เตือนระวัง “อหิวาต์” คืนชีพ หวั่นระบาดหนัก เผยต้นปี '53 ป่วยแล้ว 530 ราย
![]() |
![]() |
|
|
![]() |
สำนักระบาดฯ ห่วงอหิวาตกโรคระบาดรุนแรง หลังพบแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นกว่าทุกปี ยกระดับเฝ้าระวังเข้ม แจ้งเตือนทั่วประเทศป้องกันควบคุมโรคกันระบาดเป็นวงกว้าง เผย 3 เดือนแรก ปี 2553 พบผู้ป่วย 530 ราย รวมผู้ป่วยมากว่า ปี 2552 ทั้งปี เสียชีวิต 2 คนเท่ากัน
นพ.ภาสกร อัครเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์ 6 โรคสำคัญในกลุ่มโรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำ ในปี 2553 พบว่า สถานการณ์โรคอหิวาตกโรค มีแนวโน้มสูงมากกว่าทุกๆปี ทั้งนี้ตั้งแต่ 1 มกราคม - 4 พฤษภาคม พบผู้ป่วย 531 ราย ใน 15 จังหวัด และเสียชีวิต 2 ราย เป็นผู้ป่วยคนไทย 509 คน พม่า 18 ราย กัมพูชา 4 ราย และเมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันในปี 2552 และย้อนหลัง 5ปี พบว่ามีผู้ป่วยสูงเพิ่มขึ้น โดยในปี 2552 มีผู้ป่วย 315 ราย เสียชีวิต 2 ราย เท่ากับในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้มีผู้ป่วยมากกว่าปี 2552 ตลอดทั้งปี
นพ.ภาสกร กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ขยายวงกว้างพบผู้ป่วยโรคอหิวาตกโรคเพิ่มใน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น และ ตาก จากเดิมที่พบการระบาดในจังหวัดปัตตานี และระยอง ซึ่งจากการสืบสวนโรค พบว่า สาเหตุที่สำคัญเนื่องมาจากการรับประทานอาหารที่ไม่สุกสะอาด โดยเฉพาะการรับประทานอาหารประเภทยำ อาหารทะเล รวมถึงช่วงนี้ประชาชนมีการเคลื่อนย้ายเดินทางตลอดเวลาและมีการจัดเลี้ยง อาหาร ซึ่งถือว่าอาหารทุกชนิดมีโอกาสเสี่ยงต่อการทำให้เกิดอหิวาตกโรคได้
“ขณะ นี้ สำนักระบาดฯ ได้จับตาเฝ้าระวังอย่างหนัก และอาจต้องยกระดับการเฝ้าระวังดูแลเพิ่มขึ้น และเตรียมที่รายงานสถานการณ์ของโรคเพื่อเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณา เพิ่มมาตรการในการดูแลควบคุมและป้องกันโรคไม่ให้การระบาดขยายเป็นวงกว้าง โดยได้แจ้งเตือนไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการระบาดให้เร่งสอบสวนโรคโดยเร็ว ให้ความรู้ประชาชน และให้แต่ละจังหวัดเข้มงวดตรวจตราเรื่องอาหารและน้ำในตลาด และเพิ่มการประสานข้อมูลในระดับท้องถิ่นให้มีความพร้อมในการรับมือเพิ่มขึ้น รวมถึงประสานในเรื่องของการรักษา ยา เป็นต้น”นพ.ภาสกร กล่าว
นพ.ภาสกร กล่าวด้วยว่า ส่วนโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนเมษายน ได้รับรายงานผู้ป่วยทั้งสิ้น 397,320 ราย ใน 77 จังหวัด เสียชีวิต 38 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2552 และย้อนหลัง 5 ปี พบว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มยังเหมือนเดิม และพบโรคนี้ได้ทั่วประเทศ แต่พบมากในจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคกลาง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจังหวัดที่มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอยู่แล้ว โดยจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 จังหวัดแรก ได้แก่ ฉะเชิงเทรา สมุทรสงคราม ภูเก็ต ตากและนครสวรรค์ นอกจากนี้ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลต่างๆ การจัดงานบุญ งานประเพณี งานสงกรานต์ ซึ่งจะพบเพิ่มขึ้นอีก
นพ.ภาสกร กล่าวต่อว่า ส่วนโรคอาหารเป็นพิษ พบผู้ป่วยทั้งสิ้น 20,491 ราย ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้ว พบมากในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือเช่นกัน โดยมีอาการความรุนแรงต่างๆ กัน เช่น เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่แล้วพบผู้ป่วยที่ จ.ลำปาง อาหารเป็นพิษเนื่องจากการกินหมูป่า ซึ่งทำให้เกิดอาการท้องเสีย และอาการทางประสาท สำหรับโรคบิดพบผู้ป่วย 2,620 ราย โรคไข้เอนเทอริค พบผู้ป่วย 1,047 ราย พบเพิ่มสูงขึ้นในภาคใต้และภาคเหนือ ขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้น ส่วนโรคตับอักเสบเอ พบผู้ป่วย 80 ราย ทั้ง 3 โรค ไม่มีผู้เสียชีวิต มีเพียงโรคไวรัสตับอักเสบเอที่พบผู้ป่วยสูงมากกว่าปีที่แล้วในช่วงเดียวกัน แต่ยังอยู่ในภาวะปกติ ไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด
ขอบคุณนะคะพี่ไก่ ที่คอยเเจ้งข่าว เเล้วก็ยินดีกับน้องเเตมด้วยนะคะที่ติดคณะดีดีใกล้บ้าน สบายเเล้วพี่ไก่ พี่ชาลี
ขอบคุณเรื่องราวดีๆค่ะพี่ประกาย...สบายดีน่ะค่ะพี่
ขอบคุณนะครับ
ที่ให้ความรู้ มีประโยชน์มากครับ
555+ Okava O1
ดูเหมือนว่า..จะมีการดื้อยาด้วยค่ะ
กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ..
ยังใช้ได้ดีค่ะ
สวัสดีคะน้องสาวหมออนามัย
ขอบคุณนะคะที่มาเยี่ยมและแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ
ที่ขอนแก่นยังไม่พบว่าดื้อยาคะ ข้อมูลสองปีที่แล้ว
สวัสดีค่ะพี่ไก่
มาอ่านบันทึกแจ้งข่าวอหิวาห์ อ่านแล้วก็ชวนให้ระวัง ปกติจะปรุงอาหารทานเองบางมื้อ ก็คงระวังมากขึ้นค่ะเวลาซื้ออาหาร
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีคะน้องหนูรี พี่ไก่สบายดี น้ำหนักขึ้นเป็น 60 กก.แล้วคะ ไม่น่าเชื่อ คิดถึงอยู่นะคะ เสียดายเลยไมได้เจอกันที่หาดใหญ่