การสลายม็อบ แบบ บ้านๆ (๒)


เป็นวิธีการคืนสู่สามัญ

  เล่าเรื่องต่อจากบันทึกที่แล้ว

 หลังจากผู้เขียนกลับจากจุดฉีดวัคซีน ซึ่งจบสิ้นไปแล้ว เข้ามาอีกด้านหนึ่ง ที่ผู้ป่วยมารับการรักษา ก็พบว่า ผู้คนยังมีจำนวนมาก แพทย์ได้เดินทางกลับไปแล้ว ทิ้งไว้แต่ผู้ที่รอรับยา มีเภสัชกร และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเหลืออยู่สองคน เวลานั้นคนที่กลับจากจุดฉีดวัคซีน ก็เข้ามาสมทบอีก กลายเป็นม็อบกลุ่มใหญ่ ที่ต่างก็ส่งเสียงสื่อถึงความต้องการของตน บ้างก็สอบถามว่ามีการเรียกตนข้ามคิวไปหรือเปล่า บ้างก็สอบถามว่า เมื่อไหร่จะได้ยา บางคนคิดว่าตนรอนานเกินไปกว่าทุกครั้ง ก็เข้ามาขอตรวจดูว่า เราเอาใบสั่งยาไปหลงอยู่ที่ไหนหรือไม่ และต่างๆนาๆ

  ส่วนเจ้าหน้าที่ ก็ต้องทำงานไป ตอบคำถามไป บางครั้งก็ลุกขึ้นไปหยิบโน่น ดูนี่ให้ ดูจอแจไปทุกจุด ผู้เขียนเองกำลังคิดว่า เราคาดการผิดใช่ไหม หวังจะบูรณาการงาน แต่กลับกลายเป็นบูรณาการปัญหาเข้าด้วยกัน หลายประการ

 ยิ่งสาย ก็ยิ่งวุ่นวาย

ผู้เขียนจึงตัดสินใจ ต้องสลายม็อบ ที่กำลังเรียกร้องกันอยู่นี้ ให้อยู่ในความสงบ และรับฟังเรื่องราว กับปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมๆกันก่อน

  เนื่องจากมีคนนั่งอยู่หลายจุดในบริเวณนั้น ผู้เขียนจึงนำตัวเอง ออกไปพูดคุยในแต่ละจุด ไม่ได้คิดจะกระชับวงล้อม ให้เขามานั่งฟังผู้เขียน ณ จุดเดียวกัน ซึ่งจะเป็นการสร้างความอึดอัด และคงมีคนรับฟังผู้เขียนน้อยลง

 จุดแรกนั่งเก้าอี้รออยู่ชั้นนอก กลุ่มนี้รู้สึกว่าจะไม่ค่อยต่อว่าอะไรมากนัก คุยกันเองเสียงไม่ดัง ขณะที่อีกจุดหนึ่ง นั่งชั้นในห้องและกดดันตรวจสอบ โดยเฉพาะถ้าเห็นคิวต่อจากตัวเองได้รับยาก่อน จะโวยวายว่าแซงคิวเป็นต้น

  ผู้เขียนเลือกที่จะไปจุดที่มีปัญหาเบาบางก่อน ไม่ได้ใช้เครื่องขยายเสียง พูดคุยแบบธรรมดาๆ สอบถามสารทุกข์สุขดิบ การเจ็บป่วยของเขา และขออภัยในการให้บริการ ที่ไม่สะดวกรวดเร็วเหมือนครั้งก่อนๆ แล้วยังพูดคุยถึงสิ่งแวดล้อม โรคภัยไข้เจ็บ การดูแลตนเองและคนในครอบครัว เน้นความเป็นกันเอง และยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่นานคนกลุ่มนี้ ก็หัวเราะอารมณ์ดีขึ้นและฟังด้วยความตั้งใจ

 ในขณะเดียวกัน ผู้เขียนก็สังเกตเห็นว่า กลุ่มชั้นใน ซึ่งฟังการสนทนาของผู้เขียนไม่ถนัดนัก แต่เห็นมีเสียงหัวเราะ สนุกสนาน ก็เริ่มมองๆอย่างสนใจ แต่ก็ไม่ได้ออกมาสมทบ ยังรักษาพื้นที่เอาไว้ ยังกังวลว่าจะได้รับยาช้าเหมือนเดิม

  ผู้เขียนขอตัวกลุ่มแรก แล้วเข้ามาพูดคุยกับกลุ่มที่สอง ซึ่งนั่งรออย่างเคร่งๆ เหมือนจะไม่ได้สนใจสิ่งอื่นใด นอกจากเรื่องที่ตนรอคอยกันอยู่ แต่เมื่อผู้เขียนลงไปนั่งกับพื้นข้างๆเขา เขาก็หันกลับมามอง ผู้เขียนก็คุยอย่างอารมณ์ดี ว่าขอโทษที่ทำให้เกิดความล่าช้า และเสียเวลาไปมาก เล่าเป็นเชิงรู้สึกผิด ที่นำบริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 มาฉีดวันนี้ จึงทำให้คนมาที่นี่มากมาย แต่ก็ด้วยความปรารถนาดีต่อชาวบ้าน ที่ไม่ต้องเดินทางไปถึงโรงพยาบาล วันนี้ก็เป็นวันที่เหนื่อยที่สุดของเจ้าหน้าที่ทุกคนด้วย และชี้ชวนให้เขาดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าไม่ได้หยุดมือเลย เช้านี้พวกเขาไม่ทันได้กินข้าว ก็รีบลงมาเจาะเลือดพวกเราก่อน แม้คนไข้บางคนจะเอาของมาฝาก ก็ยังไม่มีใครมีเวลา แกะขนมกินสักคน มันยุ่ง มันวุ่นวายแบบที่เห็น

  คนไข้รับยาไม่เท่ากัน บางคนน้อยชนิดกว่า จึงจัดเสร็จก่อน ก็เรียกมารับ คนที่ได้รับชัากว่าไปบ้าง เพราะต้องจัดยาหลายตัว เลยดูเหมือนถูกแซงคิว แต่พวกเราก็ตั้งใจจะจัดให้เสร็จภายในวันนี้แหละ ไม่ต้องมีใครตกค้าง มารับวันหน้าเลย

 เมื่อสักครู่เห็นเบอร์คนไข้เลขที่ 90 และถ้าแต่ละคนรับยาเฉลี่ย คนละ 5 ชนิด นั่นแสดงว่า เราต้องเขียนชื่อยา 450 ชื่อ พิมพ์ใบสั่งยาและติดซองยา 450 อัน อธิบายยา 450 ชนิด 450 ครั้ง ให้ทุกคนเข้าใจวิธีกินยา ไม่ได้ปล่อยให้ทุกคนรับยากลับบ้าน แบบไม่ได้ดูแลเลย

  ถ้าเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เรามองเห็นอยู่นี้ เป็นลูกเป็นหลานเรา เราจะสงสารเขาไหม

พวกเขาเองถ้าไม่รักชาวบ้าน ไม่รักงานที่นี่ ก็คงย้ายไปทำงานโรงพยาบาลเอกชน ที่มีคนไข้น้อย ไม่เหนื่อย รายได้ค่าตอบแทนก็สูง แต่ทุกคนก็ไม่ไป อยากอยู่กับคนที่นี่ อยากดูแลคนที่นี่

 

 

 ขอให้เวลาระหว่างรอคอยนี้ ให้นึกว่ากำลังดูลูกหลานกำลังทำงานอยู่ ใครชอบใจคนไหน จะเป็นลูกสาว หรือลูกชายก็ตามสบาย ดูด้วยความเมตตาสงสาร ไม่กดดัน ไม่นานกระแสความรู้สึกที่ดีต่อกัน ก็จะทำให้เขาทำงานอย่างมีกำลังใจ มีสมาธิเพิ่มขึ้น แล้วเราก็จะได้กลับบ้าน ในเวลาอันใกล้นี้ พวกเขาและเราก็จะได้กินข้าวกลางวันพร้อมกัน เมื่อเสร็จงาน

  ก่อนที่ผู้เขียนจะยิ้มอำลาม็อบกลุ่มนั้น ได้ยินเสียงยายคนหนึ่งคุยกันกัน และชี้ไปที่เจ้าหน้าที่ และว่าหมอคนนั้นแนะนำเรื่องยาดีนะ เขาเป็นลูกชายฉันก็แล้วกัน

   ค่ะ จบเรื่องจริง ที่นำมาบันทึกเล่าสู่กันฟัง เป็นการสลายม็อบแบบบ้านๆ ที่ไม่ได้มีหลักการอะไรมากมาย ไม่ต้องใช้เครื่องมือหรืออำนาจใดๆให้ยุ่งยากลำบากใจ เป็นวิธีการคืนสู่สามัญ ที่เข้าถึงใจ เข้าถึงธรรมชาติ ที่ใช้ความอดทน และเมตตากรุณาเป็นหลัก ก็ทำให้สถานการผ่านพ้นไปด้วยดี และความสุขใจ ก็จะกลับคืนสู่ทุกคนอีกครั้งค่ะ

 

 

หมายเลขบันทึก: 359832เขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม 2010 13:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ฮั่นแน่ เจอผู้เชี่ยวชาญการสลายม็อบตัวยง แล้ว ซูฮกเลยค่ะพี่รุ่ง ;)

มิน่าล่ะคะพี่รุ่ง เห็นที่อื่น จนท. หาวแล้ว ง่วงอีก แต่ที่นี่มีแขกเยอะเลย

สงสัยจะติดใจงานบริการด้วยหัวใจ สลายแล้วเสร็จกินข้าวพร้อมกันด้วย

 

  • ธุ  คุณหมอรุ่งค่ะ..

มาดูการสลายม็อบค่ะ ^^  และขอชื่นชม ตลอดจนเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกคนนะคะ  ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างไม่นำพาต่อความเหน็ดเหนื่อย

เป็นกำลังใจให้นะคะ  ^^

สวัสดีค่ะคุณpoo

พี่รุ่งก็ชวนคุยเรื่องสนุกๆให้ได้ผ่อนคลายกันไป

ไม่เช่นนั้นพอได้ยินคำว่า ม็อบก็จะเครียดกัน

แต่ที่สุดเหตุการณ์เครียดกว่าก็เกิดขึ้นจนได้

ขอให้มีความสุขกาย สุขใจทุกขณะนะคะ

สวัสดีค่ะคุณเนปาลี

ขอบคุณค่ะ

ทุกวันนี้งานดุมากมาย

ยิ่งเปลี่ยนเจ้ากระทรวง นโยบายก็มีมาใหม่เรื่อยๆ

ตามสภาพค่ะ

หวังว่าสักวัน จะได้ทำเรื่องที่ถูกใจบ้าง

แต่เมื่อไหร่...?

คิดถึงนะคะ ขอบคุณที่มาเยี่ยมค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท