เรื่องเล่าระหว่างวันที่ ๑๗ - ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๓


 

๒๒  พฤษภาคม  ๒๕๕๓

เรียน  เพื่อนครูและผู้บริหารที่รักทุกท่าน

วันจันทร์ที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓  ตื่นเช้าที่โรงแรมแกรนด์ปาร์ค ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช หลังจากที่เดินทางมาถึงเมื่อวานตอน ๓ ทุ่ม โดยสารการบินนกแอร์  พร้อมทีมงานรวม ๙ คน เพื่อติดตามผลการดำเนินงานพัฒนาเครือข่ายส่งเสริมวินัยและนิติการส่วนภูมิภาค ของ สพฐ.  จุดอบรมภาคใต้จัดที่นครศรีธรรมราชระหว่างวันที่ ๑๗ – ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ลงไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม ตั้งใจจะทานอาหารพื้นบ้านจำพวกข้าวยำ แกงเหลือง หรือแกงคั่วเผ็ดก็ต้องผิดหวัง ไม่มีบริการ จึงเลือกกาแฟและขนมปัง  พิธีเปิดได้เชิญ ผอ.สพท.นครศรีธรรมราช เขต ๑ คุณวันชัย  พงษา เป็นประธาน จากเดิมที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจะมาเป็นประธาน แต่เกิดวิกฤติการณ์ความวุ่นวายในกรุงเทพฯ จึงไม่สามารถเดินทางมาเปิดประชุมได้  เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ใน สพฐ. ก็ต้องอยู่แก้ปัญหาในส่วนกลาง  หลังพิธีเปิดผมนำทีมงานอีก ๒ ท่าน คือท่านรองฯลั่นฤทธิ์ วิเศษศักดิ์ จาก สพท.กทม. เขต ๑ และท่านสาโรจน์  บุตรเนียร นิติกรชำนาญการพิเศษ สพท.กทม.เขต ๒ ขึ้นชี้แจงรายละเอียดในการจัดตั้งเครือข่ายส่งเสริมวินัยและนิติการ และรายละเอียดหลักสูตรการอบรม เที่ยงไปทานอาหารร่วมกับวิทยากรอดีตรองเลขาธิการ กพฐ. ท่านเฉลย  พูนสวน  นับเป็นอาหารใต้มื้อถูกใจมื้อแรก มีแกงส้มหัวปลากะพงเป็นตัวชูโรง  บ่ายเดินทางไปคารวะศพคุณแม่ของท่าน ดร.สมเกียรติ  ชอบผล รองเลขาธิการ กพฐ. ที่วัดมะนาวหวาน  อำเภอฉวาง  ใช้ทางลัดผ่านอำเภอลานสกา เส้นทางขึ้น ๆ ลง ๆ เนินเขาไปตลอด ทิวทัศน์สวยงาม ร่มรื่นไปด้วยสวนผลไม้สองข้างทาง มีร้านจำหน่ายให้เห็นเป็นระยะ ๆ ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมงก็ถึงวัด  ท่านรองฯสมเกียรติ กลับไปปฏิบัติราชการที่กรุงเทพฯ จึงไม่ได้พบกัน  ขากลับฝนตกตลอดทาง อากาศจึงเย็นลงมาก  ถึงโรงแรมนั่งฟังท่านรองฯเสน่ห์ ขาวโต ที่เพิ่งเดินทางมาถึงบรรยายภารกิจด้านกฎหมายของ สพฐ.ให้ผู้เข้าประชุมฟัง หลังอาหารเย็นนั่งฟังท่านเฉลย พูนสวน บรรยายเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายจน ๒ ทุ่ม  กลับขึ้นติดตามสถานการณ์บ้านเมืองจากทีวีจนดึก จึงพักผ่อน

 

วันอังคารที่ ๑๘  พฤษภาคม ๒๕๕๓  ตื่นประมาณตี ๕ จัดกระเป๋าเดินทางและสัมภาระจนพร้อม ลงไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรมตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น. ลาทีมงานที่ต้องอยู่จัดอบรมที่จุดนี้อีกสองวัน รถตู้ของ สพท.นครศรีธรรมราช เขต ๑ไปส่งที่สนามบินนครศรีธรรมราชพร้อมกับคณะ  ใช้บริการของสายการบินนกแอร์กลับกรุงเทพฯไปลงที่ดอนเมืองเหมือนขามา  สภาพอากาศแปรปรวนบ้างเพราะมีเมฆมากแต่ก็เป็นเรื่องปกติ ใช้เวลาเพียง ๔๕ นาทีก็ถึงที่หมาย  รถตู้จาก สพท.ปทุมธานี เขต ๑ เต้ยและท่านรองฯครรชิต  หิรัณยหาด มาคอยรับเพื่อไปส่งต่อที่สนามบินสุวรรณภูมิ พยายามเลี่ยงเส้นทางที่มีการต่อสู้รุนแรงเข้าไปเอาเอกสารสำหรับแจกผู้เข้าอบรมที่ สพท.กทม.เขต ๑ ตรงพญาไทเยื้องโรงพยาบาลสงฆ์  ทุกอย่างดูเงียบจนเย็นวาบถึงไขสันหลัง มีเพียงกลุ่มมอเตอไซด์รับจ้างกลุ่มใหญ่จอดรถอยู่ใต้สะพานข้ามแยกพญาไท กรุงเทพฯวันนี้น่ากลัว  รถข้ามทางรถไฟแล้วเลี้ยวซ้ายไปขึ้นทางด่วนตรงด่านยมราช พอผ่านประตูน้ำก็เห็นควันไฟพวยพุ่งหนาทึบ รถก็ติดไปจนถึงทางลงพระราม ๙ คงไม่มีใครกล้าใช้เส้นทางปกติ ด้านล่าง จึงขึ้นมาใช้ทางด่วน พอพ้นด้านพระราม ๙  จึงเคลื่อนตัวได้เร็ว ได้ตัดสินใจสั่งการเรื่องงบประมาณSp2 ที่ สพฐ. มอบให้จัดจ้างทำสื่อ ICT วงเงิน ๒๕ ล้านบาท เพราะทีมการเงินเขาดูแล้วจะเป็นการเสี่ยงเกิน ประกอบกับบางเขตได้ส่งคืนงบประมาณยอดนี้ จึงขอให้ท่านรองฯครรชิต หิรัณยหาด ผู้รักษาราชการแทนไปตั้งกรรมการขึ้นมาพิจารณา เสียงข้างมากว่าอย่างไรก็ให้ปฏิบัติตามนั้น ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ดูเงียบเหงาวังเวง Check in เดินเข้าไปนั่งคอยที่ประตูขึ้นเครื่องที่ ๖ นั่งดูข่าวคนไทยเผาบ้านเผาเมืองจากทีวีต่างประเทศ นึกถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาแตก เมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๐ เพราะคนไทยแตกสามัคคี ได้เวลาเครื่องของการบินไทยนำพวกเราถึงสนามบินขอนแก่น ใช้เวลาประมาณ ๔๐ นาที คณะจาก สพท.ขอนแก่น เขต ๑ นำรถมารับ ไปแวะทานข้าวกลางวันซึ่งช้าไปจนบ่ายสองโมง ที่ร้านอาหารอีสานรสดั้งเดิมในห้องแอร์ มีไก่ย่างเขาสวนกวาง ซุปหน่อไม้ ส้มตำ ไส้กรอกอีสานให้ทานด้วย  เข้าพักที่โรงแรมพูลแมน(Pullman Hotel) สถานที่จัดอบรม เลยห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลสาขาขอนแก่นไม่มากนัก ใกล้ ๆ มีห้างตึกคอม ศูนย์จำหน่ายคอมพิวเตอร์ใหญ่ที่สุดในภาคอีสานอยู่ใกล้ ๆ ตั้งใจว่าหากมีเวลาจะแวะไปดูสักหน่อย   ห้องพักชั้นที่ ๙ สะอาดสะดวกสบายมองเห็นทิวทัศน์เมืองขอนแก่นด้านตะวันตกจนสุดสายตา  เวลา ๑๕.๓๐ น. ลงไปเป็นประธานประชุมทีมงานทั้งที่ไปจากกรุงเทพฯและขอนแก่นเพื่อซักซ้อมความพร้อมในการอบรม ใช้เวลาประมาณ ๔๕ นาทีก็รู้เรื่อง  เย็นป้าต๋อย คุณสุพรรัตน์  แสงมาลี  หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่นและนายอำเภอกระนวน คุณวรทัศน์  ธุลีจันทร์ (ท่านทู) มารับไปทานข้าวเย็นที่ร้านอาหารจีน ด้วยเป็นเพื่อนร่วมรุ่น นปส. รุ่นที่ ๕๓ พวกเราใช้เวลาไม่นานนักเพราะต่างคนต่างมีภาระการแก้ปัญหาผู้ชุมนุมที่ตึงเครียด  ป้าต๋อยพานั่งรถชมบึงแก่นนคร ๑ รอบ แล้วส่งกลับมาโรงแรมติดตามเหตุการณ์ในกรุงเทพฯจนดึก

 

วันพุธที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓  เช้าพิธีเปิดอบรมเพื่อพัฒนาเครือข่ายส่งเสริมวินัยและนิติการส่วนภูมิภาค ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่โรงแรมพูลแมน ก่อนถึงเวลาผมได้รับโทรศัพท์จากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายปรีชา บุตรศรี ท่านได้แจ้งสถานการณ์การชุมนุมให้ทราบและให้ผมตัดสินใจในเรื่องการสั่งให้โรงเรียนหยุดการเรียนการสอน ขณะเดียวกันก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้ปกครองนักเรียน ครอบครัวของครูว่าจะตัดสินใจอย่างไรในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างนี้ เพื่อให้ผู้ปกครองไม่กังวลถึงบุตรหลานที่มาโรงเรียน และฝ่ายบ้านเมืองไม่ห่วงหน้าพะวงหลังในการแก้ไขสถานการณ์ จึงประสานไปยังท่านรองฯ ครรชิต หิรัณยหาด ที่รักษาราชการแทนอยู่ สั่งปิดการเรียนการสอนโรงเรียนทั้งของรัฐและเอกชน ๓ วัน ระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓  ทั้งนี้ได้ประสานไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต ๒ ท่านจำรูญ  พรมสุวรรณ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงการดำเนินการของเขต ๑ ท่านก็ตัดสินใจในทางเดียวกัน วันนี้ท่านเลขาธิการ กพฐ. ดร.ชินภัทร ภูมิรัตนได้นัดหมาย ผอ.สพท. ไปหารือข้อราชการที่ สพฐ. ผมได้มอบให้ท่านรองฯ ชรินทร์ นุ่มแสงและคุณทรงเดช ขุนแท้ ไปแทน ฟังดูสถานการณ์แล้วเป็นห่วงความปลอดภัยทั้งของนายและลูกน้อง  ทำให้คิดถึงอดีตเลขาธิการ กพฐ. คุณหญิงกษมา  รวรรณ ณ อยุธยา เพราะบ้านอยู่ซอยต้นสนใกล้จุดชุมนุมย่านสีลม จึงโทรศัพท์ไปสอบถาม ท่านบอกว่าไม่ได้อยู่บ้านออกมาแล้วขณะนี้อยู่ที่เมืองจีน ก็เบาใจ พิธีเปิดมี ผอ.สพท.ขอนแก่น เขต ๑ นายสุริยน วะสมบัติ เป็นประธาน จากนั้นผมและทีมงาน คือ ท่านรองฯลั่นฤทธิ์  วิเศษศักดิ์ และคุณสาโรจน์  เนียรบุตร ขึ้นชี้แจงโครงสร้างของเครือข่ายและหลักสูตรที่จะอบรมตลอดทั้ง ๓ วัน บ่ายสถานการณ์การชุมนุมเริ่มรุนแรง มีการเผาศาลากลางจังหวัดขอนแก่น  ป้าต๋อย คุณสุพรรัตน์  แสงมาลี โทร.มาบอกว่ามารับไปทานข้าวไม่ได้เพราะต้องอยู่แก้สถานการณ์ บอกไปว่าไม่ต้องห่วงขอให้ระวังตัวให้ปลอดภัย  กลับขึ้นไปยืนดูควันไฟที่ลอยดำทึบขึ้นมาจากศาลากลางจังหวัด ข่าวแจ้งว่าถูกเผาทั้งหลังเก่าหลังใหม่  พร้อมอุดรธานี  มุกดาหาร และอุบลราชธานี  บ่ายนั่งฟังวิทยากรและติดตามข่าวจากเน็ตออนไลน์บนโทรศัพท์ ประมาณ ๑๖ นาฬิกาผู้ชุมนุมบุกเผาสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง ๑๑ มูลค่า ๑๒๐๐ ล้านบาท และกลุ่มที่เดินทางไปบ้านอดีตรัฐมนตรีสังกัดพรรคภูมิใจไทยถูกยิงเสียชีวิต ๒ ราย  การอบรมเป็นไปตามตารางท่านเฉลย  พูนสวน บรรยายถึง ๒ ทุ่ม กลับขึ้นไปตามข่าวจากทีวีจนดึกเป็นคืนที่สอง    

 

วันพฤหัสบดีที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๓  เช้าลงไปทานกาแฟที่ห้องอาหารของโรงแรม  นั่งคุยกับท่านเฉลย พูนสวน ที่จะเดินทางต่อไปประชุมกลุ่มพัฒนาชีวิตครูที่จังหวัดร้อยเอ็ด อิ่มแล้วขึ้นไปนั่งฟังวิทยากรบรรยายเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับคดีทางปกครองในภาคเช้า จากท่านคม  บูรณศิลป์ ตุลาการศาลปกครองขอนแก่น อดีตข้าราชการสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดปทุมธานี   บ่ายเป็นเรื่องการทำสำนวนการสอบสวนจากตุลาการศาลปกครองกลาง    เย็นอาจารย์อุดม  จากสำนักงาน ก.ค.ศ. บรรยายเรื่องการกำหนดมาตรฐานโทษ แต่ต้องลงมาประชุมกันที่ผับชั้นใต้ดินของโรงแรม เพราะห้องประชุมชั้น ๒ ทางโรงแรมขอคืนพื้นที่ไปจัดงานแต่ง หลังเลิกบรรยายเขาจัดงานเลี้ยงต่อเนื่องไป ไม่ได้อยู่ร่วมขึ้นไปตามข่าวสารบ้านเมืองและเก็บของลงกระเป๋า พรุ่งนี้จะกลับกรุงเทพฯ

 วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553  เช้าทานข้าวแล้วไปฟังวิทยากรบรรยายเรื่องการอุทธรณ์และการร้องทุกข์ทั้งของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ ก่อนเที่ยงเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม รถของสพท.ขอนแก่น เขต ๑ ไปส่งสนามบิน เครื่องออกจากขอนแก่นประมาณ ๑๔ นาฬิกา ใช้เวลาเพียง ๔๐ นาทีถึงสนามบินสุวรรณภูมิ  รถที่เขตมารับ ให้แวะไปส่งทีมงานที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้เห็นร่องรอยความเสียหายของห้างเซ็นเตอร์วัน กลับเข้าสำนักงานเพื่อติดตามงานตอนไม่อยู่ ทุกอย่างเรียบร้อยดีจึงเดินทางกลับบ้านพักผ่อน

วันเสาร์ที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓  ออกจากบ้าน ๐๙.๓๐ น. ให้เต้ยไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีเวลาค่อนข้างมากได้เดินชมร้าน Duty free ในสนามบิน แต่บรรยากาศเหงา ๆ เครื่องแอร์บัสออกเที่ยงครึ่ง ผู้โดยสารเบาบางมาก ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมงก็ถึงสนามบินเชียงใหม่ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำเอารถตู้ไปรับ เพราะใช้โรงแรมนี้ เป็นจุดอบรมของภาคเหนือ  เวลา ๑๕.๓๐ น.ประชุมทีมงานเพื่อเตรียมความพร้อม เย็นเหมารถสองแถวไปทานอาหารพื้นบ้านที่ร้านแกงร้อน-บ้านสวนริมคลองชลประทาน  มีแกงฮังเลหมู ลาบคั่วพื้นเมือง แกงอ่อมปลาเนื้ออ่อน ไส้ฮั้ว ฯลฯ  อิ่มแล้วกลับมาพักผ่อนที่ห้องพัก จะอยู่เชียงใหม่ถึงวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๓

ก่อนลาสัปดาห์นี้นำเพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยามาฝากเป็นข้อคิดเตือนใจ

จะกล่าวถึงกรุงศรีอยุธยา
เป็น กรุงรัตนราชพระศาสนา       มหาดิเรกอันเลิศล้น
เป็นที่ปรากฏรจนา                   สรรเสริญอยุธยาทุกแห่งหน
ทุกบุรีสีมามณฑล                   จบสกลลูกค้าวานิช
ทุกประเทศสิบสองภาษา          ย่อมมาพึ่งกรุงศรีอยุธยาเป็นอัคคนิษฐ์
ประชาราษฎร์ปราศจากภัยพิศม์ ทั้งความพิกลจริตแลความทุกข์
ฝ่ายองค์พระบรมราชา             ครองขันธสีมาเป็นสุข
ด้วยพระกฤษฎีกาทำนุก           จึงอยู่เย็นเป็นสุขสวัสดี
เป็นที่อาศัยแก่มนุษย์ในใต้หล้า เป็นที่อาศัยแก่เทวาทุกราศี
ทุกนิกรนรชนมนตรี                คหบดีพราหมณพฤฒา
ประดุจดั่งศาลาอาศัย              ดั่งหนึ่งร่มพระไทรอันสาขา
ประดุจหนึ่งแม่น้ำพระคงคา       เป็นที่สิเนหาเมื่อกันดาร
ด้วยพระเดชเดชาอานุภาพ       อาจปราบไพรีทุกทิศาน
ทุกประเทศเขตขันธบันดาล      แต่งเครื่องบรรณาการมานอบนบ
กรุงศรีอยุธยานั้นสมบูรณ์         เพิ่มพูนด้วยพระเกียรติยศขจรจบ
อุดมบรมสุขทั้งแผ่นภพ           จนคำรบศักราชได้สองพัน
คราทีนั้นฝูงสัตว์ทั้งหลาย         จะเกิดความอันตรายเป็นแม่นมั่น
ด้วยพระมหากษัตริย์มิได้ทรงทศพิธราช ธรรม์ จึงเกิดเข็ญเป็นมหัศจรรย์สิบหกประการ
คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพท     อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศาน
มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาล      เกิดนิมิตพิสดารทุกบ้านเมือง
พระคงคาจะแดงเดือดดั่งเลือดนก อกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง
ผีป่าก็จะวิ่งเข้าสิงเมือง             ผีเมืองนั้นจะออกไปอยู่ไพร
พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนี         พระกาลกุลีจะเข้ามาเป็นไส้
พระธรณีจะตีอกไห้                 อกพระกาลจะไหม้อยู่เกรียมกรม
ในลักษณะทำนายไว้บ่อห่อนผิด เมื่อวินิศพิศดูก็เห็นสม
มิใช่เทศกาลร้อนก็ร้อนระงม      มิใช่เทศกาลฝนฝนก็อุบัติ
ทุกต้นไม้หย่อมหญ้าสารพัด      เกิดวิบัตินานาทั่วสากล
เทวดาซึ่งรักษาพระศาสนา        จะรักษาแต่คนฝ่ายอกุศล
สัปรุษจะแพ้แก่ทรชน              มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก
ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว              คนชั่วจะมล้างผู้มีศักดิ์
ลูกศิษย์จะสู้ครูนัก                  จะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย
ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจ             นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย
กระเบื้อง จะเฟื่องฟูลอย            น้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม
ผู้มีตระกูล จะสูญเผ่า                เพราะจัณฑาลมันเข้ามาเสพสม
ผู้มีศิลนั้นจะเสีย ซึ่งอารมณ์        เพราะสมัครสมาคมด้วยมารยา
พระมหากษัตริย์จะเสื่อม สิงหนาท ประเทศราชจะเสื่อมซึ่งยศถา
อาสัจจะเลื่องลือชา                 พระธรรมาจะตกลึกลับ
ผู้กล้าจะเสื่อมใจหาญ              จะสาบสูญวิชาการทั้งปวงสรรพ
ผู้มีสินจะถอยจากทรัพย์           สัปรุษจะอับซึ่งน้ำใจ
ทั้งอยุศฆ์จะถอยเคลื่อนจากเดือนปี ประเวณีจะแปรปรวนตามวิสัย
ทั้งพืชแผ่นดินจะผ่อนไป           ผลหมากรากไม้จะถอยรส
ทั้งแพทย์พรรณว่านยาก็อาเพด   เคยเป็นคุณวิเศษก็เสื่อมหมด
จวงจันทร์พรรณไม้อันหอมรส     จะถอยถดไปตามประเพณี
ทั้งเข้าก็จะยากหมากจะแพง       สารพันจะแห้งแล้งเป็นถ้วนถี่
จะบังเกิดทรพิษมิคสัญญี           ฝูงผีจะวิ่งเข้าปลอมคน
กรุงประเทศราชธานี                 จะเกิดการกุลีทุกแห่งหน
จะอ้างว้างอกใจทั้งไพร่พล         จะสาละวนทั่วโลกหญิงชาย
จะร้อนอกสมณาประชาราษฎร์    จะเกิดเข็ญเป็นอุบาทว์นั้นมากหลาย
จะรบราฆ่าฟันกันวุ่นวาย            ฝูงคนจะล้มตายลงเป็นเบือ
ทางน้ำก็จะแห้งเป็นทางบก         เวียงวังจะรกเป็นป่าเสือ
แต่สิงห์สาระสัตว์เนื้อเบื้อ           นั้นจะหลงเหลือในแผ่นดิน
ทั้งผู้คนสารพัดสัตว์ทั้งหลาย       จะสาบสูญล้มตายเสียหมดสิ้น
ด้วยพระกาลจะมาผลาญแผ่นดิน จะสูญสิ้นการณรงค์สงคราม
กรุงศรีอยุธยาจะสูญแล้ว           จะลับรัศมีแก้วเจ้าทั้งสาม
ไปจบคำรบปีเดือนคืนยาม         จะสิ้นนามศักราชห้าพัน
กรุงศรีอยุธยาเขษมสุข             แสนสนุกยิ่งล้ำเมืองสวรรค์
จะเป็นเมืองแพศยาอาธรรม์        นับวันจะเสื่อมสูญ เอย

กำจัด  คงหนู

ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต ๑

หมายเลขบันทึก: 360725เขียนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2010 22:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
ผู้บริหารระดับล่าง

ความขัดแย้งทางการเมืองครั้งนี้ ก้าวเข้าสู่รั้วโรงเรียนด้วย ไม่น่าเชื่อว่าครูผู้มีหน้าที่อบรมสั่งสอนให้นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม กลับไม่ใช้เหตุผลในการวิจารณ์ความขัดแย้ง ครั้งนี้ แม้แต่ครูก็แบ่งสี ทำให้มีความวิตกว่าจะเป็นปัญหาเรื่องความสามัคคีในโรงเรียนในอนาคตอันใกล้นี้หรือเปล่าหนอ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท