เรื่องเล่าจากคนใกล้ชิด…(ประธานชมรมฯ )
จุดเริ่มต้น
มณีรัตน์ อวยสวัสดิ์
กลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัว รพ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา
เมื่อนึกย้อนไปเมื่อปลายปี 2547 ดูเหมือนไม่นานเท่าไร ได้รับคำชวนจากพี่ประธานชมรมฯ ก็คือหัวหน้าเราเอง ว่าชมรมพยาบาลโรงพยาบาลชุมชนจะจัดประชุมวิชาการใหญ่ที่รร.แอมบาสเดอร์ งานนี้มีการนำเสนองานวิจัยเชิงคุณภาพ พี่อยากให้ไปช่วย แล้วก็ไปรับฟังด้วย เผื่อได้อะไรใหม่ๆ เรารีบรับปากทันที ( ประเภทขุนอาสาอยู่แล้ว ) ชอบที่จะช่วยเหลืองานแล้วยังได้ความรู้ที่น่าสนใจ ความคิดตอนนั้นก็จะเหมือนพี่เหมียว ( ขออนุญาตเอ่ยนาม ) งานวิจัย…เป็นอะไรที่ยากมากๆ เราก็จบมาหลายสิบปี ได้ช่วยเค้าทำบ้าง แต่ไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ก็เลยไม่ซีเรียสมาก งานนี้ตั้งใจจะไปรับความรู้เต็มที่เลย วันแรกที่ไปถึงรร.แอมบาสเดอร์ ได้โทรฯหาหัวหน้า เพราะเราตามไปทีหลัง พี่ๆเค้ามาก่อนเพื่อเตรียมงาน ถึงห้องประชุมขนาดเล็กที่เป็นสถานที่เตรียมงาน ภาพที่เห็นครั้งแรกประทับใจมากทุกคนขะมักเขม้นช่วยกันคนละไม้คนละมือ กลุ่มที่เตรียมนำเสนอก็จะซ้อมการนำเสนอให้อาจารย์ดูและComment อีกกลุ่มก็จัดแจงเอกสาร เตรียมกระเป๋า มีฝีไม้ลายมือหน่อยก็ไปจัดบอร์ด เราก้าวเข้าไปก็รู้สึกอบอุ่น คุ้นเคย ทั้งที่เพิ่งเข้ามาครั้งแรก อาจเป็นเพราะหลายๆคนในที่นั่นเรารู้จักดี อาจารย์ปู่เองเราก็เคยเข้าอบรมด้วยหลายครั้ง อาจารย์นิวัต อาจารย์สมมาตรและทีมโคราช ทำให้เราไม่ค่อยกังวลใจเท่าไร ก็ได้ช่วยหยิบจับงานที่พอจะช่วยได้ พี่อ้อยก็ให้เข้าช่วยในกลุ่มลงทะเบียน ทุกคนได้รับมอบหมายหน้าที่เสร็จสรรพ์
เมื่อถึงวันงานทีมช่วยกันดีมากเป็นภาพที่ประทับใจ ทุกคนมาเตรียมกันแต่เช้า นี่ถ้าไม่มาเห็นกับตาตัวเองเราก็คงไม่รู้ว่าพยาบาลโรงพยาบาลชุมชนของเรามีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันดีมาก ( ไม่ได้ชมแต่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ) ในวันนั้นมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 800 คน ห้องประชุมขนาดใหญ่แคบไปถนัดตา และแล้วดอกไม้บานของสูงเนิน ก็ได้มาบานในยามเช้า ณ ที่แห่งนี้ หัวหน้ามอบหมายให้เราและพี่อีก 2-3 คน ขึ้นไปนำบนเวที รู้สึกตื่นเต้น นี่ขนาดไม่ใช่มานำเสนองานวิจัยน่ะเนี่ย..... ได้ฟังผู้นำเสนอผลงานวิจัยชิ้นแล้วชิ้นเล่า ก็ได้แต่ชื่นชมอยู่ในใจบวกกับความอิจฉาเล็กๆว่า ทีมโคราชมานำเสนอตั้งหลายโรงพยาบาล น่าจะมีของเราบ้างน่ะ เกิดแรงบันดาลใจอยากจะทำงานวิจัยขึ้นมาทันที ( ตอนนั้นลืมความคิดที่ว่างานวิจัย ยากมากๆ ไปเลย ) เราน่าจะทำได้ ยิ่งอ่านเล่าสู่กันฟังของพี่เหมียว แหม! พี่เค้ามีอุปสรรคมากกว่าเราพี่เค้ายังทำได้ เรานะมีโอกาสอยู่แค่เอื้อม จะไม่ไขว้คว้ามาเชียวหรือ หลังจากการประชุมวิชาการจบลง ขณะที่นั่งรถตู้กลับโคราช สังเกตสีหน้าของหัวหน้าและพี่อ้อย เป็นปลื้มที่การประชุมครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยไปได้ไม่น้อย เราก็เลยบอกหัวหน้าว่า ปีหน้าจะขอทำงานวิจัยเชิงคุณภาพสักเรื่อง เข้าล๊อค ! ( ไม่รู้ว่าหัวหน้าคิดไว้แล้วรึเปล่า ...) เท่านั้นแหละชื่อเราก็อยู่ในแผนTraining Need ของหน่วยงานไปแล้ว
ก้าวแรกกับงานวิจัยเชิงคุณภาพ
กุมภาพันธ์ 2548 ที่ โคราชรีสอร์ท เป็นการเข้าอบรมครั้งแรก ของรุ่นที่ 2 เหมือนกับนักเรียนใหม่ ทุกอย่างใหม่หมด เพื่อนใหม่จากทั่วสารทิศ เหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก ผู้ซึ่งมีใจมุ่งหวังอยากจะทำงานวิจัยเชิงคุณภาพ เพราะหลายคนไปฟังที่รร.แอมบาสเดอร์ มาแล้ว ( เราจำได้ โดยเฉพาะคุณอู่ ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ) ที่บอกเหมือนการมาเรียนเพราะเราต้องเรียนกันตั้งแต่เช้า ไม่ใช่ถึงเย็นแต่ดึกเลยคะ ก็ไม่เครียดเท่าไร มารู้สึกเล็กน้อยตอนแนะนำตัว หลายคนจบปริญญาโท คิดในใจ ต๊าย!เราจะทันเพื่อนไหมเนี๊ยะ กลัวพูดกับพี่ๆน้องๆไม่รู้เรื่อง เราก็เลยจะฟังแล้วคิดตามเป็นส่วนใหญ่ ใจยังสู้
พอได้ยินอาจารย์บอกว่าการทำวิจัยเชิงคุณภาพจะต่างจากการทำวิจัยเชิงปริมาณ แม้จะเรียนปริญญาโทมาแล้วก็เหมือนกับต้อนั่งมาเรียนรู้ใหม่ร่วมกัน เรารู้สึกดีขึ้นมานิดนึง ... แล้วในครั้งแรกเราก็ได้เรียนรู้
อะไรต่างๆมากมายในเนื้อหาและแนวการสอนขออาจารย์ปู่ที่เราคุ้นเคย บรรยากาศสบายๆ ปูผ้าปูที่นอนไว้ ใครเมื่อยอยากนอนฟังก็อนุญาตให้นอนได้ ( แต่อย่านอนกรนเสียงดังรบกวนเพื่อน ) เพื่อนหลายคนก็ไม่อยากจะเชื่อถาม อาจารย์ให้เอาหมอนมานอนได้จริงเหรอ ? แปลกดี ช่วงเวลาเพียงไม่กี่วัน อาจารย์ พี่ยาและพี่อ้อย ก็ทำให้ทุกคนคุ้นเคยกันเหมือนอยู่ด้วยกันมานาน ได้ฝึกได้เรียนรู้ร่วมกัน ครั้งต่อไปเราก็ต้องแยกกันเป็น 2 ทีม ซึ่งอาจารย์ได้เลือกไว้เป็นสนามฝึกภาคปฏิบัติ ภาคเหนือ พื้นที่ของรพ.แม่สรวย จ.เชียงราย ภาคใต้ พื้นที่ของรพ.ปากน้ำหลังสวน จ.ชุมพร แต่ละทีมก็จะคละกันแล้วแต่ความสมัครใจแล้วก็มาถึงถึงช่วงที่จะปิดเทอม ก่อนจากกันมีพิธีปิดที่น่าประทับใจที่ทุกคนจะไม่มีวันลืมเลย
แม่สรวย เชียงรายรำลึก
เราร่วมเดินทางไปกับพี่ยา พี่อ้อย อาจารย์นิวัติ และพี่ๆอีก 2-3 คน วันแรกที่ไปถึงเป็นช่วงที่อากาศเย็นมากเสื้อผ้าที่เตรียมไปคิดว่าพอ แต่ก็ได้ไปซื้อเพิ่มอีกจนได้หลังจากที่ได้ไปเดินช๊อปปิ้งตลาดเช้า เพราะหลังจากนี้ก็คงไม่ได้ไปเดินช๊อปปิ้งที่ไหนอีก ต้องฝึกการเก็บข้อมูลอย่างเต็มที่ สิ่งที่น่าประทับใจ ( มากๆ ) ที่ไม่อาจจะลืมได้ลงกับบรรยากาศที่พัก เชียงราย คันทรี ฮิลล์ ( เพื่อนๆ พี่ๆ คงจำได้ดีเช่นกัน ) เหมือนเปิดเทอมที่ 2 ทุกคนดีใจที่ได้มาพบกันอีกแม้จะไม่ทั้งหมด เพราะมาทีมเหนือทีมเดียว ในครั้งนี้เราได้เรียนรู้เพิ่มขึ้นอีกStep แต่ที่เหมือนกันคือ เรียนเช้า เลิกดึกเหมือนเดิมแต่ทุกคนก็ไม่ย้อท้อ เพราะพี่ใหญ่เราทั้ง 2 รวมทั้งทีมเจ้าภาพ ตุนอาหารไว้เลี้ยงพวกเราเต็มที่
ลงฝึกสัมภาษณ์ในพื้นที่ ไปกันเป็นทีม งานนี้เจ้าภาพเหนื่อยหน่อยนะคะ เพราะต้องประสาน
งานทุกอย่าง ของชื่นชมพี่ต้อย พี่ติ๋มและทีม แข็งขันช่วยเหลือกันดีมากคะ ทีมเราก็จะจับคู่กัน เปลี่ยนกันสัมภาษณ์ และจดบันทึก ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างแต่ก็จดมาจนหมด แล้วมาหาล่ามแปลทีหลัง มีเรื่องสนุกสนานมาเล่าสู่กันฟังก็หายเหนื่อย งานนี้มีเพื่อนๆหลายคนรวมทั้งอาจารย์...ต้องปรับตัวไปเป็นวัยรุ่นเพื่อให้กลมกลืน สมจริงสมจัง แต่ได้ข้อมูลเด็ดๆมาก็คุ้มค่า ข้อมูลที่ได้เมื่อนำมาประมวลกันแล้ว
งานช้างเลยล่ะ แต่อาจารย์ให้ทีมแม่สรวยทำตัวปกติยังไม่ต้องทำอะไรหลังจากทีมนักวิจัยทั้งหลายกลับไปแล้ว ( ดร.สมหมายเคยพูดติดตลกว่า..ทีมนักวิจัยไปที่ไหนแล้วมักจะเกิดความร้าวฉานขึ้นที่นั่น..พูดออกสำเนียงใต้ด้วยนะ ) ถึงจะเหน็ดเหนื่อยแต่ทีมเราทุกคนก็มีความภูมิใจหลังเสร็จภารกิจในครั้งนี้
พบกันอีกครั้งที่ปากช่อง
ยิ่งรู้สึกว่าทุกคนคุ้นเคยกันมากขึ้น งานนี้มีผู้ติดตามมากันหลายคน ให้รู้ไปเลยว่าเป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพกันจริง ๆ แบบทำกันทั้งครอบครัว สามี ลูก เอามาช่วยกันหมด ขนNote Book มากันเพียบ
ในครั้งนี้มาพบกันทั้ง 2 ทีม เหนือ – ใต้ วิถีสุรา ปะทะ วิถีเค็มมัน อะไรจะเกิดขึ้น ....เป็นการนำข้อมูล
ที่รวบรวมมาวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมExcel การใส่ Code การเขียน Statement Ouatation ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยการอ่านมากๆ อ่านแล้วอ่านอีก ทีมต้องช่วยกันดู เพราะข้อมูลที่ได้มาเยอะมาก เรียนเช้า เลิกไม่ดึกคะแต่บางคนเกือบสว่าง ทุกคนช่วยกันเต็มที่ ความสะดวกสบายไม่ต้องห่วงพี่ยา พี่อ้อยดูแลอย่างดี แล้วเราต้องกลับไปพบกันอีกครั้งที่เชียงราย ( ทีม 1 )
จากข้อมูลที่ได้...สู่ชุมชน
กลับมาเชียงรายอีกครั้งคราวนี้ไม่ได้ไปแม่สรวยแต่พักอยู่ที่โรงแรมในตัวเมือง ในครั้งนี้ต้องนำข้อมูลที่ได้คืนให้กับชุมชน เพื่อนำไปหาแนวทางแก้ไขร่วมกันจากหลายๆส่วนที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะถึงช่วงนั้นเราก็ต้องเรียนกันอีกมาก เรียนไปฝึกทำไป รวมถึงการเตรียมPower Point นำเสนอข้อมูลอาจารย์จะมีเทคนิคต่างๆที่แนะนำเราในการนำเสนอซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้
แม้ทุกคนเหน็ดเหนื่อยจากการเตรียมงาน แต่อาจารย์ก็ใจดีให้ไปผ่อนคลาย ใช้เงินในกระเป๋า
ซะบ้าง หลายคนถึงกับต้องซื้อถุงสายรุ้งใส่ของ เพราะเพลิดเพลินไปหน่อยน่ะ แหล่งละลายทรัพย์มันเยอะ เช้าวันงานเพื่อนทุกคนขะมักเขม้นช่วยเหลือทีมแม่สรวย เป็นอย่างดี ตามที่ได้รับมอบหมาย แบ่งหน้าที่กันไป บรรยากาศเป็นไปด้วยดีแขกที่มาร่วมรับฟังให้ความสนใจ พวกเราก็ช่วยกันลุ้นเอาใจช่วยพี่ต้อยเต็มที่ จบการนำเสนอเสียงปรบมือดัง หลังจากนั้นได้แบ่งกลุ่มร่วมระดมความคิดในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ทุกอย่างเสร็จสิ้นลงด้วยดีทำให้เราทุกคน....ค่อยโล่งใจ...หลังจากนี้ไปแล้วซินะที่เราต้องรีบไปดำเนินการในส่วนของงานวิจัยของเราเอง........
นำเสนอความก้าวหน้างานวิจัย
ห่างเหินกันไปนานกว่าทุกครั้งเพราะพี่ยา พี่อ้อยให้โอกาสไปทำงานวิจัยของตัวเอง หลายคนมาพร้อมกับความกังวลใจเพราะทำได้มากน้อยต่างกัน รวมทั้งเราด้วย จากภาระงานที่โรงพยาบาลที่ทุกคนก็คงเยอะเหมือนกัน แต่ก็พยายามทำเจอปัญหาอุปสรรคบ้าง เมื่อถึงเวลาที่อาจารย์ให้นำเสนอทุกคนก็สามารถที่จะนำเสนอออกมาได้ทุกโครงการว่าเราทำได้ถึงไหน ซึ่งอาจารย์ก็ไม่ได้ว่าอะไร จะแบ่งห้องนำเสนอโดยมีอาจารย์ช่วยแนะนำ เราทุกคนก็ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน ตรงไหนผิดก็นำไปปรับปรุงแก้ไขซึ่งในครั้งนี้แล้วซิที่เราจะไม่ได้มาเข้าClass แบบนี้อีกแล้ว อาจารย์ท่านได้แนะนำการเตรียมพร้อมที่จะนำเสนอในเวทีการประชุมวิชาการใหญ่ในปลายเดือนตุลาคม...จะเป็นการโชว์ผลงานที่เราได้พยายามทำมาอย่างเต็มความสามารถ ......กับความภาคภูมิใจเมื่อถึงวันนั้น
ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
1.นพ.ทวีศักดิ์ นพเกษร
2.อ.นิวัต อุณฑะพันธ์
3.คุณจรรยาวัฒน์ ทับจันทร์
4.คุณรุจิวรรณ สอนสมภาร
ไม่มีความเห็น