การพัฒนางาน ต้องเริ่มจากการพัฒนาคนเป็นอันดับแรก เอเอฟเอสประเทศไทยตระหนักถึงความจำเป็นในเรื่องนี้และให้ความสำคัญกับภารกิจในการพัฒนาอาสาสมัครเป็นอันดับต้นๆ จึงวางแผนพัฒนาและดำเนินการอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากการฝึกอบรมพัฒนาความรู้และฝึกทักษะให้กับอาสาสมัครแกนนำตามหลักสูตรอย่างเข้มข้น และคัดเลือกอาสาสมัครให้ร่วมทีมงานวิทยากรดำเนินการฝึกอบรมให้กับอาสาสมัครเอเอฟเอสทั่วประเทศดังนี้
ครั้งที่ ๑ จังหวัดขอนแก่น วันที่ ๒๑-๒๔ มีนาคม ๒๕๕๓
ครั้งที่ ๒ จังหวัดพิษณุโลก วันที่ ๓- ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๓
ครั้งที่ ๓ จังหวัดนนทบุรี วันที่ ๑๐-๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๓
ภารงานหลักของผู้เขียนของการฝึกอบรมครั้งนี้ คือการเป็นวิทยากรในส่วนของ Module 5 : Technologies and AFS IT Tools ซึ่งเป็น ๑ ใน ๕ ของ Workshop Module การจัดหลักสูตรฝึกปฏิบัติ
Workshop Modules
Module 1 Orientation
Module 2 Screening and Recruitment
Module 3 Support I Preventive and Procedures
Module 4 Support II Common Support cases &DMIS
Module 5 Technologies and AFS IT Tools
ผู้รับการอบรมจำนวน ๑๐๐ กว่าคน ล้วนเป็นอาสาสมัคร จากกรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครจากประเทศ ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง เข้าร่วมสังเกตุการณ์และฝึกปฏิบัติด้วย
เจ้าหน้าที่จากฟิลิปปินส์ ท่านหนึ่งกล่าวว่า
Teachers can do anything และชื่นชมอาสาสมัครว่า Amazing Volunteers สนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.afspedia.org และอ่านวิสัยทัศน์เอเอฟเอสปี ๒๕๖๓( AFS Vision for the Year 2020)
( คลิ๊กเพื่อชมภาพเพิ่มเติมจากสไลด์)
สวัสดีค่ะ
ที่โรงเรียนของพี่คิมเปลี่ยนให้น้องบรรจุใหม่ไปอบรมบ้างค่ะ น่าเสียดายนะคะ ไม่เช่นนั้นเราได้เจอกันที่พิษณุโล กขอขอบพระคุณกับที่ระลึกจาก AFS ใช้อยู่ทุกวันนี้ค่ะ ครูที่โรงเรียนได้รับแบ่งกันทุกคน
ขอเป็นกำลังใจให้น้องในการทำการสอนและการทำหน้าที่ของอาสาสมัครนะคะ
พี่คิมคะ
* ช่วงรับการฝึกฝนให้เป็นวิทยากรน่ะอยู่ครบทุกงานค่ะ... แต่ช่วงให้ฝึกอบรมอาสาสมัครฯเบี้ยวไป ๒ งานค่ะ ครั้งแรกที่ ขอนแก่นติดภารงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนครั้งที่ ๒ ที่พิษณุโลกคาบเกี่ยวกับการเดินทางกลับประเทศไทย .... รู้สึกเก้อเขินปนละอายใจที่ไม่สามารถรับผิดชอบต่อบทบาท-หน้าที่ได้
* ยังหาโอกาสและเวลาไปเยี่ยมเยียนพี่คิมไม่ได้สักที ....เอ หรือเปลี่ยนเป็นต้อนรับพี่คิมแทน น่าจะมีโอกาสสูงกว่าไหมน๊า อิอิอิ !
* ขอบคุณพี่คิมนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณครูสุพร
อยากไปอเมริกา อะค่ะ
คุณครูมีแนวในการสอบสัมภาษณ์มาแนะนำไหมค่ะ
ถ้าเกิดความสามารถที่นำไปโชว์ เป็นพวกมรรยาทไทยได้ไหมค่ะ
เพราะว่าร้องเพลงไม่เป็น รำก็มะค่อยเก่ง อะค่ะ
ปล.ขอบพระคุณคุณครูล่วงหน้านะคะ
เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาใบสมัครไปส่ง อิอิ
หนูผู้อยากไปเมกาจ๊ะ
* ไม่มีสิ่งใดยากเกินความพยายามหรอกนะคะ
การสัมภาษณ์จะแบ่งเป็น ๒ ส่วน
๑ สัมภาษณ์เดี่ยว แสดงความสามารถทั้้งด้านภาษาอังกฤษและความสามารถเฉพาะตน ในด้านวัฒนธรรมไทย และอื่นๆ เช่นการรำไทย ดนตรีไทย การแกะสลัก การประดิษฐ์สิ่งต่างๆ การทำอาหารไทย การแสดงการละเล่นแบบไทยๆ ฯลฯ หากมีทักษะอยู่บ้างก็ฝึกฝนเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย แต่หากไม่มีความถนัดก็ต้องฝึกกันมากหน่อย เวลานำเสนอต้องมีการบรรยายหรือการอธิบายความเป็นภาษาอังกฤษด้วยนะจ๊ะ ทีสำคัญควรเป็นแบบธรรมชาติ มีชีวิต-ชีวา
๒ กิจกรรมกลุ่ม เขาจะดูว่า สามารถเป็นผู้นำที่ดี-ผู้ตามที่น่ารักขนาดไหน สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่าๆได้มาก-น้อยแค่ไหน
* ขอให้ได้ไป 'เมกา สมใจนะจ๊ะ
สวัสดีค่ะ ตามน้องอยากไปเมกา มาค่ะ
อย่างหนูพอไปไหวไม่ค่ะ มรรยาทไทยก็พองาม
ดนตรีไทยเล่นได้หมดเลย รำไทยก็ชัวร์ค่ะ ร้องเพลงไทยเดิมเนี๊ยะ อยู่ในสายเลือดเลย (เวอร์ไปปล่าว) พรุ่งนี้หนูขอยื่นไปสมัครด้วยคนน่ะค่ะคุณครูขา..
อยากไปเมกาด้วยคนจ้า...
คิดถึงค่ะ..บาย
* หลงใหลไปกับรสชาติของอาหารที่แซ่บเหลือหลาย จึงต้องตื่นเช้ากว่าปกติเพราะพิษของอาหาร
* แหม พอจะได้ทานปลากับขนมปังจิ้มนมข้นหวาน เลยมองภาพลูกสาวสวย(น่ารัก) ขึ้นมาเลยเนาะ อิอิอิ!
* จะไป กทม. อีก ๒ วัน ( ๒๔-๒๕ มิย) งาน TO BE NO.1 ที่เมืองทองธานีค่ะ มีเวลาไปเปิบไก่ย่างเขาสวนกวาง-ส้มตำ ด้วยกันไหมเอ่ย ? คาดเดาคำตอบได้อยู่แล้ว เลยแกล้งชวนตามมารยาทที่ดี อิอิอิ!