เรื่องของหมา


ข้อคิด สะกิดใจ

เรื่องนี้สำหรับอ่านเล่น ๆ แต่มีข้อคิดดี ๆ ไว้ปรับปรุงพฤติกรรมตัวเองในการทำงาน

                เจ้าของร้านขายเนื้อสดคนหนึ่งรู้สึกประหลาดใจที่หมาตัวหนึ่งมาที่ร้าน โดยในปากคาบแบงค์ 10 ดอลลาร์และกระดาษเขียนข้อความว่า “ขอซื้อไส้กรอก 12 ชิ้น กับขาแกะ 1 ขา ครับ"

                เขารู้สึกประทับใจความแสนรู้ของมัน  ดังนั้น หลังจากเก็บเงิน 10 ดอลลาร์และเอาไส้กรอกและขาแกะใส่ถุงแขวนที่ปากให้มันคาบไปแล้ว  เขาจึงตัดสินใจปิดร้านสะกดรอยตามมันไป

                หมาตัวนั้นเดินไปตามถนนถึงทางม้าลาย  มันก็วางถุงที่คาบไว้ลงแล้วยืนด้วยขาหลังและยกขาหน้ากดปุ่มไฟสำหรับคนข้ามถนนแล้วก็คาบถุงต่อ  รอจนไฟคนข้ามเขียวมันจึงข้ามไปยังป้ายรถเมล์อีกฝั่งหนึ่ง  มันจ้องมองตารางเวลาเดินรถแล้วนั่งลงตรงที่นั่งรอ

                สักพักมีรถเมล์คันหนึ่งมา  มันเดินไปดูหมายเลขที่หน้ารถแล้วกลับมานั่งรอต่อ  อีกสักเดี๋ยวก็มีรถเมล์มาอีกคัน  มันเดินไปดูหมายเลขรถอีก  เมื่อเห็นว่าเป็นสายที่มันรออยู่  มันจึงขึ้นรถเมล์คันนั้น  คนขายเนื้อถึงกับอ้าปากค้างทึ่งในความแสนรู้ของมัน  แล้วรีบตามมันขึ้นรถคันนั้นไป

                หลังจากรถวิ่งผ่านกลางเมืองออกไปชานเมือง  เจ้าหมาแสนรู้ก็ลุกจากที่นั่งเดินไปหน้ารถ มันยืนด้วยขาหลังแล้วเอาขาหน้ากดกริ่งบนรถ  เมื่อรถจอดมันก็ลงและเดินไปตามถนนจนถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง  แล้วเลี้ยวเข้าไป  คนขายเนื้อยังสะกดรอยตามมันอยู่ห่าง ๆ เช่นเดิม

                เมื่อมาถึงประตูบ้านที่ปิดอยู่มันก็วางถุงไส้กรอกที่คาบไว้ลง  แล้วถอยหลังมาตั้งหลักประมาณ  2-3 เมตร  จากนั้นก็วิ่งเข้าชนประตู  มันพยายามอยู่ 2-3 ครั้ง แต่ประตูก็ยังไม่เปิดออก  มันเลยเดินอ้อมตัวบ้านไปที่หน้าต่างบานหนึ่งที่ปิดอยู่และเอาหัวโขกที่หน้าต่างหลายครั้ง แล้วก็เดินกลับมารอที่ประตู

                สักพักประตูก็ถูกเปิดออกโดยเจ้าของหมาเป็นผู้ชายหุ่นล่ำบึก  ซึ่งพอเปิดประตูเสร็จเขาก็เริ่มเตะต่อยและตะโกนด่าเจ้าหมาแสนรู้ตัวนั้นทันที

                ถึงตอนนั้นคนขายเนื้ออดทนไม่ไหว  เขารีบเข้าไปห้ามเจ้าของหมา พร้อมกับกับถามว่า “คุณเตะมันทำไมกัน มันเป็นหมาสุดอัจฉริยะเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลย  ถ้าไปออกทีวีรับรองต้องดังแน่”

                เจ้าของหมาตอบสวนมาทันที  “คุณว่ามันฉลาดนักเหรอ”

                “เชอะ!  คุณรู้มั้ยว่านี่เป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์นี้นะที่มันลืมเอากุญแจบ้านติดตัวไปด้วย”

                คติสอนใจจากเรื่องนี้  สอนให้ว่า เราจะทำงานได้ดีเกินความคาดหมายในสายตาผู้อื่น  แต่เราก็ยังทำงานได้ไม่ดีในสายตาของนายเราเสมอ

หมายเลขบันทึก: 356701เขียนเมื่อ 7 พฤษภาคม 2010 15:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)
  • เจอเรื่องหมาแล้วเชื่อมโยงการทำงานได้ด้วย
  • ผมมาบอกว่า
  • เชียร์คนนี้ครับ
  • ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

โห นิทานนี้ ตรงใจ JJ สุดสุดเลยครับ วันนี้ ก็ โดนเตะ ด้วยคำพูด จุกไปเลย ครับ

  • สวัสดีค่ะ 
  • แวะมาเรียนรู้ถึงความน่ารักของน้องหมา และได้คติสอนใจในชีวิตการทำงานด้วยค่ะ
  • ได้นำภาพน้องหมาน่ารัก ๆ มาฝากด้วยค่ะ

                                 

สวัสดีค่ะคุณไข่..คุณหมาน่ารัก..และสัตย์ซื่อ..เป็นข้อคิดที่ดีมากๆค่ะ

สวัสดีค่ะ..คุณวัชรา..

  • ถ้าเป็นเรื่องจริง..ก็อยากจะเตะเจ้าของ..
  • แค่เป็นเรื่องเล่ารู้ว่าไม่จริง..ก็ยังอยากจะเตะเจ้าของอยู่ดี..อิ..อิ..
  • หมาทุกตัวอยากมีเจ้าของเป็นของตัวเอง..ทั้งรู้ว่าเจ้าของโหด..แต่ก็ยังรักและซื่อสัตย์เสมอ..
  • รักษาสุขภาพค่ะ..

สวัสดีคะ

เรื่องนี้สุดยอดจริงๆคะ

แม่นแต้ๆๆๆเจ้า

สวัสดีค่ะคุณไข่มาเยี่ยมค่ะสบายดีนะคะ..ช่วงนี้เวลาว่างไม่ค่อยมีค่ะ..อิอิ

  • สวัสดีค่ะ
  • แวะมาเยี่ยมเยียนกันค่ะ สบายดีนะค่ะ  พร้อมกับมาเชิญชวนไปชม "สุดยอดส้วม...โรงพยาบาลพะโต๊ะ"
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับน้องชาดา ~natadee

ครับใกล้เกลือกินด่าง

อ. ขจิต ฝอยทอง

ขอบคุณมากครับ งานยุ่งไม่ได้เล่น G2K ครับ

คนนี้ก็น่ารักดีครับ

ขอบคุณครับท่านJJ

ถ้าจุกก็ทานน้ำเยอะ ๆ ครับ

โอ้โฮ  ใจร้ายจัง...ยังไม่ถูกใจอีก..ทำให้ซะขนาดนี้แล้ว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท