จากประสบการณ์ที่ได้ทำงานมาสิ่งหนึ่งที่เรียกได้ว่าอ่อนไหวต่อการทำงานร่วมกันในองค์กรหรือในสำนักงานก็คือ การปฏิสัมพันธ์กันโดยเฉพาะการพูด เนื่องจากการทำงานงานต้องมีการปะทะสังสรรค์กันเกิดขึ้น ดังนั้นการพูดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการอยู่ร่วมกัน การเลือกใช้คำพูดนั้นถือว่าสำคัญเนื่องจากเป็นการรักษาน้ำใจซึ่งกันและกันของทุกคนในองค์กร เช่น การที่เราจะตำหนิใครสักคนหนึ่งในองค์กรแทนที่เราจะใช้คำที่รุนแรงก็อาจจะเลือกใช้คำที่มีความหมายเหมือนกันแต่เบาลงกว่าเดิมเพื่อทำให้ผู้ฟังไม่รู้สึกว่าถูกตำหนิมากนัก เช่น คำพูดที่ว่า "พี่ส่งรูปไปใช่ไม๊รู้ไม๊ว่ารูปนี้น่ะห้ามเผยแพร่รู้ไม๊พี่ที่ทำงานอยู่ก่อนหน้าพี่น่ะเค้าหวงมากเลยไม่มีใครกล้ายุ่งกับรูปพวกนี้หรอก" จากคำพูดจะเห็นได้ว่าผู้พูดมีอายุน้อยกว่าผู้ฟังยิ่งถ้าน้ำเสียงของผู้พูดแข็งกร้าวด้วยแล้วอาจทำให้ผู้ฟังไม่พอใจก็เป็นได้ ดังนั้นถ้าต้องการรักษาน้ำใจกันในองค์กรก็อาจเลี่ยงใช้คำพูดที่ว่า "พี่ผมเข้าใจนะว่าพี่เพิ่งมาทำงานใหม่แต่ผมขอแนะนำพี่อย่างนึงเนาะว่าที่ทำงานเราเค้าค่อนข้างเข้มงวดในเรื่องนี้ก็อยากให้พี่เข้าใจวัฒนธรรมในองค์กรของเราด้วยนะพี่" นี่คือตัวอย่างคำพูดที่มีความหมายเหมือนกันแต่เพียงแค่เราใช้คำต่างไปการรักษาน้ำใจกันในองค์กรก็เกิดขึ้นไม่หมางใจกันด้วยคำพูดอีกต่อไป
ไม่มีความเห็น