มีโอกาสร่วมสร้างบุญกุศลเล็กๆ


อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันวิสาขบูชาอีกครั้ง นับเป็นโอกาสดีที่หลังจากเหตุการณ์เศร้าสลดหดหู่ยังไม่ทันจาง ก็มีสิ่งที่น้อมนำใจสู่ความสงบดีงาม ให้ใจมีที่พึ่ง

เมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๓ นี้ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้จัดงานประชุมชาวพุทธนานาชาติ วิสาขบูชาโลก มีชาวพุทธทั้งพระทั้งฆราวาสราวพันเจ็ดร้อยคนมาร่วมประชุม เป็นเรื่องดีๆที่เกิดในจังหวัดที่ผู้เขียนอาศัยอยู่

ที่จริงก็คิดว่าตัวเองคงจะไม่เกี่ยวอะไรในการประชุมนานาชาตินี้ แต่ธรรมะจัดสรรให้มีโอกาสสร้างบุญกุศลด้วยการช่วย คนข้างกาย ต้อนรับเป็นเจ้าภาพร่วมเลี้ยงอาหารเย็นแก่คณะตัวแทนจาก องค์การยุวพุทธิกศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก ห้าหกประเทศในแถบเอเซีย ราวสิบห้าคน แบบสบายๆ ซึ่งมาร่วมงานประชุมวิสาขบูชาโลกที่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยคุณอนุรุธ ว่องวานิช นายกสมาคมองค์กรยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นผู้นำพากันมา

มีที่มาหรือเหตุปัจจัยที่ชักนำให้ได้เข้าไปอยู่ในแวดวงก็ด้วยยุวพุทธิกสมาคมฯประเทศไทยนั้นกำลังจะสร้างสำนักวิปัสสนาที่อำเภอนครหลวงใกล้บ้านของผู้เขียนชนิดขับรถสิบนาทีก็ถึง และเขามาขอคำปรึกษาจากคนข้างกายเรื่องการออกแบบ โดยมีกัลยาณมิตรคือ คุณลลิสา จงบารมี (ผู้ก่อตั้ง มูลนิธิธารศิลป์รักษ์จิตรกร)เพื่อนบ้านเหนือโค้งน้ำขึ้นไปหน่อยหนึ่งประสานให้ได้ทำความรู้จักกัน

งานเลี้ยงนี้มีไปเมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม นี้เอง จัดที่ อยุธยาบุรีเทวี สถานที่ทำงานของคนข้างกายซึ่งเขาทำงานอันเป็นที่รัก เป็นอุดมคติ ทำตามความมุ่งมั่นของตนเอง เกี่ยวกับงานพิพิธภัณฑ์ การออกแบบและวัฒนธรรมสร้างเอกลักษณ์เมือง อยู่บนฝั่งสายน้ำป่าสักในตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา

อากาศค่อนข้างร้อนแม้อาทิตย์ค่อยๆลับแสง แต่พอเริ่มมืดมีลมแม่น้ำและลมจากพายุฝนไกลๆพัดมาให้ชื่นใจเหมือนกัน

 

ผู้มาเยือนทุกท่านเพลิดเพลินกับบรรยากาศ อันประกอบไปด้วย ทิวทัศน์ สถานที่ อาหาร และสุนทรียสนทนา

 

ประเทศไทยและทุกประเทศทั่วโลกต่างกำลังพบวิกฤตกันทั้งนั้นในรูปแบบที่ทั้งต่างกันและคล้ายกัน ดังนั้นการบ่มเพาะศีลธรรม จริยธรรมในคนรุ่นเยาวชนจึงนับว่าสำคัญยิ่งที่จะทำให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีศีลธรรม จริยธรรมเพื่อทำให้สังคมเต็มไปด้วยคนมีคุณภาพทั้งภายในและภายนอกที่จะนำพาโลกสู่สันติสุขได้

การที่ผู้เขียนมีส่วนร่วมสร้างความเบิกบาน สบายใจแก่ผู้ปฏิบัติงานด้านนี้แม้เพียงน้อยนิดก็คงเป็นบุญกุศลอยู่บ้าง ขอแบ่งให้ท่านผู้อ่านทุกท่านด้วยค่ะ

 

หมายเลขบันทึก: 361247เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2010 12:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (29)
  • ผมให้เจ้าหน้าที่ติดต่อพี่
  • แต่เข้าใจว่าเขายุ่งๆๆ
  • ผมได้ให้ข้อมูลพร้อมเบอร์โทรศัพท์ของพี่ไปครับ
  • แต่ตอนรับที่บ้านก็ดี
  • น้องไปที่ มหาจุฬาฯครึ่งวันเองครับ
  • เป็น Moderator ห้องนานาชาติ เจอภาษาอินเดียเข้าไปฟังแทบไม่ทัน
  • เอาภาพมาฝากพี่นุชด้วย
  • ขอให้มีความสุขมากๆๆนะครับ

ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ ดูเหมือนชาวเกาหลี ใช่ไหมครับ จะชอบบ้านริมน้ำมากๆๆๆ

อยุธยาบุรีเทวี แบบนี้ต้องหาทางไปเที่ยวเสียแล้ว ที่แรกคิดว่าที่บ้านครับ ภาพคล้ายๆๆกันเลย ยังสงสัยอยู่ว่าตรงไหนของบ้านพี่นุช ฮ่าๆๆ

สวัสดีค่ะ

คิดถึงค่ะ  P ภาพใหม่เก๋มากค่ะ

พี่นุชครับ น้องมาอีกรอบ งง ปูที่วางไว้เป็นปูนา เป็นที่ประดับใช่ไหมครับ เอหรือกินได้ครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์ขจิต ฝอยทอง ขอบคุณค่ะที่มาชวนและเสนอชื่อให้ไปร่วมงานบุญกุศลด้วยกัน ทางคณะผู้จัดงานคงยุ่งน่ะค่ะคนมาร่วมงานเป็นพันขนาดนั้นซึ่งคนมีจิตเป็นกุศลช่วยงานคงไม่ได้หายาก ดูสิคะคนจะมีโอกาสได้สร้างบุญก็มีบุญมาเปิดประตูถึงที่ให้ได้ทำบุญจนได้ เราก็ทำตามความสะดวก ความถนัดและบริบทของเรานะคะ ทำตรงไหนก็ได้

อยุธยาบุรีเทวีนั้นจะไปชมต้องใช้เส้นพี่นะขอบอก ^____^ เพราะปกติเขาไม่ได้เปิดหรือมีบริการจัดงานค่ะ ส่วนใหญ่เป็นงานทำให้กัลยาณมิตรที่ชื่นชมงานวัฒนธรรมไทยค่ะ

พระเกาหลีใส่ชุดสีเทา และสาวเกาหลีเป็นเจ้าหน้าที่ยุวพุทธเกาหลีค่ะ เธอเดินอยู่ที่ท่าน้ำสดใสมาก

พระที่ใส่ชุดสีแดงเป็นพระมาไกลจากมองโกเลียโน่นแน่ะค่ะ พระมองโกเลียท่านเพิ่งเคยฉันกุ้งแม่น้ำ พิศวงกับความอร่อยกับต้มยำกุ้งแม่น้ำค่ะ

ทุกคนติดใจปลากรายปรุงรสห่อใบชะพลูย่าง หากอาจารย์ขจิตมาเยือนจะทำเลี้ยงล่ะค่ะ

พวกปู กบ นั้นเป็นโลหะสำริดหล่อค่ะเขาทำท่าทางได้เหมือนจริงมาก เราเอาไว้ประดับตกแต่งค่ะ นี่ก็เอาทับใบตองไม่ให้ปลิวค่ะ

ขอบคุณที่มาอย่างรวดเร็วค่ะ ^___^

ขอบคุณคุณครูคิม ค่ะ ได้เห็นภาพและอ่านถึงการไปเยือนเดอมูซอยของคุณหนานเกียรติแล้วมีความสุขไปกับคุณครูคิมด้วย เสียดายที่ไม่ว่างตรงกัน นี่คาดว่าจะไปสักเดือนหน้าปลายๆเดือนค่ะ เลยอดชิมน้ำพริกจากคุณครูคิมเลย ^___^

พี่นุชครับ สงสัยต้องใช้เส้นพี่นุชแล้วครับ เห็นกบและปู ที่แรก ตกใจ โอโหเสริฟปูนาด้วยหายากมาก ฮ่าๆๆ ท่าทางคนเกาหลีชอบจริงๆๆด้วย  เอาพระญี่ปุ่นมาแจมครับชื่อ Noriaki  ชาวฝรั่งมาจาก Naropa University ชื่อ Deborah ครับ อีกท่านเป็นชาวศรีลังกา ชื่อยาวมาก จำไม่ได้ ครับ

 

ขอบคุณค่ะพี่krutoiting ที่มาอนุโมทนาบุญด้วยกัน

สวัสดีค่ะ

รอรับชิมได้เลยค่ะ  จะส่งมาให้เร็ว ๆนี้  เพราะปลายสัปดาห์มีหยุด ๓ วันค่ะ  ชอบรสจัดหรือปานกลางคะ

การมีโอกาสได้ฟังความคิดและมุมมองของชาวพุทธชาติอื่นๆนั้นน่าสนใจมากนะคะอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง เขาจะมีมุมมองที่ทำให้เราคิดได้กว้างขึ้นเพราะไม่ติดในเรื่องอิทธิฤทธิ์ความศักดิ์สิทธิ์และมักมีเรื่องของสังคมที่ชัดเจน

ผู้ร่วมงานหน้าตาแจ่มใสกันทุกคนเลย

เดี๋ยวเราจะมีภาพพระญี่ปุ่นมาฝากเหมือนกัน แต่อยู่อีกบล็อกไปชมวัดเซนเมืองคามาคุระมาค่ะ (เดี๋ยวนี่อีกนาน อิ อิ ยังเขียนไม่เสร็จ อารมณ์หดหู่)

ว้าว คุณครูคิม รวดเร็วจริงๆ ไม่มาเที่ยวอยุธยาบ้างหรือคะ รอ อยากต้อนรับค่ะ จะได้มาทานน้ำพริกด้วยกัน กลืนน้ำลายแล้ว ชอบรสปานกลางค่ะ ^____^ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

เอาไว้ให้พี่นุชว่างก่อนก็ได้ครับ ขำๆๆพี่นุช มีจองน้ำพริกรสปานกลาง ผมขอด้วย เอาเผ็ดมาก ฮ่าๆๆ

สวัสดีค่ะขจิต ฝอยทอง

ขออนุญาตตอบผ่านค่ะ  ได้เลยค่ะ หลายท่านชอบรสเผ็ดจัด

อยู่บ้านเกือบทุกวันแหละค่ะ มากันได้ตามสะดวก อิ อิ กลัวไม่มา

พี่นุชสุดสวาทบาดใจค่ะ ว้าว ๆ คงประทับใจคนต่างชาติไปหลายเลยนะคะ ขนาดคนไทยๆ เห็นยัง ว้าว ๆ ชอบไอเดีย ใบตอง ปูโต๊ะอาหาร บรรเจิดมากๆค่ะพี่นุช

เห็นหลายๆ เมนูสีสัน เหมือนผักทอด สมุนไพร จานนั้นปลากรายห่อใบชะพลู หิวเลยๆ ขอบคุณพี่นุช อนุโมทนาสาธุ ด้วยคนเจ้าค่ะ  ปล. ปูยังติดใจเครื่องทำไอติม ค่ะ ;)

น้องปูจ๋าpoo ที่แสนน่ารัก น้องปูชอบธรรมชาติเห็นอะไรทำนองนี้ก็ย่อมถูกตาต้องใจเป็นธรรมดานะคะ

ขอบคุณที่มาอนุโมทนาบุญด้วยกันค่ะ

  • สวัสดีค่ะ
  • แวะมาเยี่ยมเยียนกันค่ะ สบายดีนะค่ะ  พร้อมกับมาเชิญชวนไปชม "สุดยอดส้วม...โรงพยาบาลพะโต๊ะ"
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณบุษรา ไปแวะชมส้วมสวย ที่เป็นผลงานจากการคิดที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่มีเงินตกแต่ง ทำของใหม่ ชื่นชมค่ะและน่าเป็นตัวอย่างวิธีคิดให้กับหน่วยงานอีกหลายแห่งนะคะ

ขอบคุณที่มาแวะทักทายและชวนไปชมเรื่องดีๆค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักทักทายกันค่ะคุณลัคนา " สาวยุคใหม่ "

มีคำถามต้องการคำตอบที่บันทึกล่าสุดของครูบันเทิงน่ะค่ะ  ..คอย คอยค่ะ..

สวัสดีค่ะคุณNew.ครูบันเทิง ผู้แสนเก๋ไก๋ เดี๋ยวจะตามไปตอบคำถามค่ะ ขอบคุณที่แวะมาชวนค่ะ

สวัสดีค่ะ

เตรียมผักสดและไข่ต้มไว้รอนะคะ  น้ำพริกกำลังเดินทางค่ะ  รสปานกลาง..๕๐:๕๐ ว่างั้นเถอะนะคะ

ถ้าเป็นผักลวก็ดอกแค ตำลึง ผักหวานบ้าน  เข้าท่าเข้าทางดีหน่อยค่ะ...อันนี้นักชิมบอกมาค่ะ

ด้วยความระลึกถึงค่ะ

ว้าว ลาภปากจากความใจดีของคุณครูคิม จะมารวดเร็วจังเลยค่ะ ขอบคุณอย่างยิ่งค่ะ ดอกแคกับตำลึงหาง่ายมากค่ะตอนนี้ ฝนลงมาสองครั้งกำลังแตกยอดตามรั้ว จะให้พี่น้อยไปเก็บมารอท่า  ^________^ อ้าปากกว้างเตรียมกินค่ะ

สวัสดีค่ะอาจารย์ แอบมาทักทายยามดึกค่ะ (แอบงีบไปพักแล้ว) ก่อนงีบไปเจ้าน้องชายสุดหล่อ(อิอิ) เขาโทรมารายงานว่าได้คุยกับอาจารย์ไม่รู้ว่าไปเจอกันที่เวปไหน โอ้โห..ทิพหายไปพักใหญ่ เจ้าน้องชาย ว่าที..ดร. แอบ มาจีบ อาจารย์ "คุณนาย ดร. " ของทิพเสียแล้วนี่ 5555 เป็นไงคะ เจ้าน้องชายเจ้าพ่ออุดมการณ์คนนี้ มีแววนักพูด นักเขียน นักบรรยาย เก่ง ๆ ได้แบบอาจารย์บ้างไหมคะ

เป็นอย่างไรบ้างคะ อาจารย์คงจะสบายดีแน่เลย อ่านหลาย ๆ เรื่องที่อาจารย์เขียน ดุมีความสุขจังเลยค่ะ ยิ่งเรื่องนี้ด้วยแล้ว ทิพสนใจมากเลยค่ะ เห็นมีงานเลี้ยงที่ "อยุธยาบุรีเทวี" อยู่ตรงไหนของอยุยาเหรอคะ เป็นพิพิธภัณฑ์อะไรเหรอคะ เห็นว่าเป็นผลงานของคนข้างกายอาจารย์ ทิพเองก็ชอบและสนใจใน ศิลปะ วัฒนธรรมของ อยุธยาอยู่มาก ๆ เลยค่ะ เมื่อครั้งก่อนได้มีโอกาสไปบริการติด Internet ให้ที่บ้านคุณลลิสา และมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณลลิสา ก็ได้เห็นพิพิธภัณฑ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นที่ปากท่า เป็นพิพิธภัณฑ์ ด้านจิตกรรม และปฏิมากรรม ก้เป็นศิลปะ อีกแขนงที่น่าสนใจ แต่ทีทิพชอบ และสนใจมาก ๆ ก็คงเป็นด้านศิลปะ การดนตรี นาฎศิลป์ และการแสดงพื้นบ้าน ของอยุธยาค่ะ เห็นจากภาพ บรรยากาศสวยมากเลยค่ะ บริเวณด้าหน้า น่าจะเป็นเกาะ คุ้น ๆ ตาจังเลยค่ะ แต่นึกไม่ออกว่าตรงไหน ไม่ทราบว่าทิพจะพอมีบุญได้ไปเที่ยวบ้างไหมคะเนี่ย (แอบจีบไว้ก่อน55)

ทิพต้องขอกราบอภัยอาจารย์ และฝากกราบอภัยคนข้างกายของอาจารย์ไว้ล่วงหน้าก่อนนะคะ สำหรับสิ่งที่ทิพจะพูดต่อไปนี้ เพราะทิพไม่ได้รู้จักทั้งอาจารย์และคนข้างกายอาจารย์เป็นการส่วนตัว ทิพไม่ทราบเจตนารมย์ของคนข้างกายอาจารย์ว่าท่านศึกษาศิลปะวัฒนธรรมด้านใด แบบใด ทิพเพียงจะขอฝากฝัง "อยธยา" บ้านเมืองอันเป็นที่รักของทิพไว้ ว่า "ในฐานะที่เป็นคนอยุธยาแท้คนหนึ่ง ซึ่งเท่าที่ทราบคนข้างกายอาจารย์ก็เป็นคนอยุธยาโดยกำเนิด เช่นกัน ซึ่งทิพเชื่อ และมีความรู้สึก (หรือคิดไปเองก้ไม่รู้)ว่า การที่ได้เกิดเป็นคนอยุธยา เช่นทิพและคนข้างกายอาจารย์ หรือการที่ได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องผูกพัน จนได้มาสร้างหลักปักฐานในอยุธยา เช่นอาจารย์ น่าจะเป็นเพราะชาติหนึ่ง ชาติใด เราคงเคยเป็นคนของกรุงศรีอโยธยา แห่งนี้ ความผูกพัน ความรักในบ้านเกิดเมืองนอน เป็นสายโยงให้เราได้มาเกิด ได้มาอยู่ ได้มาพบเจอ กันในที่นี้อีก ตามวัฏจักรแห่งการเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์โลก ทิพรักอยธยา รักในศิลปะ ต่าง ๆ ที่เป็นของดั้งเดิมของไทย เคยใฝ่ฝันอยากทำอะไรเพื่อให้ความสวยงามของอยุธยากลับคืนมา แต่มันเป็นเพียงความฝัน เพราะเราไม่มีโอกาส ไม่มีทุน ไม่มีพวกพ้องที่จะช่วยผลักดันให้ฝันเกิดเป็นความจริง แต่ ณ บัดนี้ ได้มีกลุ่มคนที่มีความพร้อมที่จะศึกษา และอนุรักษ์ เกิดขึ้นมาแล้ว ทิพดีใจค่ะ ที่มีคนเห็นค่า เห็นความสำคัญของอยุธยา ถึงจะเป็นเพียงกล่มหนึ่งเท่านั้นก็ตาม แต่อยากฝากไว้ว่า ทิพอยากให้อนุรักษ์ให้เป็นแบบของไทยอยุธยา โดยแท้ ทิพไม่อยากเห็นการปรุงแต่ง ผสมผสานศิลปะ อื่น ๆ เข้ามาปน ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม ควรอนุรักษ์ แต่หากเป็นประเพณีที่ไม่สามารถนำมาใช้ได้ในปัจจุบัน ก็ควรเพียงแค่ศึกษา และบันทึกไว้ให้รุ่นหลานได้ศึกษาต่อ

ณ วันนี้ อยุธยากำลังกลายพันธุ์ เป็นเมืองอุตสาหกรรมมากขึ้นทุกวัน ๆ ไม่เว้นแต่แม่น้ำป่าสัก ละแวก ปากท่า ที่เคยสงบ ร่มรื่น นับวันความโกลาหล เริ่มเพิ่มมากขึ้น แต่ก่อนมีเพียงเรือสินค้า เล็ก ๆ ที่เป็นเรือไม่ หรือที่เรียกว่าเรือกระแชง วิ่งผ่าน เดี๋ยวนี้เป็นเรือเหล็กลำใหญ่โต เรือน้ำมันคับแม่น้ำ มีโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มีท่าลงสินค้าผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดใกล้บ้านขึ้นมาทุกที มีคลังน้ำมันขนาดใหญ่ขึ้นริมฝั่งน้ำ และอีกไม่นาน ก้จะมีหน่วยงานกรมเจ้าท่าเกิดขึ้นอีก สายน้ำที่เคยสงบ กำลังจะกลายเป็นเมืองที่ใหญ่ขึ้น สับสนขึ้น ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ความเป็นอยู่ของคนริมฝั่งแม่น้ำป่าสัก(ใต้เขื่อนพระรามหก) เปลี่ยนแปลงไปโดยหมดสิ้น หากไม่มีคนช่วยกันอนุรักษ์ดั่งกลุ่มกัลยานมิตรคนข้างกายอาจารย์แล้ว อีกไม่นานนัก "อยุธยา" ก็คงกลายเป็นตำนานที่ไม่มีใครพูดถึงอีกต่อไป

ทิพหวังว่า คงจะมีโอกาสได้ไปกราบสวัสดี ทั้งอาจารย์และคนข้างกายอาจารย์สักวันนะคะ และที่สำคัญอยากมีโอกาสได้ไปเยี่ยชม "อยุธยาบุรีเทีวี" บ้างนะคะ ขอให้เส้นอาจารย์ ด้วยนะคะ อิอิ

คุณนู๋ทิพ หายไปนาน พอมาก็มีเรื่องในใจคุยยาวเลยนะคะ^_____^

อยุธยาบุรีเทวีอยู่บนสายน้ำป่าสักฝั่งที่เยื้องกับวัดช่องลมค่ะ

พี่คิดว่าความผูกพันรักในวัฒนธรรมอยากจรรโลงไว้เป็นเรื่องดี แต่วัฒนธรรมก็ตกอยู่ภายใต้กฎธรรมชาติเช่นสิ่งอื่นๆค่ะ คือไม่สามารถดำรงอยู่เช่นนั้นได้ ต้องมีการปรับตัว เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคม เศรษฐกิจ ความก้าวหน้าวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม  หากเราไม่เข้าใจตรงนี้ เราจะไม่สามารถมีความสุขกับการทำงานวัฒนธรรม เพราะเราก็จะไปยึดติดกับอดีตมากเกินไป หากเราศึกษาวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้งเราก็จะพบว่าวัฒนธรรมก็คือการใช้ชีวิตของคนในยุคสมัยหนึ่งๆ

ศิลปวัฒนธรรมประเพณีหากเราเข้าใจที่มา เข้าใจราก เราจะมองเห็นที่ไป เราจะสามารถคลี่คลาย เชื่อมโยงกับโลกยุคปัจจุบันได้อย่างมีความหมาย ไม่ใช่หยิบมาใช้เพียงแค่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเท่านั้น

การจะรักษาชุมชนให้มีความสุขสงบเอิบอาบไปด้วยวัฒนธรรมของตนเอง คนแต่ละคนมีหน้าที่ต้องช่วยกัน องค์กรท้องถิ่นและโรงเรียนต้องเข้ามามีส่วนช่วย ให้การพัฒนานั้นเป็นการงอกงามจากรากของตนเอง แต่พี่ว่าท่าทางคนสมัยนี้ส่วนใหญ่ทนความเย้ายวนใจของกระแสบริโภคนิยม วัตถุนิยมไม่ไหวนะคะ

 

พี่นุชสุดสวาทบาดใจขา มาชมธรรมชาติอีกแล้วค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท