คอลัมนิสต์คนดังของนิวยอร์กไทม์ชื่อนิโคลัส
คริสทอฟได้จับประเด็นได้อย่างน่าสนใจ
และเมื่อเขาถามเด็กนักศึกษาเวียตนามคนหนึ่งที่สอบได้คะแนนเฉลี่ย 3.99
ตลอดว่าทำไมเด็กเอเชียในอเมริกาจึงมีความเก่งเช่นนี้
คำตอบของเด็กคนนี้น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
เธอตอบว่า “ดิฉันคงพูดแทนเด็กเอเชี่ยนอเมริกันทั้งหมดไม่ได้
แต่สำหรับดิฉันและเพื่อนๆแล้ว
มันเป็นเพราะเราเห็นพ่อแม่ของเราเสียสละเพื่อเรามากมายเหลือเกิน
เราเห็นพ่อแม่ตื่นตีห้าทุกเช้าเพื่อไปทำงานในโรงงานและได้ค่าแรงแค่ชั่วโมงละ
6.30 ดอลล่าร์สหรัฐ
ดิฉันเห็นว่าคนรุ่นดิฉันสามารถทำอะไรได้มากมายในสังคมอเมริกันที่รุ่นพ่อแม่ดิฉันไม่มีโอกาสที่จะทำ...”
นักเขียนมะกันคนนี้บอก “
เด็กเอเชีย”
ที่ว่าเรียนหนังสือเก่งๆ
ที่ว่านี้ไม่ใช้เอเชียทั้งหมด
ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักเรียนที่พ่อแม่มาจากประเทศ
“แถบขงจื้อ”
ซึ่งเขาหมายถึงญี่ปุ่น จีน
เกาหลีใต้ และเวียตนาม
เขาบอกว่าเด็กฟิลิปปินส์เป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุดกลุ่มหนึ่งในอเมริกา
แม้จะไม่ใช่กลุ่มที่สอบได้คะแนนโดดเด่นถึงขั้นเป็น
“ดาว”
แต่ก็เอาตัวรอดไปได้พอสมควร
ถามว่าเป็นเพราะความเป็นผู้อพยพที่ต้องดิ้นรนมากกว่าเจ้าของบ้านหรือเปล่า
?
เขาก็บอกว่าไม่น่าจะใช่
เพราะอย่างเด็กนักเรียนเชื้อสายญี่ปุ่นในอเมริกาซึ่งตอนนี้ก็เป็นรุ่นที่
4 และรุ่นที่ 5 แล้ว
แต่ก็ยังเรียนหนังสือได้เก่งกาจอยู่
หรือเป็นเพราะพื้นภูมิทางครอบครัว ก็ไม่เชิง
เพราะเด็กมะกันเชื้อสายจีนนั้น
หากย้อนกลับไปถึงรากเง้าของปู่ของปู่หรือย่าของย่าแล้ว
ก็เป็นเพียงชาวไร่ชาวนาที่ยากจนในถิ่นกันดารของเมืองจีน
แต่เด็กรุ่นนี้สอบได้เกียรตินิยมหน้าตาเฉยเหมือนกัน
จะบอกว่าเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ก็น่าสงสัยอยู่
เพราะบ่อยครั้งพ่อแม่ปู่ย่าตายายของเด็กที่เรียนเก่งๆ
ในอเมริกาขณะนี้ไม่จำเป็นต้องมีประวัติการเรียนหนังสือที่ปราดเปรื่องแต่อย่างไร
เป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีเด็กอเมริกันเชื้อสายไทยติดอันดับกับเขาเลย
!
จาก : นสพ.คม ชัด ลึก ฉบับวันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2549
ไม่มีความเห็น