ธรรมะอารมณ์ดี ๐๐๗ : ความรักต่างฤดูกาล

                          ความรักต่างฤดูกาล

 

          ในวันที่ฝนตกหนัก...สายฝนหลั่งรินลงมาจากฟากฟ้า

ใครคนหนึ่งกำลัง...นั่งมองดูสายฝนที่กำลังตกลงด้วยความสนใจ

บรรยากาศในวันที่ฝนตกหนัก...เค้ามีโอกาสนั่งทบทวนชีวิตที่ผ่าน

ในขณะที่คนคนนี้นั่งดูสายฝนอยู่....

            เขาครุ่นคิด...มองบรรยากาศรอบตัวที่เปียกฝนที่ตกลงมา

เขาเปรียบเทียบชีวิตกับบรรยากาศตอนนี้..ที่เขากำลังเผชิญอยู่

เขาสังเกตเห็น..เวลาฝนตกหนักทำให้ต้นไม้  ใบหญ้า และพื้นดิน

เปียกปอน..เขานึกถึงชีวิตที่ผ่านมา  หลายครั้งที่ชีวิตของเขาเหมือนฝนตกหนัก

มีปัญหา อุปสรรค ที่พัดมากระทบตัวเรา เหมือนพายุพัดกระหนำ

ทำให้เกือบเอาชีวิตไม่รอด..มันเป็นประสบการณ์ชีวิตที่หาซื้อไม่ได้

เป็นอดีตที่ล้ำค่า..ที่ทำให้แกร่งขึ้นมากในทุกวันนี้

            หากเปรียบบรรยากาศที่ฝนตกหนักเหมือนชีวิตที่กำลังเศร้า

เพราะมีพายุ คือ อุปสรรคของชีวิตในทุกด้าน

ทั้ง ความรัก  การเรียน  การงาน  การใช้เงิน

กำลังโหมกระหนำเข้ามากระทบกับตัวเราด้วยความรวดเร็ว อย่างไม่คาดคิด

วันนี้เหตุการณ์แบบนี้...กำลังเกิดขึ้นกับใครสักคนที่เขายังไม่พร้อมที่จะเจอ

            คนคนนั้นคงจะเหนื่อยมากที่จะเดินผ่านพายุฝนนี้ไปได้

เขาจะสามารถผ่านพายุฝนนี้ไปได้ก็เพราะ..ความอดทน...เวลาที่ฝนพรำ

ความอดทนต่อการโหมกระหนำของพายุ

และถ้าเขาผ่านปรากฏการณ์แห่งชีวิตครั้งนี้ไปได้

อย่างน้อยที่สุดเขาจะได้เห็นถึงความแตกต่าง

ความแตกต่างระหว่าง ทุกข์และสุข ว่าต่างกันยังไง

ในวันที่ฝนตกหนัก พายุกระหนำ กับวันที่ สายลมพัดพาความเย็นมาสู่ชีวิต

                และถ้าหากวันไหนที่อากาศดี แจ่มใส สายลมพัด

เปรียบเหมือนชีวิตที่มีความสุข  สดใส สบายใจ

เวลาแดดออกเปรียบกับชีวิตที่กำลังสดใส..เสมือนฟ้าหลังฝนที่สวยงามเสมอ

คุณลองหันไปดูอากาศจริงๆรอบตัวคุณตอนนี้สิ

เวลาที่เราได้เห็นแสงแดดหลังจากฝนตกหนัก...เราจะรู้สึกดีทุกครั้ง

และทุกครั้งที่ฝนในใจที่ตกลงมาจากดวงตาของเรา

ขณะที่ฝนในใจตกลงอย่างหนัก...เราอาจจะรู้สึกแย่มาก

แต่เราจะรู้สึกผ่อนคลายอีกครั้ง...เมื่อสายฝนในหัวใจ หยุดรินไหลออกจากดวงตา

เพราะบางครั้ง...การร้องไห้ก็ช่วยผ่อนคลายความรู้สึกกดดันของเราได้เช่นกัน

แต่เมื่อเราร้องไห้ไม่ออก  น้ำตาตกลงในใจ นี้สิ...

จะมีอะไรมาช่วยผ่อนคลายได้ดีเท่ากับ..พลังใจของเราเอง

จงคิดเสมอว่า...รักตัวเองให้มาก ถ้ารักตัวเองไม่เป็น ก็อย่าหวังว่าเราจะรักคนอื่นเป็น

            การเปรียบบรรยากาศที่ร้อน อบอ้าว เหมือนชีวิตที่กำลังสับสน

ทำอะไรก็หงุดหงิดไปหมด  เห็นอะไรก็วุ่นวายไปซะทุกอย่าง

ความรักก็ยุ่ง  การเรียนก็แย่  การงานก็เยอะ

ลองนึกถึงฤดูร้อนที่เหงื่อไหล อึดอัด ไม่สบายตัว

ทุกครั้งเราก็จะอาบน้ำ  ชำระร่างกาย

จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นมาบ้าง.....เช่นเดียวกัน

หากความรักก็ยุ่ง  การเรียนก็แย่  การงานก็เยอะ...เหมือนฤดูร้อน

ลองทำให้สิ่งเหล่านี้...ให้เย็นเหมือนกับที่เราอาบน้ำ

ถ้ามันร้อนนัก..ลองเดินไปใต้ต้นไม้..ที่โล่งๆ ลมเย็นๆ

นั่งพักให้หายร้อน..แล้วค่อยแก้ปัญหาไปทีละเรื่อง..ด้วยสติอันแน่วแน่ของเรา

              ไม่มีใครที่จะผ่านชีวิตในหลากฤดูกาลได้อย่างสมบูรณ์แบบ

อย่างน้อยในชีวิตของทุกคนก็มีปัญหาและอุปสรรคเข้ามาในทุกช่วงชีวิต

ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อน  ฤดูหนาว  ฤดูฝน

แต่สิ่งสำคัญก็คือ  การมีพลังกายและกำลังใจ

ที่จะฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคไปให้ได้ด้วยความอดทน

            เหมือนกับบรรยากาศของฤดูฝน ที่ฝนช่างตกลงมาอย่างหนักเหลือเกิน

ทำให้หนทางเดินเปียก จนเดินไปด้วยความยากลำบาก

ถ้าเราอดทนจนถึงเวลาที่แดดออก  ท้องฟ้าโปร่ง

ความสดใส สายลมเย็น จะกับมาอีกครั้ง

            ดังที่นักปรัชญาเมธีชาวอเมริกาคนหนึ่งกล่าวว่า

“ผมสามารถสรุปทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของผมด้วยคำสามคำ คือ ชีวิต ก้าว ต่อไป”