ผมได้รวบรวมและประมวลประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับธุรกิจประกันชีวิตมาให้อ่านกันครับ
5 เรื่องเด่นธุรกิจประกันชีวิตในรอบปี 2552
1.คลังอนุมัติเบี้ยประกันชีวิตปี 2552 สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาท
จากการที่กระทรวงการคลังได้อนุมัติให้ประชาชนที่ซื้อประกันชีวิตในปี 2552
โดยแบบประกันที่คุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตเฉพาะ
ที่ชำระแบบประกันสัญญาหลักมาใช้หักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 100,000 บาท
ปีหน้า (2553) คาดสามารถนำเบี้ยสัญญาเพิ่มเติมมาลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
แต่ไม่เกิน 50,000 บาท ด้านข้าราชการเฮเนื่องจากรัฐบาลเห็นชอบให้รักษาในเอกชนได้
สามารถเบิกได้ตามจริงแต่ไม่เกินสิทธิ์ของราชการและประกันสุขภาพรวมกัน
2.ประกันชีวิตปี 52 โตเกิน 10 % สวนกระแสเศรษฐกิจทรุด
ถึงแม้ว่าวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในรอบปีที่ผ่านมาจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจหลายประเภท
ทำให้ธุรกิจบางอย่างประสบกับปัญหาในการดำเนินกิจการและผลดำเนินการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
แต่ในธุรกิจประกันชีวิตในปี 52 กลับมีการเติบโตสวนกับวิกฤติเศรษฐกิจ โดยพบว่าเบี้ยประกันปีนี้เพิ่มขึ้นเกิน 10 %
เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาโดยคาดว่าจนถึงสิ้นปีจะมีเบี้ยประกันรับรวมทะลุเกิน 250,000 ล้านบาท
ผลจากปัจจัยบวกคลังอนุมัติให้สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท
อีกทั้งดอกเบี้ยธนาคารต่ำ คนจึงมองหาแหล่งออมใหม่ รวมทั้งไข้หวัด 2009 ทำให้คนตระหนักถึงการทำประกันมากขึ้น
3.ธุรกิจประกันชีวิตลุยเอาใจคนแก่ เหตุไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
เนื่องจากข้อมูลประชากรในปัจจุบันพบว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผุ้สูงอายุ
โดยพบว่าปัจจุบันมีผุ้สูงอายุที่อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปประมาณ 7 ล้านคน และจะสูงถึง 20 % ของประชากร
ในปี 2565 ซึ่งการใช้ชีวิตหลังเกษียณของผู้สูงอายุเหล่านี้จำเป็นต้องมีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายและดูแลสุขภาพ
บริษัทประกันชีวิตหลายแห่งเล็งเห็นศักยภาพของลูกค้ากลุ่มนี้จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ
เตรียมพร้องสำหรับวัยเกษียณ โดยเฉพาะการประกันชีวิตแบบเงินได้ประจำ (Annuity Insurance)
ทั้งนี้เนื่องจากคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีรายได้สูงและส่วนใหญ่จะหมดภาระทางครอบครัว
ทำให้มีเงินเหลือที่สามารถนำไปออมได้มาก ซึ่งช่องทางประกันชีวิตหวังดึงเม็ดเงินเหล่านั้นให้ได้มากที่สุด
ในอนาคตจะได้เห็นแบบประกันที่เอาใจผู้สูงอายุหรือผู้เตรียมตัวเกษียณกันมากขึ้น
4.ประกันรากหญ้ามาแน่ ปี2553 ประกันชีวิตลุย Micro-insurance หวังดันยอดผู้ถือครองกรมธรรม์ทะลุ 50 %
ปัจจุบันจำนวนผู้ที่ถือครองกรมธรรม์ยังมีน้อง เหตุเนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงการประกันชีวิตได้เพราะ เบี้ยยังแพง
ด้านสภาประกันฯหวังดันประกันรากหญ้าหรือประกันเอื้ออาทร (Micro-insurance) ชูจุดเด่นเบี้ยประกันต่ำหวังให้คนไทย
เกิน 50 % มีประกันชีวิต
5.วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ส่งผลบริษัทประกันชีวิต AIA และ ING บริษัทแม่ตัดใจขายทิ้งหาเงินใช้หนี้รัฐบาล
กลุ่ม AIG ตัดใจขายธุรกิจกลุ่มประกันทิ้งเนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้หนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งข่าวดังกล่าว
สร้างความแตกตื่นให้กับลูกค้าที่ถือกรมธรรม์ของ AIA เป็นอย่างมากทำให้มีลูกค้าบางส่วนแห่เวนคืนกรมธรรม์เนื่องจากไม่มั่นใจ
ล่าสุดขายขาด AIA ฮ่องกงซึ่งเป็นบริษัทที่มีสาขา AIA ในไทย แต่ผู้บริหาร AIA ได้ออกมายืนยันว่า หลังการแยก AIA ออกจาก AIG
จะไม่มีผลกระต่อความมั่นคงต่อ AIA แต่อย่างใด พร้อมทั้งรีแบรนด์ (Re-brand) AIA ทั่วโลก หวังสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
ทางด้านกลุ่ม ING จากเนเธอร์แลนด์ก็โดนหางเลขจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในครั้งนี้ด้วย หลังบริษัทแม่ประกาศขายธุรกิจกลุ่มประกันชีวิต
เพื่อนำเงินไปใช้หนี้รัฐบาลเนเธอร์แลนด์เช่นกัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความแน่นอนว่าบริษัทใดจะเข้ามาซื้อกิจการต่อ
แต่คาดว่า ING ที่ดำเนินการในประเทศไทยอาจมีการเปลี่ยนชื่อตามชื่อบริษัทใหม่ที่เข้ามาซื้อหุ้นของกลุ่ม ING
ไม่มีความเห็น