหายหมด พ่อเลยส่งข่าวมาหาย่าเพื่อจะขอเงินไปซื้อชุดทำงาน ย่าก็นั่งรถเอาเงินไปให้ ย่าไม่เคยไปเมืองกาญเลยนั่งรถเลยที่ทำงานพ่อ แต่ก็ไม่กล้านั่งรถย้อนกลับมาเพราะเตรียมเงินไปแค่สี่ร้อยบาท กลัวลูกจะไม่พอซื้อชุดข้าราชการใหม่ เงินที่ได้มาก็ต้องไปรบกวนย่าอีกคนให้นำทองไปจำนำแล้วหยิบยืมเขามาก่อนเพราะเงินสี่ร้อยบาทนั้นมันมากเหลือเกินสำหรับคนจน ทุกครั้งที่พ่อมาบ้านย่าพ่อจะต้องหาของไปฝากญาติท่านนั้นอยู่เสมอเพราะท่านมีบุญคุณที่ให้พ่อมาอาศัยอยู่ทำงานหลายปีก่อนได้รับบรรจุราชการ พ่อไม่เคยลืมบุญคุณ

 

 

หลังจากเริ่มทำงานพ่อก็ก้าวหน้าในอาชีพราชการเรื่อยมา พ่อไปเรียนต่อปรีญญาตรีนิติศาสตร์ที่รามคำแหงอีก เรียนด้วย ทำงานด้วย พ่อจบเมื่ออายุประมาณสี่สิบกว่า พ่อเป็นคนขยันมาก ตั้งใจเรียนเพราะรู้ว่า ความลำบากยากจนนั้นเป็นอย่างไร พ่อเรียนจบจนได้รับตำแหน่งเป็นนักวิชาการที่ดิน พ่อเกษียณด้วยระดับเจ็ด แต่หลังจากนั้นพ่อก็ไปสมัครเป็นอาจารย์พิเศษสอนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงราชบุรีที่เดียวกับที่พ่อจบการศึกษาก่อนเข้ารับราชการ และ สอนตามศูนย์ต่างๆอีกหลายที่ อีกเจ็ดแปดปี ช่วงหลังไปรับหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยในศาลอีก จนกระทั่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะนั่งรถเพื่อไปทำหน้าที่ที่ศาลแขวงราชบุรีแต่ไปไม่ถึง

 

 

หลับให้สบายนะครับพ่อ ผมรักพ่อเสมอครับ...

 

 

หมายเลขบันทึก: 370356เขียนเมื่อ 29 มิถุนายน 2010 10:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 13:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

สวัสดีค่ะ คุณ Phornphon

เก็บความรักนี้ไว้ในความทรงจำตลอดไป

ขอบพระคุณ คุณ ศิรินทรที่มาเยี่ยมครับ...

ความกตัญญูและระลึกถึงผู้มีพระคุณเป็นเครื่องหมายของคนดี

ขอให้รักษาความทรงจำที่ดีๆและอบอุ่นใจเกี่ยวกับพ่อเอาไว้ตลอดไปนะคะ

ขอบพระคุณท่าน krugui ที่มาเยี่ยมนะครับ

"ความกตัญญูและระลึกถึงผู้มีพระคุณเป็นเครื่องหมายของคนดี

ขอให้รักษาความทรงจำที่ดีๆและอบอุ่นใจเกี่ยวกับพ่อเอาไว้ตลอดไป"

ขอบพระคุณอีกครั้งครับ...

เรื่องบอกทางให้วิญญาณคนตาย จำได้ว่าตอนงานแม่เฒ่า ก็ทำเหมือนเช่นกันค่ะ

ความทรงจำดีๆ มีไว้หล่อเลี้ยงใจ เพื่อชีวิตที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างอบอุ่น ขอบคุณค่ะ

ขอบพระคุณ คุณ poo ที่มาเยี่ยมและมาแลกเปลี่ยนนะครับ...

สวัสดีค่ะ

แบบอย่างความอดทนของคุณพ่อ  ทำให้เราระลึกถึงและเข้มแข็งอดทนเช่นกันนะคะ  พี่คิมนึกและคิดถึงคุณพ่อบ่อย ๆระยะนี้ คุณพ่อพูดน้อยและยังเป็นคำพูดที่อบรมเสมอ ๆ ไม่ว่าอายุจะมากหรือน้อยค่ะ

ขอให้คุณพ่อของน้องพรพลมีความสุขอยู่บนสรวงสวรรค์ ดูแลคุณแม่นะคะ

สวัสดีค่ะคุณPhornphon

พ่อท่านประเสริฐนัก ท่านยังอยู่ในใจลูกเสมอ

ขอบคุณบันทึกดีๆนี้ค่ะ

สวัสดีครับ

พ่อคือตัวอย่างที่ดีของลูก

สวัสดีค่ะ

  • เข้ามาอ่านบันทึกของคนรักพ่อ
  • อ่านเรื่องราวแบบนี้ทีไรรู้สึกสุขใจจริงๆค่ะ
  • พ่อเป็นผู้นำ เป็นตัวแบบ เป็นทุกอย่างในใจลูก
  • ไม่ว่าวันนี้ วันโน้น วันไหน รักพ่อที่สุดเลยค่ะ

ขอบพระคุณพี่ครูคิมที่มาเยี่ยมพร้อมกำลังใจครับ...

สวัสดีคุณถาวรครับ

แบบอย่าง คำสอน และ สิ่งที่ท่านทำให้เราดู จะอยู่ในใจของลูกๆเสมอครับ

ขอบพระคุณครับ...

ขอบคุณ คุณฤทธิชัยที่มาเยี่ยมครับ...

ขอบพระคุณ คุณครูแป๋มที่มาเยี่ยมชมครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท