รายการใหม่ที่ F.M. 90.5: ต่อยอดกับดร.จีระ


F.M. 90.5: ต่อยอดกับดร.จีระ

สวัสดีครับชาว Blog

ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนาฯ 53 เป็นต้นไป ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ช่วงเวลาประมาณ 18.00 - 18.30น. ที่คลื่น F.M. 90.5 MH.z. พบกับรายการ "ต่อยอดกับดร.จีระ" ซึ่งจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างผมกับคุณพิเชษฐ์ และคุณประจักษ์

วิธีการทำงานของเราจะเป็นการนำความรู้ต่าง ๆ ที่ผมสะสมมาผสมกับสื่ออาชีพเก่ง 2 ท่าน เพื่อให้คนไทยได้ประโยชน์ในการสร้างมูลค่าเพิ่มต่อไป

                                                    จีระ หงส์ลดารมภ์

หมายเลขบันทึก: 362187เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2010 11:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 15:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ผมได้ออกอากาศไปแล้ว 3 ครั้ง สำหรับรายการ "คิดต่อยอด" สรุปว่า

วันอังคาร

-          ผมพูดถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ..สร้างความแตกแยกหรือปรองดอง - สรุปว่าแตกแยกมากขึ้น แต่มีข้อดี คือ แตกแยกในระบบดีกว่าแตกแยกนอกสภาฯ

-          ประเด็นที่ 2 คือ ถ้ารู้ก็ควรแก้ ควรวางแผน ลดความรุนแรงหรือ Damage Control - ใครจะช่วยทำบอกมา

วันพุธ

-          นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Hatoyama แค่ 8 เดือนลาออก แล้วเหตุผลเพราะอะไร ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมการเมืองที่น่าคิด เน้นเรื่องจริยธรรมของนักการเมืองสูง - อะไรผิดพลาด นักการเมืองเสียสละ ไม่ยึดติดกับตำแหน่ง

-          คราวนี้คุณ Hatoyama ทำนโยบายย้ายฐานทัพอเมริกันออกจาก Okinawa ไม่สำเร็จเลยลาออก

-          บทเรียนก็คือประชาธิปไตยของญี่ปุ่นมีอิทธิพลของการศึกษาที่มีคุณภาพ ผู้ลงคะแนนจะเน้นนโยบาย คุณ Hatoyama เคยได้คะแนนนิยมแรก ๆ ถึง 70% แต่ปัจจุบันลดลงเหลือ 20%

-          คิดต่อยอดคืออะไร คือ ดูประชาธิปไตยของคนไทย ไม่ว่านโยบาย จริยธรรม คดีอาญา จะเป็นอย่างไร การลงคะแนนยังไม่เปลี่ยนเพราะผู้ลงคะแนนไม่มีจิตวิญญาณของตัวเอง แต่เวลาอาจจะช่วยได้บ้าง คนไทยต้องรอกี่ปี

-          ในความเห็นของผม อย่างน้อย ๆ 10 ปี แต่มีตัวเร่ง คือ สังคมไทยมีเสรีภาพ แต่ตัวฉุดก็คุณภาพทรัพยากรมนุษย์ยังต่ำอยู่ สื่ออย่างเราจึงต้องช่วยให้มีการคิดเป็นระบบ วิเคราะห์เป็น 90.5 F.M. น่าจะช่วยได้บ้าง

วันพฤหัสฯ

-          ไปดูการจัดอันดับของสถาบันต่างประเทศ เรื่องระบบราชการไทยเปรียบเทียบกับประเทศในเอเชีย ประหลาดใจพอควร เพราะไทยติดอันดับ 3 ของ ASIA สูงกว่าที่คิดไว้ แพ้สิงคโปร์ แพ้ฮ่องกง ชนะมาเลเซีย ชนะเกาหลี ชนะจีน ชนะอินเดีย

-          ต่อยอดอย่างที่คุณวิเชษฐ์ช่วยมอง วัดจากความสะดวกสบายของผู้ลงทุนต่างประเทศ แต่ไม่ได้วัดเรื่องอื่น ๆ ในไทย เช่น

                           - การฉ้อราษฎร์บังหลวง

                           - ไม่มีการพัฒนาทุนมนุษย์อย่างยั่งยืน

                           - ถูกการเมืองครอบงำ

                           - คนเก่งไม่เข้าระบบราชการ

                           - ผู้หญิงเยอะเกินไปหรือเปล่า

                           - ข้าราชการอายุเฉลี่ยมาก

                           - เกษียณอายุก่อนกำหนดมีแต่คนเก่งออก คนไม่เก่งอยู่จนเกษียณ

-          ต่อยอด - อย่านำเอาข่าวดีมาบอกว่า "ระบบราชการของเราดีแล้ว" ดูข่าวต่อไปในบางเรื่องต้องมองจุดอ่อนที่มีมากมาย

 

สรุป - แค่ 3 วันก็จับประเด็นต่อยอดได้ไม่น้อย

-          บางเรื่องคิดต่อ

-          บางเรื่องกระจายข้อมูลไป

-          บางเรื่องทำวิจัย เช่น ทำไมการพัฒนาข้าราชการล้มเหลว

  เพราะ     

-          สำนักงบประมาณไม่มีเงินให้

-          คนทำงานระดับสูงหรือผู้นำไม่ศรัทธาเรื่องพัฒนา "คน"

-          หรือ เจ้าหน้าที่ระดับฝ่ายปฏิบัติการไม่มีความสามารถเพียงพอ เช่น

  • กองการเจ้าหน้าที่
  • กองการฝึกอบรม

-          ทำแต่ไม่มีคุณภาพ ไม่ได้ใช้ทฤษฎีใหม่ ๆ ในการเรียนรู้ เช่น

  • สอนให้คนไทยคิดแบบเศรษฐกิจพอเพียง
  • หรือทฤษฎี 4 L’s คือ
    • Learning Methodology คือ การมีวิธีการเรียนรู้ที่ดี กระตุ้นให้คนสนใจที่จะเรียนรู้
    • Learning Environment คือ การสร้างบรรยากาศในการเรียนที่สดชื่น ผ่อนคลาย จะทำให้ผู้เรียนมีพลัง
    • Learning Opportunities คือ การสร้างโอกาสจากการเรียนรู้ร่วมกัน และสามารถนำความรู้ไปต่อยอด
    • Learning Communities คือ เกิดเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่สามารถผนึกกำลังกันทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อไป
  • หรือไม่เคยสนใจวิธีการของ Guru ระดับโลก เช่น Peter Senge ที่พูด “The fifth Discipline” ขจองการเรียนรู้ไว้ในหนังสือ Rethinking the Future ดังนี้
    • Personal Mastery รู้อะไร รู้ให้จริง
    • Mental Models     มีแบบอย่างทางความคิด
    • Shared Vision      มีเป้าหมายร่วมกัน
    • Team Learning    เรียนรู้เป็นทีม ช่วยเหลือกัน
    • System Thinking มีระบบการคิด มีเหตุมีผล

                                                                                                                จีระ หงส์ลดารมภ์

 

 

รายการ “คิดต่อยอด” ครั้งที่ 4 (วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน 2553)

ผมพูดถึงนโยบายการสร้างให้คนไทยมีจิตสาธารณะ ประเทศไทยของเราควรจะทำอย่างไร? ซึ่งผมสรุปได้ 2 ข้อ ดังนี้

  1. ให้มีหลักสูตรการเรียนการสอนในระดับตั้งแต่อนุบาล ประถม มหาวิทยาลัยที่ปลูกฝังเรื่องการเป็นผู้มีจิตสาธารณะ
  2. ให้ “สื่อมวลชน” มีบทบาทหน้าที่ปลุกกระแสของการมีจิตสาธารณะในสังคมไทย

ซึ่งผมได้ยกตัวอย่างว่าเราอาจจะต้องสอดแทรกจิตสำนึกของการมีจิตสาธารณะไว้ในละคร (น้ำเน่า) หรือ Soap Opera ซึ่งหลายประเทศกำลังทำอยู่และค่อนข้างได้ผล เพราะคนส่วนใหญ่จะดูละคร (น้ำเน่า) มากกว่าข่าวหรือรายการวิชาการ

และประเด็นที่เราจะต้องช่วยกันคิดต่อยอดในวันนี้คือ เราจะมีส่วนช่วยอย่างไรให้เรื่องจิตสาธารณะนำไปสู่การปฏิบัติที่ได้ผล

                                                จีระ หงส์ลดารมภ์

ขอบคุณค่ะ...การต่อยอด..อยากเห็นเป็นงานระดับชาติค่ะ..:

๑.การวิเคราะห์ปัญหาพื้นฐานของประเทศที่สะสมมานาน.. ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และคาดว่าจะเกิดต่อไปในอนาคต (ต่อยอดปัญหา)..มีทั้งภาพรวมและรายภาพย่อย..ผู้เกี่ยวข้องประจักษ์ในปัญหาเหมือนกันหรือไม่ ?..ข้อแตกต่างได้ข้อยุติร่วมกันอย่างไร?

๒. การแก้ไขปัญหา :

     ..แก้อะไรก่อนหลัง..เช่น เริ่มที่ การปรองดองแห่งชาติ..จะปรองดองเรื่องอะไรบ้าง...เป้าหมายการปรองดอง..ใครกับใคร...จุดอ่อนจุดแข็งที่ผ่านมาของ การปรองดอง คืออะไร..ฯลฯ

      .. แก้อย่างไรให้ได้ผลเป็นรูปธรรมเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย วิธีการมีความเป็นกลางถือผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าของพวกพ้องหรือปัจเจกบุคคล ฯลฯ

      .. แก้โดยใคร ที่มีคุณสมบัติและประสบการณ์เป็นที่ยอมรับทั้งในแนวคิดและผลสำเร็จในทางปฏิบัติในเชิงประสานกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย..

     -- ระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงตามขั้นตอน แก้ไขถูกจุด..ต้องถูกจังหวะเวลาด้วย..

     อยากให้รายการโทรทัศน์ที่มีคุณค่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของการชี้แนะแก่คำตอบเหล่านี้ด้วยค่ะ..

 

 

  

รายการ "คิดต่อยอด" (วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน 2553)

ผมพูดเรื่องเศรษฐกิจโลกอีกครั้งหนึ่ง เพราะวันนี้เราต้องจับตาเศรษฐกิจโลกด้วยความไม่ประมาท หลังวิกฤตแฮมเบเกอร์ทุกประเทศต่างมุ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีภาครัฐเป็นตัวนำ ประเด็นปัญหาคือการที่ภาครัฐนำ และเอกชนได้รับการอุดหนุนจากรัฐ แต่วันนี้รัฐบาลในหลาย ๆ ประเทศมีความเสี่ยงมากขึ้น ประกอบด้วย

  1. ความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกยังมีต่อ เพราะหลายประเทศยังมีความผันผวนทางเศรษฐกิจค่อนข้างมาก เช่น ประเทศกรีซ สเปน โปรตุเกส และล่าสุดคือฮังการี หนี้สาธารณะมีไม่ต่ำกว่า 120% ของ GDP หากจะเทียบกับประเทศไทยเรายังมีหนี้สาธารณะเพียงประมาณ 44% ของ GDP 
  2. ตัวเลขการว่างงานของอเมริกาสูงขึ้น ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
  3. ความร้อนแรงของประเทศจีนทำให้มองว่าอาจจะนำไปสู่ฟองสบู่แตกอีกครั้ง ทำให้วันนี้จีนลดความเติบโตทางเศรษฐกิจลง เรียกว่าเปนการชลอตัว

สรุป คือ ความเสี่ยงทั้ง 3 ทำให้หลายสำนักมองว่าเกิด "Doubble Dip" คือ เศรษฐกิจจะตกต่ำลงอีก คงยังไม่ถึงขนาดนั้น เพราะเป็นแค่การชลอตัว

ความเสี่ยงดังกล่าวนี้ก็เป็นครื่องเตือนให้รัฐบาลนายกฯ อภิสิทธิ์ต้องรอบคอบมากขึ้น ยิ่งการขาายพันธบัตรรัฐบาลที่ผ่านมาต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้มาก แบงก์ชาติก็คงจะต้องใช้นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยไม่ขึ้นดอกเบี้ยต่อไป

                                                             จีระ หงส์ลดารมภ์

 

4.

รายการ “คิดต่อยอด”

วันพุธที่ 9 มิถุนายน 2553

            ผมร่วมกับผู้จัดรายการอีก 2 ท่าน คือ คุณวิเชษฐ์ วิชัยรัตน์ และ คุณประจักษ์ มะวงศ์สา เรา 3 คนได้พูดถึงเรื่องการฟื้นฟูประเทศ โดยเน้นการท่องเที่ยว ตัวเลขคาดว่าจะได้ 16 ล้านคนในปี 2553 แต่มีเหตุการณ์แบบนี้คงได้แค่ 14 ล้าน หายไป 2 ล้าน หรืออาจจะมากกว่านี้ ขาดรายได้ไป 200,000 ล้านบาท เราจะฟื้นฟูอย่างไร..พูดกันว่า

  1. ต้องสงบ การท่องเที่ยวจึงจะฟื้นได้เร็ว
  2. ต้องเน้นการท่องเที่ยวในประเทศ
  3. ขณะนี้ยังมีบางประเทศยังห้ามประชาชนของเขามาเมืองไทย เรื่องนี้ท่านทูตอเมริกาใต้ได้ถามนายกฯ อภิสิทธิ์ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความเข้าใจว่าควรมีประชุมระหว่างประเทศอธิบายทำความเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ประเทศไทยจะมีประกาศภาวะฉุกเฉินก็ไม่ได้ทำให้มีปัญหาในความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ปัจจุบันมีประเทศที่ห้ามประชาชนเข้าประเทศไทยซึ่งจริง ๆ ก็มีไม่กี่ประเทศ เช่น จีน เป็นต้น

            สำหรับมาตรการอื่น ๆ เช่น การนำเอาค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในประเทศมาหักภาษีได้ก็เป็นประโยชน์ และช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศได้

            คิดต่อยอด

  • ฟื้นฟูเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ถ้าการเมืองสงบคงเร็วและสำเร็จได้
  • การสร้างภาพลักษณ์ในต่างประเทศ ต้องทำมากกว่าเดิม BOT, เรื่องการท่องเที่ยว, ตลาดหุ้น ต้องช่วยกัน
  • แต่การฟื้นฟูจิตใจ และฟื้นฟูรากหญ้าต้องทำ ต้องปรองดอง

      ผมเคยเน้นไป 2 เรื่อง

  • การศึกษาอย่าเน้นปริมาณ ต้องเน้นคุณภาพ สร้างการกระจายไปในต่างจังหวัด
  • การพัฒนาอาชีพเกษตรกร สร้างงานที่มีมูลค่าเพิ่มจริง ๆ และแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น ที่มาบตาพุด

                                                จีระ หงส์ลดารมภ์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท