อาสาสม้ครการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หรืออาสาสมัคร กศนฯ. หมายถึงนักศึกษา ผู้มีจิตอาสา ผู้ร้ ภูมิปัญญา ศิษย์เก่า หรือผู้สนใจที่จะร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาชุมชน เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และสมัครใจทำงานเพื่อสังคมในด้านการพัฒนา โดยไม่รับค่าตอบแทน และได้รับการฝึกอบรมก่อนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอาสาสมัคร กศน.
สิ่งที่อาสาสมัคร กศน.พึงมีและถือปฏิบัติคือมีความรักมนุษย์ชาติ มีความเป็นธรรม มีความเสียสละ มีจิตใจเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ สุภาพ อ่อนหวาน ประพฤติตนดีเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น และทำตัวเสมอตน เสมอปลาย
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ
ว่าด้วยอาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
พ.ศ. ๒๕๕๑
โดยที่เป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับอาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อเสริมสร้างโอกาสในการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิตของประชาชน และส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชนในชุมชนเอง โดยเฉพาะการเรียนรู้การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงออกระเบียบไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้ เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยอาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. ๒๕๕๑
ข้อ ๒ ในระเบียบนี้ “อาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย” หมายความว่า บุคคลที่มีความรู้ความสามารถและสมัครใจทำงานเพื่อสังคมในด้านการศึกษา โดยไม่รับค่าตอบแทนในหมวดเงินเดือนและได้รับการฝึกอบรมก่อนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
“ศูนย์การเรียนชุมชน” หมายความว่า สถานที่ ที่ชุมชนกำหนดหรือร่วมกันจัดขึ้นเพื่อให้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้ของชุมชน ซึ่งจัดขึ้นตามมาตรา ๑๘ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. ๒๕๕๑
“สถานศึกษา” หมายความว่า ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ และศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเขต
ข้อ ๓ อาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เรียกชื่อโดยย่อว่า อาสาสมัคร กศน. มีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Non-Formal and Informal Education Volunteer และเรียกชื่อโดยย่อว่า NIEV
ข้อ ๔ ในระเบียบนี้ ให้คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด และคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานคร มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(๑) กำหนดนโยบายและหลักเกณฑ์การดำเนินงานของอาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ของแต่ละจังหวัด
(๒) ให้คำแนะนำแก่หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ในการบริหารจัดการและการพัฒนาอาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
(๓) ให้ความเห็นชอบในการแต่งตั้งอาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ตามที่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดและสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานครเสนอ
(๔) เพิกถอนการเป็นอาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ตามกรณีในข้อ ๑๑ (๔)
(๕) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติงานอย่างใดอย่างหนึ่ง
ข้อ ๕ ผู้ที่เป็นอาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
(๑) อายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์
(๒) เป็นผู้ที่สมัครใจและเสียสละเพื่อช่วยเหลืองานการศึกษาตลอดชีวิตของประชาชน
(๓) เป็นผู้มีภูมิลำเนาหรือมีถิ่นที่อยู่ประจำในหมู่บ้านหรือชุมชน
(๔) เป็นผู้มีความรู้ความสามารถและสามารถอ่านออก เขียนได้
(๕) เป็นบุคคลที่กรรมการหมู่บ้านหรือประชาชนรับรองว่าเป็นผู้ที่มีความประพฤติอยู่ในกรอบศีลธรรมอันดี ได้รับความไว้วางใจและยกย่องจากประชาชน
ข้อ ๖ ในกรณีที่คุณสมบัติไม่ครบตามนี้ ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด หรือคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณีโดยยึดประโยชน์ของชุมชนเป็นหลัก
ข้อ ๗ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดและผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานคร อาจเสนอผู้ที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้านเป็นอาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกิตติมศักดิ์ต่อคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด หรือคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณีก็ได้
ข้อ ๘ การกำหนดจำนวนอาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ให้กำหนดจากจำนวนหลังคาเรือนในชุมชนจำนวนไม่เกินห้าสิบหลังคาเรือน มีอาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยหนึ่งคน ทั้งนี้ ในพื้นที่ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษา แล้วรายงานให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด หรือสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณีทราบ
ข้อ ๙ วิธีการสรรหา คัดเลือก อบรมและแต่งตั้ง ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
(๑) ให้สถานศึกษา ร่วมกับชุมชนดำเนินการสรรหาและคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติตามข้อ ๕ เพื่อเข้ารับการอบรมและแต่งตั้งเป็นอาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
(๒) ให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดและสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานคร จัดให้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกตามข้อ ๙ (๑) เข้ารับการฝึกอบรมตามหลักสูตรที่สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กำหนด
(๓) ให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดและสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานคร ดำเนินการขึ้นทะเบียนผู้ผ่านการอบรมเป็นอาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และออกบัตรประจำตัวให้ตามแบบที่สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กำหนด
ข้อ ๑๐ อาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มีวาระการดำรงตำแหน่งครั้งละสามปี
ข้อ ๑๑ อาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สิ้นสุดสภาพเมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) เจ็บป่วยจนไม่สามารถปฏิบัติงานได้
(๔) มีความประพฤติเสียหาย ซึ่งคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด หรือคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณีเห็นว่าทำความเสื่อมเสียต่อเกียรติของอาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
ข้อ ๑๒ บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของอาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มีดังนี้
(๑) เสนอความต้องการในการเรียนรู้ของประชาชน โดยประสานงานกับครูประจำศูนย์การเรียนชุมชน
(๒) ประชาสัมพันธ์ สื่อสาร เผยแพร่ข้อมูลเพื่อสร้างโอกาสการเข้าถึงการเรียนรู้ของประชาชน
(๓) ส่งเสริม สนับสนุน และร่วมจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในชุมชน
(๔) ร่วมกับครูประจำศูนย์การเรียนชุมชนในการติดตามผลและดูแลการจัดกิจกรรมการศึกษาในชุมชน
(๕) ส่งเสริมสนับสนุน การรวบรวมข้อมูลพื้นฐานด้านการศึกษาของประชาชนในชุมชน
ข้อ ๑๓ อาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อาจได้รับค่าตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่ ตามที่สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กำหนด
ข้อ ๑๔ สิทธิประโยชน์ที่อาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจะได้รับมีดังนี้
(๑) สิทธิที่จะได้รับการบริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยตามประกาศสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
(๒) สิทธิการเบิกค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานตามที่กระทรวงการคลัง กำหนด
(๓) สิทธิที่จะได้รับเกียรติคุณและรางวัล ตามที่สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กำหนด
(๔) สิทธิที่จะได้รับการศึกษา อบรม พัฒนาที่สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จัดโดยเบิกค่าใช้จ่ายได้ ตามระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้
ข้อ ๑๕ อาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พึงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ ซื่อสัตย์ สุจริต สามัคคี รักษามาตรฐานการปฏิบัติงานเป็นแบบอย่างของผู้ที่มีความเสียสละ และใฝ่รู้ใฝ่เรียนอยู่เสมอ
ข้อ ๑๖ ให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด
และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานคร จัดทำรายงานการฏิบัติงานของอาสาสมัครส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เสนอต่อคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด หรือคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณีเป็นประจำทุกปีงบประมาณ
ข้อ ๑๗ ให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รักษาการให้เป็นไปตามระเบียบนี้และให้มีอำนาจตีความวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑
ศรีเมือง เจริญศิริ
(นายศรีเมือง เจริญศิริ)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ไม่มีความเห็น