ไม่มีหนี้.... ก็ไม่มีหน้า


หนี้ ๆ ๆ

      ใครเป็นหนี้บ้างยกมือขึ้น บางท่านอาจยกด้วยความมั่นใจ บางท่านกำลังลังเลว่าจะยกหรือไม่ยกดี  บางท่านบอกว่าเรื่องอะไรจะไปยก  แต่ถ้าพูดต่อว่าใครเป็นหนี้แล้วยกมือ รัฐบาลจะปลดหนี้ให้  คงมีอีกหลายคนยกมือใช่ไหมครับ ที่จริงการเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่การไม่เป็นหนี้นี่สิครับเป็นเรื่องแปลก เพราะคุณคือส่วนน้อยนิดของสังคม  ยิ่งถ้าไม่เป็นหนี้แถมยังมีเงินฝากด้วย ยิ่งเป็นส่วนที่น้อยมากๆ ของสังคม ถ้างั้นให้ผมยืมใช้หน่อยได้ไหมครับ ล้อเล่นนะครับ 

      จริง ๆ แล้วการเป็นหนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่ถ้าเป็นหนี้แล้วไม่ใช้คืนเจ้าหนี้ นี่ผิดกฎหมายแพ่งนะครับ เราจึงสามารถเป็นหนี้ได้ ถ้าเหตุผลของการเป็นหนี้เหมาะสม เช่น บางคนเป็นหนี้ซื้อรถเพราะจำเป็นต้องไปส่งลูกไปโรงเรียน ไปทำงานเนื่องจากระบบขนส่งในประเทศเรา ยังไม่ได้เจริญเหมือนประเทศญี่ปุ่น หรือเป็นหนี้ซื้อบ้าน เพื่อเป็นแหล่งพักพิงของครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวใหม่ที่มีลูกเล็ก ๆ ดีกว่าเสียค่าเช่าบ้านไปเรื่อย ๆ  ซึ่งก็ว่ามีเหตุผลที่เหมาะสม เพราะถือว่าเป็นการสร้างหนี้พร้อมกับการสร้างอนาคตไปด้วย ส่วนการเป็นหนี้ที่ไม่สมเหตุสมผล เช่น เป็นหนี้ซื้อรถใหม่ เนื่องจาก รถคันเดิมไม่หรู  ดูไม่เป็นผู้ดี  เป็นรุ่นที่ไม่ทันสมัย อันนี้ก็เกินความจำเป็น หรือมีบ้านหลังที่สอง ที่สามให้กิ๊ก อันนี้ก็ผิดกฎหมายครอบครัวครับ

      สิ่งที่น่ากังวลในคนยุคปัจจุบัน คือ การเป็นหนี้โดยไม่มีระเบียบวินัย ดังนั้นก่อนการเป็นหนี้ควรประเมินว่าตนเองสามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้ทั้งเงินต้นเงินดอกหรือไม่ บางเดือนถ้าจำเป็นไม่สามารถคืนเงินต้นได้คืนดอกก็ยังดี บางคนมีบัตรเครดิตหลาย ๆ ใบ มีทุกธนาคาร และหลายสถาบันการเงินถ้าไปสมัครแล้วเขาอนุมัติ เมื่อถึงเวลาใช้หนี้หลายคนใช้วิธีการผันเงินแบบที่นักธุรกิจทำกัน ยืมคนโน้นไปใช้คนนี้วนไปวนมา แต่ก็ทำได้ไม่นานก็จะถูกงดเครดิต  ไม่สามารถใช้หนี้ได้ เจ้าหนี้ก็ปวดหัว โทรศัพท์ตามทั้งมือถือ โทรศัพท์บ้าน ที่มีข้อมูลเบอร์ลูกหนี้โทรตามหมด ที่แย่ที่สุดคือโทรไปที่ทำงานบ่อย ๆ ทำเอาเพื่อนร่วมงานพลอยวุ่นวายไปด้วย บางคนต้องช่วยโกหก เนื่องจากเพื่อนขอร้องให้ว่า ไม่สบายบ้าง ไม่ได้มาทำงานบ้าง หนักกว่านั้นบอกว่าลาออกจากงานไปแล้วเนื่องจากรำคาญโทรศัพท์ทวงหนี้ จากคำกล่าวที่ว่า ไม่มีหนี้ ก็ไม่มีหน้า เลยกลายเป็น มีทั้งหนี้ขายทั้งหน้า  ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ กลัวเจ้าหนี้ตามเจอ ไม่มีความสุขในชีวิตไปเลย บางคนดีหน่อยก็ไปประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ บางรายก็ตาต่อตาฟันต่อฟัน ด่ากลับไปบ้าง  บางรายก็ใช้วิธี ไม่มีไม่หนี ไม่จ่าย จะทำไม ดังนั้นท่านใดจะมีหนี้ทั้งทีคิดให้ดี จะมีหนี้ทั้งที ต้องสมกับคำกล่าวที่ว่า ไม่มีหนี้ ก็ไม่มีหน้า แล้วท่านล่ะคิดอย่างไรครับ..........

                                             

หมายเลขบันทึก: 364876เขียนเมื่อ 8 มิถุนายน 2010 10:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • จริงๆก็ไม่อยากมีหนี้ แต่ไม่มีหนี้ก็ไม่มีหน้าครับ
  • มีหนี้ย่อมมีหน้า ชาวประชาให้เครดิต ดีครับเรื่องนี้น่าคิด
  • เรื่องให้ข้อคิดเพราะส่วนใหญ่อยากมีหน้าจึงมีหนี้ และต้องหลบหลีกให้ดี กลัวเจ้าหนี้เจอหน้า เวลาไม่มีจ่ายครับ
  • มีหนี้ถือว่าเครดิตดี  เป็นที่ภูมิใจ แต่ถ้ามีหนี้ไม่ใช้ ตัวใครตัวมันครับ

ดีใจจัง ที่จะได้เป็นหนี้แล้ว... ไม่อยากได้ชื่อว่า เป็นคนส่วนน้อยในสังคม  เพราะคนส่วนใหญ่เป็นหนี้กันหมด 

เพราะอยากมีหน้า จึงมีหนี้

ลืมหน้าที่ วิ่งสร้างหนี้ หวังสร้างรวย

เงินต้นหายดอกเบี้ยเพิ่ม เริ่มความซวย

ต่างหวังรวยด้วยทรัพย์สินจึงภินท์พัง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท