บันทึกจากคนไกล
ผมจำได้ว่าในวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ก่อน เสธ. แดง ถึงแก่กรรม ก่อน นทช.(...คำผรุสวาท...)ทักษิณ ขอให้ UN เข้ามาไกล่เกลี่ย ผมเขียนความเห็นผมเอาไว้ว่า
...ก่อนไปทำงานต่อ /มีความคิดในใจอยากแรกเปลี่ยนอย่างนี้ครับ ด้วยความเคารพต่อทุกท่านและทุกความเห็น
๑ ผมไม่ปฏิเสธว่าผมเคยชื่นชมฝ่ายเสื่อเหลืองในการออกมาปกป้องรัฐธรรมนูญจากการพยายามแก้ไขเพื่อช่วย นักโทษชายทักษิณตอนนั้นใช้ตรรกะเพียงอย่างเดียว คือ สถานการณ์ไม่ปกติต้องใช้วิธีไม่ปกติ เผด็จการรัฐสภาต้องใช้มวลชนข้างถนนเข้าแก้ไข
แต่ปัจจุบัน ผมเอง เริ่มมองตรงกันข้างกับความคิดก่อนหน้านี้
๒ คงต้องยอมรับว่าระบอบประชาธิปไตยแบบบ้านเรา ประเทศไทยที่รักยิ่งนั้น เป็นประชาธิปไตยแต่เพียงเปลือกนอก ยังมีระบบอุปถัมภ์เจืออยู่มาก ทั้งโดยอำนาจที่มองไม่เห็น (องคมนตรี สถาบันอื่นๆ? ผมตอบไม่ได้เพราะยังไม่ได้ศึกษา) และอำนาจการเมือง โดยเฉพาะช่วงนักโทษชายทักษิณ คนคนนี้ได้ พยายามสร้างฐานอำนาจและสร้างระบบอุปถัมภ์โดยเอาตัวเอง ครอบครัว และพรรคพวกขึ้นมาเป็นศูนย์กลาง และสูบเลือดจากคนชั้นกลาง ไปสร้างฐานเสียงของตนเอง โดยอ้างว่าเป็นเงินของตนเอง และแก้ไขกฎหมายเพื่อประโยชน์ของตัวเอง นั้นเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ขยะแขยงและเป็นตัวอย่างที่ ไม่ดี
๓ ปัจจุบันผมเริ่มมองอย่างเห็นด้วยกับแนวความคิดเห็นบางแนวว่า การแก้ไขความล้มเหลวของกลไกลรัฐสภาไทย โดยใช้การปฏิวัติ ได้พิสูจน์ตัวมันเองแล้ว ว่า ใช่ไม่ได้อีกต่อไป และเป็นต้นทุนที่สังคมไทยนี้ต้องเสียสูงมาก เพราะจะดีจะร้าย นักโทษชายทักษิณมาจากระบบ ต้องใช้ระบบเป็นตัวแก้ เพื่อให้เราสังคมไทยทั้งหมดรู้ถึงความล้มเหลวของระบบและแก้ไขระบบร่วมกัน เพื่อให้เราพัฒนาไปพร้อมๆ กัน ถ้าวันนั้น ทหารไม่ปฏิวัติ และนักโทษชายทักษิณสั่งปราบการชุมนุมของเสื้อเหลืองจริงๆ ผมว่า ทักษิณก็อยู่ไม่ได้
๔ แต่ประวัติศาสตร์ ไม่มีคำว่า "ถ้า" เพราะทุกอย่างมันเกิดไปแล้ว ปัญหา คือเราจะทำอย่างไรสังคมไทยจะเดินต่อไปด้วยกันได้ อย่างที่มีการพัฒนาทางการเมืองร่วมกันจากทุกฝ่าย โดยที่เราไม่ต้องมาฆ่ากันอีก ใจนึง ผมแค้นคนที่ไปข่มขู่หมอและพยาบาล และถึงกับขู่จะล่วงละเมิดทางเพศ กับบุคคลากรทางการแพทย์ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย แต่อีกความเห็นในตัวผมเองก็บอกว่ามันคงเป็นทางที่ลดการสูญเสียให้เหลือน้อยที่สุด นั้นเป็นเหตุผลที่ผมบอกว่า ผมยอมรับวาทะกรรมเสื้อแดงเรื่องของความไม่เท่าเทียมในสังคม แต่ผมไม่ยอมรับวิธีการที่เสื้อแดงใช้ แบบที่เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น มันน่ารังเกียจ การใช้กำลังบุกตรวจค้นทรัพย์สินของคนอื่น อันถือเป็นการล่วงละเมิดสิทธิผู้อื่นโดยชัดแจ้งและร้ายแรง
๕ ขณะเดียวกันผมก็ไม่ยอมรับ แนวความเห็นที่ว่าจะต้องปราบปรามเสื้อแดงอย่างรุนแรง ผมเห็นเพียงว่าต้องทำตามที่กฎหมายกำหนด แต่ผมเข้าใจสถานการณ์ของคุณอภิสิทธิ์ดีว่า การถูกลายล้อมไปด้วย ทหารแตงโม และตำรวจมะเขือเทศเป็นอย่างไร มันก็เป็นวาทะกรรมเดียวกับที่คนเสื้อแดงพยายามบอกว่า แกนนำคุมมอบไม่ได้ นั่นเอง ฉันใดก็ฉันนั้น ต่างกันเล็กน้อยที่ว่า แกนนำเสื้อแดงคุมคนไม่ได้ เลยเกิดความรุนแรง ในขณะที่รัฐบาลคุมเจ้าหน้าที่ไม่ได้ เลยไม่มีใครปราบผู้ก่อความรุนแรง แต่ผลเสียที่เหมือนกัน คือ ประชาชนต้องเดือดร้อน ในขณะที่เราทุกคนต้องจ่ายภาษี เป็นค่าจ้างให้ความชั่วช้าสองรูปแบบในสังคมไทยเกิดขึ้น
๖ ผมไม่เห็นด้วย และไม่ยอมรับกับเสื้อเหลืองในเรื่องของ สว. (วุฒิสมาชิก)แบบแต่งตั้งร้อยละ70 และมองว่าเสื้อเหลือง เอาสถาบันมาเล่นมาเกิน และ เป็นอีกด้านของระบบอุปถัมภ์ และเป็นต้นแบบการสาดโคลนทางการเมืองอย่าง ไม่ลืมหูลืมตาของเสื้อแดงเหมือนกัน นั่นเป็นเหตุผมที่ผมประกาศตัวว่า ไม่ใช่เสื้อเหลือง ในปัจจุบัน ขณะเดียวกันผมก็ไม่ใช่เสื้อแดง แต่ต้องยอมรับกันว่า ในตอนที่เสื้อเหลืองชุมนุมนั้น เมื่อมีคำสั่งศาลให้เปิดถนนบริเวณ โรงเรียนราชวินิต เสื้อเหลืองก็ทำตามนะ ที่ต่างกับเสื้อแดง คือส่วนนี้ และตอนที่มีการชุมนุม คนบาดเจ็บมากกว่านี้ โดยเฉพาะประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่มีใครได้รับอันตรายเลย
๗ ผมเห็นกับความคิดว่าเราต้องเลิกตั้งแง่กัน และรวมกันพัฒนาบ้านเมืองต่อไป โดยแกนนำทั้งสองฝ่าย ถ้าคุณเป็นคนจริง คุณต้องเสียสละยอมรับโทษ เพื่อให้ระบบเป็นระบบ แบบท่านมหาตมะคานธี
นี่เป็นจุดต่างของท่านมหาตมะคานธี และคนที่พยายามเอาตัวไปเทียบอย่างนักโทษชายทักษิณ ท่านมหาตมะคานธียอมเข้าคุก ออกคุกเป็นว่าเล่นในขณะที่ท่านอายุเกิน60 แล้ว ท่านยอมรับว่า สิ่งที่ท่านทำมันขัดกฎหมาย ท่านยอมรับโทษเพื่อรักษาระบบ แต่ท่านไม่เลิกวิธีการต่อสู้ แบบอหิงสาขนานแท้ และนั่นเป็นเหตุให้อังกฤษมหาอำนาจใหญ่พ่ายแพ้ ในขณะที่นักโทษชายทักษิณ จ่ายเงินก่อความรำคาญ และตัวเองไปเสวยสุขต่างประเทศ...
๘ ผมยอมรับวาทะกรรมเฉพาะเรื่องวาทะกรรมการสร้างความเท่าเทียมกันในสังคมของเสื้อแดง เรื่องเดียว แต่ไม่เห็นด้วยเรื่องการนำทักษิณกลับมา และการนำกลุ่มคน บ้านเลขที่ 111 กลับมา และผมเห็นด้วยกับรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ว่าเราต้องน่วมกันปฏิรูปประเทศ และสร้างระบบใหม่ โดยผมเห็นว่าเราต้องสร้างภาคประชาชนให้เข้มแข็งมากที่สุดพอที่จะควบคุมภารการเมืองได้ แต่ผมเองก็ยังไม่มีข้อเสนอแนวทางการสร้างภาคประชาชนที่ชัดเจน ผมอยากให้ทุกท่านไม่ว่าเสื้อสีใดเข้ามาเสนอแนะด้วยครับ...
๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓
ผมเขียนเอาไว้ว่า
ในใจหนึ่ง ผมรู้ว่าวันสอบผมใกล้เข้ามาทุกที อีกใจ ผมก็ห่วงที่บ้าน แต่เราทำอะไรไม่ได้ ได้แต่โทรศัพท์คุย
วันนี้เป็นวันที่ สี่นับแต่เสธ.แดงถูกยิง ผมรู้แต่ว่ามีการปะทะกันระหว่างกลุ่มเสื้อแดงและทหารซึ่งทำตามหน้าที่ ภาพจาก BBCออกมาดูน่ากลัวมาก ประเทศไทยที่เคยเป็นบ้านที่รักของพวกเรามันหายไป กลุ่มคนเสื้อแดงก็ยังมาเรียกร้องความชอบธรรมโดยไม่ฟังเหตุผลของประชาชนทั้งหมด ที่น่าเกลียดและขยะแขยงมากกว่านั้น นทช.(...คำผรุสวาท...)ทักษิณ กลับเรียกร้องให้UN เข้ามาไกล่เกลี่ย (...คำผรุสวาท...) เลวไม่มีคำบรรยาย และไม่เคยยอมรับว่าตนเองอยู่เบื้องหลังความรุนแรงและความวุ่นวายครั้งนี้
สื่อต่างชาติก็ประโคมข่าวกันเข้าไป....
ที่นี่ผมหมดหวัง อยากกลับบ้าน แต่ อาจารย์ และพี่ๆ หลายคนบอกว่า มันไม่มีประโยชน์ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดก็ดีแล้ว ต้องขอบคุณท่านทั้งหลาย ผมชอบพูดว่าให้เอาธรรมะมาใช้ แต่ ผมสอบตกวิชาธรรมะนี้เอง มันคงเป็นอย่างที่ท่านอาจารย์พันธุ์ทิพย์พูดไว้ มันเป็นกรรมร่วมกันของประเทศชาติ ผมเองก็ยังทำหน้าที่ได้ไม่ดีที่สุดเลย
ในอีกใจ ผมเซงตัวเอง ความรู้เรียนมาทำ(ห่..) อะไรวะ(...คำผรุสวาท...) ใช้ทำ(...คำผรุสวาท...) อะไรก็ไม่ได้ อีกใจ ก็โกรธตัวเอง เสือกทำอะไรอยู่ใกล้สอบแล้ว
ผมได้แต่หวังว่าผมจะทำอะไรให้ประเทศไทยที่รักของพวกเราได้บ้าง ผมคิดว่าทั้งหลายทั้งปวงมาจากโครงสร้างที่บิดเบี้ยวของสังคมที่พวกเราร่วมกันสร้างขึ้นมาโดนไม่แก้ไข วันนี้ผลของมันแสดงออกมาแล้ว
เราต้องร่วมกันสร้างสังคมที่ดีเพื่อพวกเราทุกคน ถ้าเราไม่ร่วมกันทำ เราก็อยู่ไม่ได้ ความเลวร้ายของสังคมไทยที่ผ่านมา คือการปล่อย และเพิกเฉยให้สิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้น เมื่อมันแสดงผล เราจะโทษใคร...
ปล. ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียทุกฝ่าย ทุกคน แต่ที่แน่ๆ แกนนำที่มีบทบาทจริงๆ ไม่เคยตาย (เสธ แดง เป็นเพียงข้อยกเว้น ที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อให้เกิดความรุนแรงในสังคม)
เป็นกำัลังใจให้อาจารย์คับ ผมก็ติดตามเหตุการณ์บ้านเมืองบ้าง ก็พยายามจับต้นชนปลายอยู่ แต่ไม่ค่อยถูกเลย เพราะต่างฝ่ายก็พูด ประโยชน์เข้าตัวเอง คิดไปคิดมาก็ปวดหัวมากครับ ีท่พิษณุโลก ก็มีเช่นกันครับ ม็อบนะครับ ข้างสถานีรถไฟ พิษณุโลก ก็มีเต้น เสื้อแดง ตรง หอนาฬิกา ก็มีเสื้อหลากสี แต่ทั้ง 2 ที่ มีจำนวนไม่มากนะครับ ก็ขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาเจอหน้า ปะทะกัน
ขอให้อาจารย์มีสุขภาพแข็งแรง และเขียน blog ดีๆ มาร่วมกัน share ประสบการณ์บ่อยๆนะครับ ขอบคุณครับ
ตอนนี้ผมได้แต่ภาวนา ขอให้เหตุการณ์ยุติโดยเร็ว ตอนนี้ในใจผมไม่สนว่าฝ่ายไหนจะชนะหรือแพ้
ทหารจะใช้กำลังรุนแรงหรือไม่ เพราะตอนนี้เหตุการณ์บานปลายจนบ้านเมืองลุกเป็นไฟแล้ว
ฝ่ายเสื้อแดงก็มีทั้งอาวุธ ระเบิด ซึ่งทางทหารจะใช้กำลังก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรมากมาย
ผมสงสารชาวบ้านที่อยู่ในระแวงนั้น ที่ต้องเดือดร้อน ต้องอพยพไปอยู่ที่อื่น เพียงเพราะกลุ่มผู้ก่อการร้าย
ที่หวังแต่ประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น
ช่วยกันทำหน้าที่ของพวกเราให้ดีที่สุดนะครับ ครูก็หวังว่าเหตุการณ์มันจะจบไวๆนี้ และเราคงได้ทราบเหตุการณ์ที่แท้จริงที่ไม่มีการบิดเบือน ครูขอส่งใจไปช่วยทหารที่ทำหน้าที่ ครูเชื่อว่าไม่มีใครเห็นด้วยกับการฆ่า เว้น แต่คนที่จะได้ประโยชน์จากเหตุการณ์ อย่างไรก็ตามสังคมไทยบางส่วนยังไหลไปตามกลุ่มคนที่พยายามสร้างวาทกรรมว่าทหารใช้ความรุนแรง โดยไม่ดูว่าตนเองก็มีส่วนในความรุนแรงเช่นกัน
หลังจากเหตุการณ์จบ พวกเราต้องช่วยกันสร้างสังคมที่ดีขึ้น มันไม่ใช่แค่เพื่อตัวเราแต่เพื่อคนรุ่นๆ ต่อไป ที่จะมายืนอยู่บนประเทศที่เรารักนี้ ครูยังยืนยันคำพูดเดิมเหมือนเมื่อพวกเธอกำลังจะจบ รุ่นเธอเป็นรุ่นที่จะก่อร่างสร้างบ้านของพวกเราทุกคนต้อไป เรามีความรับผิดชอบร่วมกันต่อสังคมไทย
ครูอยู่ทางนี้ก็จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ
รักและปรารถณาดี
หนูอยากให้มียาวิเศษที่ช่วยเยียวยาคนในประเทศไทยของเราให้สงบสุขอีกครั้ง แต่ซึ่งมันก็คงเป็นหนทางที่ยากมาก หากไม่หันหน้าคุยกัน (ขนาดหันหน้าคุยกันแล้วก็ยังไม่เป็นผล) เพราะต่างคนก็ต่างมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป ถึงแม้ว่าจะถูกจะผิด ก็มีสิทธิ์ที่จะคิดแบบตามที่จิตใจคิด เช่น เรารู้ว่าคนที่เรารักทำผิดเราก็ยังเข้าข้างเค้า ทั้งๆที่รู้ว่ามันผิด อย่างดีก็คงทำได้แค่ "ตักเตือน" แต่ก็ยังรักและศรัทธาเหมือนเดิม เพราะเพียงแค่คำว่า "ศรัทธา" อยู่ในตัว ไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดนี้ได้ เพราะทุกคนไม่ใช่เด็กกันแต่เป็นผู้ใหญ่ เด็กยังสอนง่าย กว่าที่สอนผู้ใหญ่บางคน ^^ แต่มีคนบอกกับหนูว่า "เราต้องอยู่อย่างมีความหวัง" สักวันคงจะกลับมาเป็น "สยามเมืองยิ้ม" เหมือนเดิม ไม่ใช่ที่เป็นอยู่แบบ "สยามร่ำไห้" เฉกเช่นในวันนี้
ขอบคุณค่ะอาจารย์